บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
WINMED สรุปผลประกอบการปี 2567 เล็งขยายตลาดด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์และ AI พร้อมตั้งเป้าเติบโต 15% ในปี 2568
P/E 18.00 YIELD 2.45 ราคา 1.01 (0.00%)
WINMED สรุปผลประกอบการปี 2567 เล็งขยายตลาดด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์และ AI พร้อมตั้งเป้าเติบโต 15% ในปี 2568
ขอต้อนรับท่านนักลงทุนและสื่อมวลชนทุกท่านเข้าสู่งาน Oppday ของบริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องและชุดอุปกรณ์สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ โดยในวันนี้บริษัทจะนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา และแผนธุรกิจสำหรับปี 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
บริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงานเท่ากับ 654 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 อยู่ 15.18 ล้านบาท หรือ 2.37% ต้นทุนขายปี 2567 ปิดที่ 386 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1.4% กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 268.27 ล้านบาท หรือ 41% ต้นทุนการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 113.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานอยู่ที่ 130.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.26 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นในส่วนของการขยายงานของทีมขาย ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบต่างๆ และการสรรหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29.26 ล้านบาท หรือ 4.46%
รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 654.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 15.18 ล้านบาท รายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ปิดอยู่ที่ 635.6 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 43.14 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบริษัทของสินค้ากลุ่มนี้ รายได้กลุ่มเครื่องกำจัดยุงและแมลงดูดเลือดมีรายได้รวมอยู่ที่ 18.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.41 ล้านบาท เนื่องจากการปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มยอดขายผ่านการใช้สื่อออนไลน์และจัดกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ในทุกๆ แพลตฟอร์ม ทำให้ขยายฐานลูกค้าและส่งผลให้รายได้ของกลุ่มสินค้าของเครื่องกำจัดยุงและแมลงดูดเลือดเพิ่มสูงขึ้น รายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 11.43 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากกำไรจากการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ในปี 2567 บริษัทไม่มีรายได้จากการจำหน่าย ATK เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มียอดอยู่ 33.29 ล้านบาท และไม่มีเงินปันผลจากบริษัทที่ถือหุ้นอยู่คือ Prolab เมื่อเทียบกับปี 2566
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
บริษัทมีแผนการเติบโตโดยมุ่งเน้นไปที่:
- ขยายตลาดเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
- เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องกำจัดยุงและแมลงดูดเลือดผ่านช่องทางออนไลน์
- ร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำในการเปิดหน่วยรับบริจาคโลหิตและเกล็ดโลหิต
- ขยายโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมกับ อปท. ทั่วประเทศ
- ใช้เทคโนโลยี AI ในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงหลักคือการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยของโลหิต (BSM) รวมถึงการปรับขึ้นราคาของ Supplier ซึ่งส่งผลให้รายได้ในการขายของสินค้ากลุ่มนี้ลดลง นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขยายทีมขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมีแผนการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:
- ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มยอดขาย
- ควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ
- ขยายตลาดและหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต
- ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายฐานลูกค้าและช่องทางการจัดจำหน่าย
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2568 เติบโต 15% หรือประมาณ 750 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเพิ่มจากโครงการต่างๆ ที่วางแผนไว้ รวมถึงการส่งมอบเครื่อง Clinimacology ให้กับหน่วยงานภาครัฐเพื่อใช้ในการรักษาโรคธารัสซีเมียด้วยยีนบำบัด บริษัทคาดการณ์ว่าเทรนด์การรักษาด้วยเซลล์และยีนบำบัดในกลุ่มนี้จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตตามแผน
จากสถิติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 มีจำนวนผู้หญิง 32 ล้านคน โดยมีผู้หญิงที่อยู่ในเกณฑ์อายุเฉลี่ย 30-59 ปี จำนวน 15 ล้านคน ซึ่งเป็นสตรีกลุ่มเป้าหมายในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แต่มีสตรีกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจคัดกรองเพียง 29% เท่านั้น ดังนั้น บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะขยายและติดต่อ อปท. เขตพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยให้สตรีสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกบริการ
บริษัทได้เปิดตัวกล้อง AI Copo เป็นรายแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์ก็สามารถใช้ได้ เนื่องจากมีความแม่นยำและมีภาพที่คมชัด กล้อง AI ของบริษัทได้ติดตั้งในรถพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเรียบร้อยแล้ว และได้ออกหน่วยตรวจให้แก่งานกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ถึง 9 มีนาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบัน บริษัทได้ร่วมมือกับทาง CPower เป็นพันธมิตรในการให้บริการตรวจมะเร็งเต้านมและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแก่พนักงาน โดยได้ออกหน่วยให้บริการตรวจที่ CPower สำนักงานใหญ่และสาขาย่อยเป็นจำนวน 6 วัน โดยมีผู้เข้ารับการตรวจมากกว่า 300 ราย นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเจรจากับอีกหลายๆ บริษัท เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการต่อไป
บริษัทขอประชาสัมพันธ์โครงการพิเศษให้กับนักลงทุน สื่อมวลชน และนักวิเคราะห์ สามารถเข้าตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเทอร์โมแกรม AI ได้ฟรี จำนวน 1,000 สิทธิ์ โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 17-21 มีนาคมนี้ บริษัทจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์ตั้งแต่ 25 มีนาคมเป็นต้นไปบนเว็บไซต์ของบริษัท และเริ่มเปิดจองวันรับการตรวจตั้งแต่ 1-10 เมษายน และจะให้บริการตรวจมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนถึง 30 พฤษภาคม
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้นที่นาที 26:32
ถาม: ในกรณีที่ผู้ใช้บริการตรวจคัดกรองแล้วพบความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเต้านม ทาง WINMED เองมีบริการหรือความช่วยเหลือส่งต่ออย่างไรบ้าง
