https://aio.panphol.com/assets/images/community/4412_E67266.png

INVX มอง KBANK กำไร Q1/68 ดีกว่าคาด แต่ยังคงคำแนะนำ NEUTRAL

P/E 9.08 YIELD 6.29 ราคา 191.00 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: KBANK กำไรสุทธิ Q1/68

KBANK รายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 1.38 หมื่นลบ. (+29% QoQ, +2% YoY) สูงกว่าที่ INVX และ consensus คาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักมาจากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ที่มากกว่าคาด

รายละเอียดผลประกอบการ: INVX วิเคราะห์ KBANK

INVX ระบุว่าผลประกอบการ KBANK สะท้อนถึง NPL ที่ไหลเข้าน้อยลงและ credit cost ที่ลดลง สินเชื่อที่หดตัวลง NIM ที่ลดลง non-NII ที่เพิ่มขึ้น (หลักๆ จากกำไร FVTPL) และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง

คุณภาพสินทรัพย์: NPL ลดลง 2% QoQ หากนำยอดตัดหนี้สูญบวกกลับเข้ามา NPL จะเพิ่มขึ้น 4% QoQ ช้ากว่าที่เพิ่มขึ้น 11% ใน 4Q67 credit cost ลดลง 39 bps QoQ (-30 bps YoY) มาอยู่ที่ 1.59% LLR coverage เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 149% จาก 142% ณ 4Q67

การเติบโตของสินเชื่อ: -3% QoQ, -1% YoY แย่กว่าคาด INVX ปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2568 ลดลงจาก 0% มาอยู่ที่ -2%

NIM: -10 bps QoQ (-34 bps YoY) เป็นไปตามคาด และดีกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ INVX คาดว่า NIM จะลดลง 31 bps ในปี 2568 โดยใช้สมมติฐานว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 100 bps มาอยู่ที่ 1.25% ในปี 2568

Non-NII: +10% QoQ (+18% YoY) หลักๆ เกิดจากกำไรจาก FVTPL ที่เพิ่มขึ้น INVX คาดว่า non-NII จะเพิ่มขึ้น 7% ในปี 2568

อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: -675 bps QoQ (-25 bps YoY) มาอยู่ที่ 41.16% ดีกว่าคาด opex ลดลง 13% QoQ (จากปัจจัยฤดูกาล) และ 3% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายควบคุมต้นทุน

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย: INVX คงคำแนะนำ NEUTRAL

INVX คงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ KBANK และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 174 บาท (อิงกับ PBV ปี 2568 ที่ 0.7 เท่า) แม้ราคาหุ้น KBANK ดูเหมือนจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 8.1% แต่ INVX ยังคงกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินเชื่อ SME และ LLR coverage ที่ต่ำกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ข้อควรระวังในการลงทุน KBANK

INVX ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาดเนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวและการแข่งขันสูง และ 3) ความเสี่ยงด้าน ESG จากความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct)

โพสต์ล่าสุด