https://aio.panphol.com/assets/images/community/4130_BDA974.png

Krungsri Securities ปรับลดราคาเป้าหมาย OKJ เหลือ 12 บาท แต่ยังคงแนะนำ "ซื้อ" มองเป็นหุ้นเติบโต

P/E 17.43 YIELD 3.88 ราคา 4.12 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: ปรับลดราคาเป้าหมาย แต่ยังคงมุมมองเชิงบวก

Krungsri Securities (KSS) ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น OKJ (บริษัท ปลูกผัก เพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน)) แม้จะปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 12 บาท (จากเดิม 17 บาท) โดยมองว่าเป็นหุ้นเติบโตในกลุ่มร้านอาหารที่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรที่ +33% YoY ในปี 2025F และอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 17% (CAGR 2 ปีจาก 2025-2027F)

เหตุผลในการคงคำแนะนำ "ซื้อ"

ถึงแม้ผลประกอบการ 4Q24 จะต่ำกว่าคาด แต่ KSS มองว่าราคาหุ้น OKJ ที่ปรับตัวลดลงได้สะท้อนความผิดหวังดังกล่าวไปแล้ว ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ระดับ 22x PER ด้วย PEG ที่ 0.6x เท่านั้น KSS คาดว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/25F และการเติบโตของกำไรที่คาดการณ์ในปี 2025F จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น

ประเด็นจากการประชุมนักวิเคราะห์มีทั้งด้านบวกและด้านลบ ด้านบวกคือการกลับมาเติบโตของ SSSG ที่ +3% ในเดือนมกราคม (เพิ่มขึ้นจาก -1% ใน 4Q24) และการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรสุทธิจาก 5.7% ใน 4Q24 เป็นระดับใกล้เคียง 9.3% ใน 9M24 ซึ่งเป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับแผนการขยายสาขาใหม่ โดย Ohkajhu มีเป้าหมายขยาย +5-7 สาขา เป็น 42 สาขา (ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ 44 สาขา) ในขณะที่ Oh!Juice วางแผนเพิ่ม +8-11 สาขา รวมเป็น 25 สาขา (มีการจองพื้นที่แล้ว ลดลงจากเป้าหมายเดิม 35 สาขา) นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในเดือนเมษายน

ประมาณการและการประเมินมูลค่า

KSS ได้ปรับประมาณการลงให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท โดยคาดการณ์การเติบโตที่ 17% ต่อปี (2025-27F) จาก (i) การเติบโตของรายได้ 16% ต่อปีจากการเพิ่มสาขาใหม่ +5 สาขาเป็น 42 สาขาสำหรับ Ohkajhu และ +8 สาขาเป็น 23 สาขาสำหรับ Oh!Juice ในปี 25F (สาขารวมจาก 57 สาขาในปี 2024 เป็น 97 สาขาปี 2027F) ในขณะที่คาด SSSG ที่ทรงตัวซึ่งระมัดระวังมากยิ่งขึ้นเนื่องจากคาดว่าอาจมีผลกระทบจากการแย่งยอดขายของสาขาใหม่ (ii) อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเหลือ 44.8% สะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นจากการขยายสาขา และคาด SG&A/Sales เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้นของ Oh!Juice (ซึ่งแบ่งรายได้กับเจ้าของพื้นที่) KSS คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 8.9-9% ในปี 2025-26F

จากการปรับประมาณการ KSS ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12 บาท (จากเดิม 17 บาท) อิงจากการประเมินมูลค่าแบบ DCF (WACC 8.4%, Terminal growth 1%)

ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา

KSS ระบุถึงความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ (i) ความผันผวนของอุปทานและราคาวัตถุดิบสด ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดแคลนและแรงกดดันต่ออัตรากำไร (ii) การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมอาหาร และ (iii) พฤติกรรมผู้บริโภคและสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์

โพสต์ล่าสุด