ไขความลับ PCE หุ้นปาล์มน้ำมันครบวงจร โอกาสและความท้าทายปี 2567

P/E 13.08 YIELD 6.52 ราคา 2.30 (0.00%)

ไขความลับ PCE หุ้นปาล์มน้ำมันครบวงจร โอกาสและความท้าทายปี 2567

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

PCE เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มด้วยมาตรฐานคุณภาพและบริการครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีโรงสกัด ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น น้ำมันพืช ไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ โรงสกัดเป็นจุดเริ่มต้นของต้นน้ำ และมีการเทรดดิ้งผ่านบริษัท ปาโก้ เทรดดิ้ง มี Warehouse และ Tank Storage ดำเนินการภายใต้ PK Marine Trading ขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ ภายใต้ PC Marine และ เพชรศรีวิชัย

PCE เป็นผู้นำการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศ มีกำลังการผลิตไบโอดีเซลเป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีความรวดเร็วในการปรับตัวเนื่องจากผู้บริหารมีประสบการณ์กว่า 40 ปี มี Service ในการ Support Supply chain มีรถขนส่งทั่วประเทศกว่า 30 เขต มี 5 พอร์ตหลักในการจัดส่งออกและขนส่งภายในประเทศ กลุ่มลูกค้าหลักแข็งแรงและมี Order เข้ามาต่อเนื่อง

โรงงานผลิตทั้งหมดอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท New Biodiesel มี 7 Plant ได้แก่ โรงสกัด 1 Plant, โรง Refine 2 Plant, โรงไบโอดีเซล 3 Plant, โรงผลิตน้ำมันโอเลอีน 1 Plant และโรงไฟฟ้า 3 MW นอกจากนี้ยังมี Trading ภายใต้บริษัท ปาโก้ เทรดดิ้ง รายได้หลัก 99% มาจากการขายน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดย 53% มาจาก New Biodiesel และ 47% มาจาก ปาโก้ เทรดดิ้ง โครงสร้างรายได้ 33% เป็นการส่งออก และ 67% เป็นการขายในประเทศ

PCE มี Supply chain ทั้งหมด 8 ขั้นตอน และดำเนินการตั้งแต่ข้อ 2 ถึง 8 โดยไม่มีส่วนของปาล์ม Plantation ในแต่ละจังหวะมีการ Optimize การบริหารจัดการต้นทุน และบริหาร Yield ให้ได้ Maximum

ในปี 2567 รายได้ปิดจบที่ 27,465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากปีก่อน EBITDA อยู่ที่ 1,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.3% Net Profit อยู่ที่ 630 ล้านบาท เติบโต 90.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ 331 ล้านบาท Volume ของ Product หลักๆ มีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยเฉพาะไบโอดีเซล การส่งออกอยู่ที่ 33% และขายในประเทศ 67% การ Export ลดลงในไตรมาส 4 เนื่องจากช่วยสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการลดการส่งออกและดูแลราคาในประเทศให้เพียงพอ

รายได้หลักมาจากน้ำมันปาล์มดิบ 13,346 ล้านบาท (49%), ไบโอดีเซล 4,536 ล้านบาท, น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ 4,142 ล้านบาท (15%) ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบในการผลิตต่อ เช่น น้ำมันพืช ไบโอดีเซล กลีเซอรีน และ Pre-fat

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

ปี 2568 PCE ยังมุ่งเน้นไปที่ Market Expansion ในตลาดใหม่ๆ, Margin Enhancement โดยเพิ่ม Gross Profit Margin ใน Product ที่ได้ High Margin มากขึ้น, บริหารจัดการต้นทุนและสินค้าคงเหลือ และค้นหา New Product ด้วยทีม R&D รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในอนาคต

การเติบโตมาจาก Gross Profit ที่เติบโตจากการบริหารจัดการต้นทุน, การผลิต, และสินค้าคงเหลือ GP เติบโตขึ้น EBITDA ก็เติบโตขึ้นตามจากอัตราเดิม 2.6% ขยับมาอยู่ที่ 3.6% และ Net Profit จาก 1.3% ก็เติบโตขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2.3% ปิดจบอยู่ที่ 630 ล้านบาท เติบโตทั้งด้าน Volume, ราคา, และ Margin