ตอบ: ปัจจุบัน WINMED มีพาร์ทเนอร์อยู่ทั่วประเทศสำหรับมะเร็งปากมดลูก สามารถ Refer ได้หากผู้ป่วยต้องการ และมี Protocol ในการตรวจ หากตรวจ HPV+ ก็ต้องไปตรวจ Colposcopy ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยประมาณ 100 กว่าคน WINMED มี Colposcopy ที่เป็น AI ที่สามารถมาช่วยตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ในการส่งต่อ WINMED มี Line up อยู่กับโรงพยาบาลหลายโรงพยาบาล ปีนี้คาดว่าจะทำได้ประมาณ 80 โรงที่จะร่วมมือด้วย ในส่วนของเต้านม WINMED เริ่มติดต่อกับโรงพยาบาลเครือข่ายต่างๆ แต่ยังไม่ได้ Launch โปรแกรมอย่างเป็นทางการ Protocol ปัจจุบันคือ Mammogram และ Ultrasound หากจะรักษาต่อ แพทย์ต้องอนุมัติให้คนไข้ตรวจ Mammogram และ Ultrasound ก่อน ถ้า Confirm จากตรงนั้นถึงจะไปรับการรักษาต่อได้ ตอนนี้ WINMED จะทำยังไงให้อินทิเกรตทั้งหมดมาจนถึงว่าส่งต่อไปให้คนไข้รักษาได้เลย คาดว่าจะ Launch ได้ภายใน Q3 นี้ ปัจจุบันกำลังสะสมเคสในประเทศไทยของคนไทย เทคโนโลยีนี้มีการตรวจไปในโลกนี้ประมาณล้านกว่าคนแล้ว เพียงแต่เป็นนวัตกรรมใหม่ในประเทศไทย WINMED อยากจะพิสูจน์ให้คนไทยเห็น แพทย์ในประเทศไทยเห็น Consumer ในประเทศไทยเห็นว่าทำกับคนไทยแล้วได้ผลจริงๆ
ถาม: คลังโลหิตของโรงพยาบาลรามาเกิดเหตุไฟไหม้ มีผลกระทบต่อ WINMED อย่างไรบ้าง
ตอบ: WINMED กับรามามีความร่วมมือกันอยู่แล้ว วันนี้ถ้าอยากจะช่วยรามา สามารถไปบริจาคโลหิตที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ เพราะตอนนี้ทีมของ WINMED และทีมของรามาออกหน่วยอยู่ที่นั่น WINMED ขอขอบคุณทางกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้ความอนุเคราะห์สถานที่ให้กับโรงพยาบาลรามาด้วย เหตุเพลิงไหม้ทำให้ตึกธนาคารโลหิตต้อง Shutdown ทั้งแผนก ทำให้เลือดทั้งหมดไฟฟ้าต้องดับ ทำให้เลือดทั้งหมดต้องทิ้ง ปัจจุบัน WINMED มีส่วนร่วมในการที่จะไปช่วยกันรณรงค์ที่จะหาโลหิตให้กับรามา ซึ่งไม่ใช่เป็นของใหม่ เป็นกิจกรรมที่ WINMED ทำมาต่อเนื่องอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้อาจจะต้องถี่นิดนึง
ถาม: โครงการ Mobile Bat ของ WINMED นอกจากให้บริจาคเกล็ดเลือดแล้ว มีโอกาสที่จะเป็นเลือดแดงด้วยหรือไม่ และมีแผนเพิ่มจำนวนหน่วยหรือไม่
ตอบ: ปัจจุบัน WINMED ช่วยทั้งเกล็ดโลหิตและเลือดแดง เพียงแต่เกล็ดโลหิตเป็นผลิตภัณฑ์ของ WINMED เอง ที่นำไปใช้กับเครื่องด้วย ของเลือดแดงปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนจดทะเบียนถุงของ WINMED เอง คาดว่าจะนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยได้โดย อย. อนุมัติมา ซึ่งขั้นตอนใช้เวลานานพอสมควร ประมาณเกือบปี WINMED ได้จดทะเบียนมาแล้ว ในปี 2568 เข้าใจว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 3-5 หน่วย ในแผน ต้องดูว่าจะกระจายหน่วยยังไง เพราะความต้องการมีค่อนข้างเยอะ แต่ต้องเพิ่ม Asset เพิ่มคน ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่เป็น Leading Expense ที่เกิดขึ้นก่อน แล้วก็ Build รายได้ตามหลัง
ถาม: ค่าเงินบาทที่ค่อนข้างแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ และในปีที่แล้วค่าดอลลาร์อ่อนลง มีผลต่อเงินบาท มีผลต่อต้นทุนในปีนี้เท่าไหร่
ตอบ: ค่าเงินบาททำให้กระทบตัวต้นทุนที่ผ่านมา มีต้นทุนเพิ่มขึ้นอยู่ประมาณ 3.87 ล้านบาท
ถาม: โครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมกับ อปท. ในปี 2568 มีแผนลงนามเพิ่มกี่จังหวัด
ตอบ: น่าจะระหว่าง 5-10 จังหวัด ปีที่ผ่านมาก็ทำอยู่ประมาณนี้ 5-10 จังหวัด ปีนี้ก็น่าจะขยายต่อได้อีกประมาณ 5-10 จังหวัดเช่นเดียวกัน
ถาม: และมีแผนร่วมกับเอกชนไหมคะในปีนี้
ตอบ: มี ปัจจุบันก็ทำกับเอกชนด้วย มีโรงงานที่ทำอยู่ กำลังดำเนินอยู่ รวมถึงบริษัทชั้นนำหลายบริษัทที่ WINMED Co-อยู่ด้วย
ถาม: ปี 2568 ผู้บริหารตั้งเป้าเติบโตอย่างไรบ้าง และเติบโตจากผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไร
