บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ภาพรวมผลการดำเนินงาน: กำไรลดลง

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ 1,062 ล้านบาท ลดลง 29.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนที่ส่งผลต่อการเติบโตของสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย แม้กำไรจะลดลง แต่ธนาคารยังคงเน้นความรอบคอบในการตั้งสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

รายได้และกำไร: ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมลดลง

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 4,446 ล้านบาท ลดลง 15.4% จากปีก่อน เนื่องจากการชะลอตัวของสินเชื่อและนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ย รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1,507 ล้านบาท ลดลง 4.6% แม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจะเพิ่มขึ้น 16.4% จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและธุรกิจจัดการกองทุน แต่ก็ไม่สามารถชดเชยการลดลงของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินได้ ทำให้รวมรายได้จากการดำเนินงานลดลง 12.9% กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 1.28 บาท ลดลง 28.1%

สินเชื่อและคุณภาพสินเชื่อ: คุมเข้ม NPL

สินเชื่อรวมอยู่ที่ 362,301 ล้านบาท หดตัว 1.4% จากสิ้นปี 2567 เนื่องจากธนาคารระมัดระวังการเติบโตของสินเชื่อภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเน้นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมและมีคุณภาพดี NPL อยู่ที่ 15,859 ล้านบาท คิดเป็น 4.4% ของสินเชื่อรวม แสดงให้เห็นว่าธนาคารยังคงสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดี ผลขาดทุนด้านเครดิตอยู่ที่ 1,104 ล้านบาท คิดเป็น 1.97% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า Coverage Ratio อยู่ที่ 131.0% แสดงถึงความแข็งแกร่งในการรองรับความเสี่ยงด้านเครดิต

สรุป: พร้อมรับมือความท้าทาย

KKP ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและการแข่งขันที่สูงในตลาดการเงิน แต่ธนาคารมีความแข็งแกร่งในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากนี้ KKP ยังสามารถบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อและการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี การให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต NIM อยู่ที่ 4.6% ในไตรมาสนี้ ลดลงจากปีก่อนหน้า