PCE วางแผนที่จะขยายกำลังการผลิต และ Secure Raw Material ให้มากขึ้น โดยตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ Ocean Palm Company Limited เพื่อเป็นโรงสกัด และปรับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ "รินทร์ทิพย์" ให้ทันสมัยขึ้น รวมถึงขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใน Modern Trade มากขึ้น

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

ตลาดน้ำมันปาล์มในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้ปริมาณน้ำฝนไม่แน่นอน ส่งผลให้ผลผลิตใน Q4 ขาดแคลน ตลาดโลกมีการแข่งขันจากอินโดนีเซียและมาเลเซียที่มีการกำหนดภาษีการส่งออก

ผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของ Donald Trump ส่งผลต่อราคาน้ำมันปาล์ม ทำให้ราคาสินค้าในอเมริกาอาจสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจเป็นโอกาสสำหรับน้ำมันปาล์มที่เป็นส่วนผสมที่ดีและต้นทุนถูกที่สุดในโลก

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

PCE มีการบริหารจัดการความเสี่ยงเรื่องทิศทางค่าเงิน โดยใช้ Forward ต่างๆ ในการปิดความเสี่ยงและลดผลกระทบจากการผันผวนของค่าเงิน

PCE มีการสนับสนุนโครงการน้ำมันราคาประหยัด ร่วมกับ DIT โดยตั้งราคาขายไม่เกิน 50 บาท และให้ความร่วมมือในการสนับสนุนน้ำมันราคาประหยัดประมาณ 100,000-200,000 ลัง

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

ตลาดน้ำมันปาล์มทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 5-6% ต่อปี อินเดียเป็น Major Player หลัก และปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นทุกปี PCE มองเห็นถึงโอกาสในการเป็น Carbon Neutral และพยายามสร้างความยั่งยืนให้กับ PCE, น้ำมันปาล์ม, และชาวสวน โดยมีเป้าหมายที่จะเป็น Carbon Neutral และส่งเสริม Bio-complex ที่มีการหมุนเวียน Waste กลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด เช่น กะลาปาล์ม และน้ำมันพืชใช้แล้ว

PCE มุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อยอดปาล์มไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น โดยการหาตลาดและ Channel ในการส่งออกที่มากขึ้น พัฒนาจุดแข็งด้าน Logistics และ Warehouse และสร้างความมั่นใจว่า PCE มีศักยภาพในการแข่งขันกับต่างประเทศได้