ตอบ: ปีนี้ WINMED ได้เข้ามาแก้ไขเพื่อที่จะชดเชย ยอดก็จะ Return กลับมา นอกจากนั้นที่น่าตื่นเต้นก็คือใช้เวลา 2 ปีในการจดทะเบียนสินค้า เกี่ยวข้องกับ HIV ซึ่งจะใช้เวลาค่อนข้างนานมาก มากกว่ากอ ไก่ยาวๆ จดทะเบียนเสร็จแล้ว ตอนนี้ทีมงานกำลังรับการอบรม เข้าใจว่าจะเริ่มทำการตลาดได้ใน Q2 นี้ ยอดตรงนั้นก็จะมาชช่วยชดเชยและมาเสริมด้วย กับสินค้าต่างๆ นานา ถ้าตามงบประมาณของรัฐบาล เริ่มทำการตลาดวันนี้ ก็เริ่มขายได้ก็คือตุลาคมเป็นต้นไปWINMED ขอให้นักลงทุนเข้าใจ Cycle ของราชการนิดนึง แต่ว่าถ้าดูแล้วก็มีโอกาสค่อนข้างดีในการขยายธุรกิจทางด้านนี้ นอกจากนั้น WINMED ได้มี Partner ทางด้านจากประเทศใกล้บ้านเราหลายประเทศที่ WINMED เอาสินค้ามานำจดทะเบียนเช่นเดียวกัน ช้านานเหมือนกันเพราะ HIV เช่นเดียวกัน ก็ก็จะมีการทำการตลาดเช่นเดียวกัน เริ่ม Q2 นี้เหมือนกัน
ถาม: แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง Q1 จะเป็นอย่างไรคะ
ตอบ: แนวโน้มก็ยังเป็นไปตามแผน
ถาม: อยากทราบว่าแนวโน้มธุรกิจนวัตกรรมและอุปกรณ์การแพทย์ เทรนด์ในปัจจุบันเป็นอย่างไร ตลาดในประเทศและต่างประเทศมีการเติบโตอยู่หรือไม่
ตอบ: เติบโตต่อเนื่อง ตราบใดที่มีการเกิดแก่เจ็บตาย ก็ต้องมีการมี Demand ในการในการรักษา แต่เพียงแต่ปัจจุบันนี้และในอนาคต ทุกท่านก็คงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ AI AI ก็จะมีบทบาทมากขึ้นและมากขึ้น ซึ่งมีการ Study หลายๆ ครั้งว่าถึงแม้ AI เขาเรียกว่าจะ Hallucinate หรือว่าจินตนาการ แต่ว่า AI เนี่ยก็สามารถที่จะวิเคราะห์โรคได้ค่อนข้างค่อนข้างดี ดีกว่ามนุษย์ ซึ่งหลาย ซึ่งเทรนด์ในอนาคตก็คือว่าทางแพทย์เนี่ยก็จะเป็นผู้ที่ใช้ AI ในการในการช่วยวินิจฉัย และหรือในอนาคตอาจจะเป็นผ่าตัดด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ว่าก็ก็เทรนด์ก็ก็ค่อนข้างดี ซึ่ง WINMED เองก็มีโครงการ AI ปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 โครงการ ที่เกี่ยวข้องกับ AI มี 2 โครงการที่พูดไปแล้วกับคุณราชันพูดไปแล้ว แล้วก็ยังมีโครงการอื่นๆ ที่กำลัง On Board อีก จริงๆ มากกว่า 3 ก็ก็อันนี้ก็ก็เป็นเทรนด์ของ Industry ในอนาคต
ถาม: สำหรับโครงการ WINMED Care ในปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมกับให้บริการกับพันธมิตรรายใดบ้าง และแนวโน้ม WINMED Care ในปีนี้เป็นอย่างไร
ตอบ: WINMED Care ก็ไปเรื่อยๆ จริงๆ WINMED Care ขึ้นอยู่กับสินค้า ปัจจุบัน WINMED Care นี่เป็น Brand Name WINMED สร้างขึ้นมา WINMED จะขยายขยาย Port ของ WINMED Care เนี่ย เป็นสินค้าต่างๆ มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ก็อยู่ในขั้นตอนการจดทะเบียนด้วยบ้าง สินค้าสรรหาสินค้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาใช้ Brand ของ WINMED Care ด้วย มันเป็นสินค้าที่คิดว่าน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ทีเดียว เพราะว่ามันเป็นสินค้าเป็น Brand
โดยสรุป WINMED มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นในปี 2567 และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจนสำหรับปี 2568 โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การใช้เทคโนโลยี AI และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงด้านการแข่งขันและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่มีแผนการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบที่ชัดเจน ผู้บริหารของ WINMED มีความมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนในระยะยาว
ชื่อหัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป
- บริการช่วยเหลือผู้ป่วยที่พบความเสี่ยง: ส่งต่อด้วยพาร์ทเนอร์และ Colposcopy AI
- ผลกระทบจากเหตุไฟไหม้โรงพยาบาลรามา: ร่วมรณรงค์บริจาคโลหิต
- แผน Mobile Bat: เพิ่มเลือดแดงและจำนวนหน่วย
- ผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า: ต้นทุนเพิ่ม 3.87 ล้านบาท
- แผนลงนาม อปท.: 5-10 จังหวัด และร่วมมือเอกชน
- เป้าหมายปี 68: เติบโตจากสินค้าใหม่และเทคโนโลยี
- แนวโน้ม Q1: เป็นไปตามแผน
- เทรนด์นวัตกรรม: AI และอุปกรณ์การแพทย์เติบโตต่อเนื่อง
- WINMED Care: ขยาย Port และเป็น Brand Name