FSSIA ปรับลดคำแนะนำ TTB เป็น "ถือ" (HOLD) ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 2.05 บาท

P/E 9.16 YIELD 6.73 ราคา 1.98 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ

FSSIA ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้น TTB จาก "ซื้อ" เป็น "ถือ" พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 2.05 บาท มองว่ากำไรสุทธิปี 2568-2569 จะทรงตัวอยู่ที่ 21.8-21.9 พันล้านบาท แม้จะมีผลบวกจากอัตราภาษีที่ลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่ลดลง

เหตุผลในการปรับลดคำแนะนำ

FSSIA คาดการณ์ว่า TTB จะมีกำไรสุทธิปี 2568-2569 อยู่ที่ประมาณ 21.8-21.9 พันล้านบาท ซึ่งหมายถึงการเติบโตของกำไรสุทธิที่ทรงตัว สาเหตุหลักมาจากการหดตัวของสินเชื่อ 10.6% ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2568 ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง แม้ว่าธนาคารจะสามารถควบคุมอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ได้ก็ตาม นอกจากนี้ FSSIA ยังมองว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ TTB อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายเครดิต (credit cost) จะอยู่ที่ 137 bps ในปี 2568 อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ทางภาษี (10.6 พันล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนกำไรสุทธิของธนาคาร โดย FSSIA คาดการณ์อัตราภาษี -5% และคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์ทางภาษีนี้ไปจนถึงปี 2570

ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องติดตาม

FSSIA มองว่าการจัดการด้านเงินทุนของ TTB เป็นไปในทิศทางที่ดี ทั้งอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงถึง 60% และโครงการซื้อหุ้นคืน (treasury stock program) ระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะช่วยเพิ่ม DPS และ ROE อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์กำไรสุทธิที่ทรงตัวที่ 22 พันล้านบาทในปี 2568-2569 และการปรับปรุงเล็กน้อยเป็น 22.8 พันล้านบาทในปี 2570 FSSIA คาดว่า ROE ของ TTB จะอยู่ที่ประมาณ 8.7-9.0% ในปี 2568-2570 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9.4-9.9%

สรุปและราคาเป้าหมาย

FSSIA ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลง 6-15% เนื่องจาก 1) รายได้ดอกเบี้ยที่ลดลงจากการหดตัวของสินเชื่อ และ 2) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของ OPEX แต่มีฐานรายได้ที่ต่ำลง หลังจากการปรับประมาณการกำไรและลดการคาดการณ์ ROE FSSIA ได้ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568 โดยอิงจาก GGM ลงเหลือ 2.05 บาท (จาก 2.52 บาทก่อนหน้านี้) ซึ่งคิดเป็น 0.8 เท่าของ P/BV ปี 2568 (COE ที่ 10.0%, ROE ที่ 8.4%) ดังนั้น FSSIA จึงปรับลดคำแนะนำ TTB ลงเป็น "ถือ"

โพสต์ล่าสุด