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** [01:04:01] * **อัพเดทสถานการณ์ใช้เงิน IPO** * **คำถาม:** อยากให้ช่วยอัปเดตสถานการณ์ใช้เงิน IPO ว่าการขยาย Plant ตามที่ได้เสนอใน Opportunity Day ไตรมาส 3 ปี 67 อยู่ในขั้นตอนไหนบ้าง สร้างโรงงานแล้วเสร็จกี่เปอร์เซ็นต์ * **คำตอบ:** การใช้เงินลงทุนเป็นไปตามแผน มี 3 เฟส คือ ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ขยายกำลังการผลิต และใช้หมุนเวียนลดต้นทุน เฟสแรก พิจารณา Deal ต่างๆ และโอกาสกับ Partner ยังคง Moving Forward และแสวงหาโอกาสอยู่ หากชัดเจนจะแจ้งใน Opportunity Day รอบถัดไป เฟสสอง มุ่งขยายกำลังการผลิตทุกภาคส่วน คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4 ปีนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และคาดว่า Volume การผลิตจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 เฟสสุดท้าย ใช้เป็น Working Cap ในการหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือที่ใช้ในการเทรดดิ้ง * **แนวคิดขยายกิจการผ่าน M&A หรือพันธมิตร** * **คำถาม:** จากภาพรวมธุรกิจที่ครบวงจร มีแนวคิดที่จะขยายกิจการผ่านการควบรวมกิจการ M&A หรือเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์กับบริษัทอื่นหรือไม่ หากมีบริษัทมองไปในอุตสาหกรรมใด และอยากให้ช่วยเล่าทิศทางของบริษัท * **คำตอบ:** ปาล์มอยู่ในทุก Sector มุ่งเป้าไปที่การ Secure Raw Material สิ่งที่ได้รับจากการทำ IPO คือ การขยายโรงงานสร้าง Capacity หลังขยายกำลังการผลิต ทราบดีว่าน้ำมันปาล์มอยู่ในทุก Sector ฝั่ง Food มีความประสงค์ที่จะเข้าไปดูใน Sector นั้นเช่นกัน เพราะปัจจุบันน้ำมันกินของเราเพิ่งได้เข้าตัว Modern Trade Volume ก็อาจจะมีการขยายเพิ่มตัวมากขึ้น Secter อื่น ๆ มองและดูอยู่ พวกช็อกโกแลต High Margin Product ที่เอาน้ำมันปาล์มในประเทศไทยเองไปสามารถเพิ่ม Margin เพิ่มมากขึ้น แล้วก็ทำราคาให้แข่งขันกับต่างประเทศได้ Cooking Oil เองก็มองแล้ว ว่าจริง ๆ แล้ว ปัจจุบันนี้ในสภาวะอากาศแบบนี้เรามองว่าตัว Going Oil แล้ว ก็ Biofill มีความสำคัญในการช่วยลด คาร์บอน แล้ว ก็ Net Zero เน็ต คาร์บอน นิวทัล นะ ครับ เพราะ ฉะนั้น เนี่ย เรา ก็ มอง เรา ก็ เรา ก็ มี ความ ความ ตั้ง ใจ นะ ครับ ที่ จะ ขยาย ไป ใน ทาง Sector ต่าง ๆ ที่ เรา มี จุด แข็ง อยู่ นะ ครับ แล้ว ก็ เอ่อ diversif ใน Sector ต่าง ๆ ที่ น้ำ มัน ปาม ไป อยู่ นะ ครับ * **ประเมินตลาดน้ำมันปาล์มปีนี้** * **คำถาม:** มีการประเมินตลาดน้ำมันปาล์มในปีนี้เป็นอย่างไร ราคาปรับตัวขึ้นต่อไหมหรือเริ่มทรงตัวแล้ว * **คำตอบ:** ตัวผลผลิตเนื่องจากสภาวะอากาศปัจจุบันปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะ ปริมาณน้ำฝนเองเข้าหน้าฝนแล้วปีที่แล้วแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก ช่วง Q4 ของจะขาดแคลน Q1 ปีนี้ตัวผลกระทบจากน้ำฝนเองมาจากเอลนิโญมาเลน่ามันก็ยังมี flutuอยู่ ผลผลิตยังไม่ได้เยอะมาก ถ้าปริมาณน้ำฝนที่ตกปัจจุบันใน Q2 Q3 และ Q4 เอง cast ไว้ อาจจะมีเพิ่มมากขึ้น แต่ก็อาจจะไม่ได้เยอะอย่างที่อย่างที่ควรจะเป็นสภาวะอากาศปัจจุบันด้วย แนวโน้มตลาดโลกเอง ฝั่ง มาเลเซียขาดแคลนตัววัตถุดิบเหมือนกัน stock ของฝั่ง มาเลเซียหายไป 20% ฝั่ง อินโดจะเอาไปทำเป็น B40 ค่อนข้าง