https://aio.panphol.com/assets/images/community/4102_a8b9dc.png

KKP กำไรปี 2568-69 ฟื้นตัวช้า! เหตุหนี้เสียรถยึดยังสูง FSSIA คงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมายใหม่ 55.50 บาท

P/E 8.80 YIELD 7.53 ราคา 53.50 (-0.93%)


ไฮไลท์สำคัญ:

FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิของ KKP ในปี 2568 จะฟื้นตัวไม่เต็มที่ จากผลขาดทุนที่ยังสูงจากการยึดรถยนต์มูลค่า 4.4 พันล้านบาท มองว่าราคาขายรถยนต์มือสองจะไม่ฟื้นตัวดีนัก เนื่องจากอุปทานสูงและความต้องการซื้ออ่อนแอ คงคำแนะนำ "ถือ" (HOLD) พร้อมปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 55.50 บาท

ผลกระทบจากรถยึดและแนวโน้มสินเชื่อ:

FSSIA คาดการณ์ผลขาดทุนจากการยึดรถยนต์ของ KKP จะอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาทในปี 2568 และ 3.9 พันล้านบาทในปี 2569 ซึ่งยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 2 พันล้านบาทต่อปี แม้ว่าจำนวนรถยนต์ที่ขายได้จะลดลงและราคาขายรถยนต์มือสองจะปรับตัวดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ผลขาดทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ FSSIA ยังมองว่าการฟื้นตัวของตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จะเป็นไปในลักษณะ L-shaped เนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอและหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่สูงถึง 89% ทำให้ KKP ยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อโดยรวมของธนาคารในปี 2568 จะอยู่ที่ 1.0% ซึ่งมาจากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบคัดเลือก

อุปทานรถยึดในตลาดและราคาขายรถมือสอง:

FSSIA คาดการณ์ว่าอู่ประมูลรถยนต์รายใหญ่จะยังคงมีรถยนต์ที่ถูกยึดเข้ามาในระบบประมาณ 300,000 คันในปี 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงยังไม่ชัดเจนและยังไม่กลับสู่ระดับปกติที่ 200,000-250,000 คันต่อปี ด้วยอุปทานที่ยังคงสูงและความต้องการซื้อรถยนต์มือสองที่ไม่แน่นอน FSSIA จึงไม่คาดหวังว่าราคาขายรถยนต์มือสองจะฟื้นตัวได้ดีนักในปี 2568 โดยประมาณการ Credit Cost รวมกับผลขาดทุนจากรถยนต์ที่ถูกยึดจะอยู่ที่ 2.25% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ KKP ที่ 2.2-2.4% และต่ำกว่าระดับ 2.30% ในปี 2567 เล็กน้อย

ปรับประมาณการและราคาเป้าหมาย:

FSSIA ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2568-69 ของ KKP ใหม่ โดยสะท้อนผลขาดทุนที่ยังสูงจากการยึดรถยนต์ ซึ่งถูกชดเชยด้วยรายได้ที่สูงขึ้นจากธุรกิจตลาดทุนของ KKP หลังจากการปรับประมาณการ FSSIA ได้ปรับราคาเป้าหมายปี 2568 ขึ้นเป็น 55.50 บาท (จาก 50.30 บาท) โดยอิงจาก GGM (Gordon Growth Model) ที่มี ROE ที่สูงขึ้นเป็น 7.5% (จาก 7% ก่อนหน้า) ราคาเป้าหมายใหม่นี้คิดเป็น 0.72 เท่าของ P/BV ปี 2568 (COE ที่ 10.0%, ROE ที่ 7.5%) อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ KKP โดย Nathapol Pongsukcharoenkul จะเป็นผู้รับผิดชอบในการวิเคราะห์ KKP ต่อจากนี้ไป

โพสต์ล่าสุด