Street ในการส่งออกถ้ามองจากปัจจัยโดยรวมทั้งหมดปีนี้มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันปาล์มจะสูงขึ้นทั้งโลก ราคาที่เค้าคาดไว้ควรจะอยู่ 5100-5200 RM ไม่ต่ำกว่านี้ * **ผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของ Donald Trump** * **คำถาม:** มีการประเมินนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อบริษัทไหม และทิศทางของค่าเงินบาทจะเป็นอย่างไร * **คำตอบ:** ต้องบอกว่าการ import tax ต่าง ๆ ของทาง อเมริกาของ ทรัมป์ เอง เนี่ย ใน มุม มอง ที่ ผ่าน มา เนี่ย เมื่อ เมื่อ ก่อน เนี่ย ที่ เป็น ประวัติ เลย ที่ ทรัมป์ ขึ้น มา เป็น เอ่อ เอ่อ ตัว ประธานาธิบดี นะ ครับ ก็ คือ จริง ๆ แล้ว เนี่ย ซอย บีน เนี่ย ราคา หล่น แล้ว ก็ ตัว CPO เอง เนี่ย ราคา ขึ้น นะ ครับ เพราะ ว่า การ แข่ง ขัน เทรดวอร์ กับ จีน นะ ครับ แต่ ปัจจุบัน เนี่ย ทรัมป์ เนี่ย เอ่อ ใน มุม มอง เนี่ย เหมือน กับ เอ่อ ยัง เชิง อยู่ นะ ครับ เค้า ก็ ยัง ไม่ impose ยัง ไม่ ได้ แบบ เอ่อ มี action อะไร ที่ รุน แรง กับ ฝั่ง จีน นะ ครับ ซึ่ง จริง ๆ แล้ว เนี่ย ถาม ว่า สิ่ง ที่ เค้า ปรับ เป็น เทรดวอร์ กับ จีน หรือ ว่า ประเทศ อื่น ๆ ขึ้น มา เนี่ย มัน จะ กระทบ ตัว น้ำ มัน ปาล์ม แค่ ไหน นะ ครับ จริง ๆ แล้ว ใน มุม มอง เนี่ย มัน กระทบ ไม่ ได้ เยอะ นะ ครับ เพราะ ว่า สุด ท้าย แล้ว นะ ครับ ตัว น้ำ มัน ปาล์ม เอง เนี่ย อย่าง ที่ บอก นะ ครับ มัน เป็น สาร ตั้ง ต้น เกือบ ทุก Sector นะ ครับ ซึ่ง จริง ๆ แล้ว ตัว นี้ เอง เนี่ย คอนซูเมอร์ Product ก็ ยัง คง ต้อง ใช้ เหมือน เดิม นะ ครับ เพราะ ถ้า เกิด import tax ขึ้น ก็ แสดง ว่า ของ ที่ ใช้ อยู่ ใน อเมริกา เนี่ย มัน ก็ จะ มี ราคา ที่ สูง ขึ้น ถูก ไหม ครับ เพราะ ฉะนั้น เนี่ย ใน มุม มอง ผม เนี่ย มัน ก็ อาจ จะ เป็น โอกาส ของ ตัว น้ำ มัน ปาล์ม ที่ จริง ๆ แล้ว เนี่ย เป็น ส่วน ผสม ที่ ดี ขึ้น นะ ครับ แล้ว ก็ เป็น ต้น ทุน ที่ ถูก ที่ สุด ใน โลก อ่ะ นะ ครับ ตัว น้ำ มัน ปาล์ม เอง เนี่ย ใน หลาย ๆ Sector นะ ครับ ทั้ง จีน เนี่ย ผม ว่า มัน ก็ ไม่ ได้ กระทบ กับ ฝั่ง การ ที่ ทรัมป์ จะ impose tax มาก ขึ้น เพราะ จริง ๆ ต้น ทุน ของ จีน เนี่ย เค้า ก็ คง ปรับ ตัว ลด ต้น ทุน กัน อ่ะ นะ ครับ เพื่อ ให้ สามารถ แข่ง ขัน กับ เอ่อ อ่า ทั่ว โลก ได้ แล้ว ก็ อเมริกา ได้ อ่ะ นะ ครับ แล้ว ก็ ตัว เรท ของ ประเทศ ไทย เนี่ย ค่า เงิน ประเทศ ไทย เนี่ย ใน มุม มอง ถ้า เกิด สมมุติ ว่า เทรดวอร์ มัน รุน แรง ขึ้น มา จริง ๆ เนี่ย ค่า เงิน ประเทศ ไทย ก็ มี โอกาส ที่ จะ อ่อน นะ ครับ เพราะ ฉะนั้น เนี่ย ตัว เนี้ย มัน ก็ จะ เป็น benefit ของ ตัว การ ส่ง ออก น้ำ มัน ปาล์ม นะ ครับ จาก ประเทศ ไทย ใน กรณี ที่ ส่ง ไป จีน เอย หรือ อินเดีย เอย ก็ ดี อ่ะ นะ ครับ หรือ ไป ยุโรป เอย อะไร อย่าง เงี้ย นะ ครับ ตัว เนี้ย มัน ก็ จะ เป็น benefit ของ ฝั่ง ปาล์ม อ่ะ นะ ครับ ใน ทาง ด้าน สินค้า เกษตร

โดยรวมแล้ว PCE มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมากในปี 2567 และมีแผนที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายตลาด การเพิ่ม Margin การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ นอกจากนี้ PCE ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

โพสต์ล่าสุด