บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday OKJ: เปิดแผนปี 2568 พร้อมกลยุทธ์เติบโตยั่งยืนในตลาดอาหารสุขภาพ
P/E 17.43 YIELD 3.88 ราคา 4.12 (0.00%)
สรุป Oppday OKJ: เปิดแผนปี 2568 พร้อมกลยุทธ์เติบโตยั่งยืนในตลาดอาหารสุขภาพ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ในปี 2567 บริษัท โอเคจู๋ สามารถสร้างรายได้รวม 2,400 ล้านบาท เติบโตจาก 1,700 ล้านบาทในปี 2566 คิดเป็นการเติบโต 41% กำไรสุทธิอยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโต 141 ล้านบาทจากปี 2566 คิดเป็นการเติบโต 43.4% หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรสุทธิจะเติบโต 58.7% จากปีก่อน
บริษัทสามารถเปิดสาขาได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยโอ้กะจู๋เปิด 8 สาขา มี 2 สาขาในภาคอีสานขนาดใหญ่ (ขอนแก่นและโคราช) ส่วนโอ้จู๊สเปิด 15 สาขา รวมถึงสาขาที่ขอนแก่นด้วย การขยายสาขา 15 สาขาใน 7 เดือนต้องใช้เวลาในการค้นหาพื้นที่ ก่อสร้าง และฝึกอบรมพนักงาน
การเปิดโอ้จู๊สที่ขอนแก่นไม่เพียงแต่ขยายฐานลูกค้าในไทย แต่ยังมีลูกค้าจากต่างประเทศ (ลาว) เข้ามาซื้อและรับหิ้วเป็นพรีออเดอร์ไปด้วย สาขาที่เปิดในไตรมาส 4 จำนวน 12 สาขาสามารถสร้างรายได้ที่ดี แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ (พฤศจิกายน-ธันวาคม) แต่บริษัทก็มีค่าใช้จ่ายในการลงพื้นที่ การควบคุมการก่อสร้างในภูมิภาคใหม่ ค่าเดินทางของพนักงานมาฝึกอบรมที่กรุงเทพฯ และ Acquirint Cost เพื่อสร้างการรับรู้ของลูกค้า
การให้ส่วนลดมีผลกระทบต่อกำไรขั้นต้นบ้าง แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างการรับรู้ในระยะยาว ร้านใหม่สามารถสร้างรายได้และเติบโตได้ในไตรมาสถัดไป (ไตรมาส 1 ของปี 2568) ยอดขายปัจจุบันของสาขาอีสานขนาดใหญ่ยังคงอยู่ที่ 8 หลักในเดือนมกราคมที่ผ่านมา การลงทุนทั้งหมดเป็นการวางรากฐานเพื่อการเติบโตในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม ตัวเลขสิ้นเดือนแสดงให้เห็นถึงการเติบโตในแง่ของรายได้และกำไรที่กลับมาแข็งแกร่ง บริษัทตั้งเป้าหมายในการเพิ่มกำไรในปี 2568 ผ่านการจัดการที่มีประสิทธิภาพ การรักษา ราคาที่คุ้มค่า และการมอบ คุณค่าให้กับผู้บริโภค ทั้งในแง่ของวัตถุดิบ คุณภาพ และรสชาติ
บริษัทมีการพัฒนาสินค้าและขยาย Portfolio อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในปี 2567 เช่น อะโวคาโด, เบเกอรี่ หรือ ไข่ผำ เพื่อความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ยอดขายจาก New Product ในปี 2567 อยู่ที่ 204 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากปี 2566 ถึง 200% มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 102% ในระยะเวลาเพียง 3 ปี
บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาและใช้นวัตกรรมทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการเพาะปลูกและผลิต บริษัทได้รับ Certificate ระดับสากล (IFOAM, USDA, EU Organic Certificate) และมุ่งมั่นส่งต่อสิ่งดีๆ เหล่านี้ไปยังชุมชนต่างๆ ที่ร่วมโครงการเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการส่งเสริมการเพาะปลูกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรท้องถิ่น
นอกเหนือจากนั้น บริษัทได้ช่วยลดปัญหา PM 2.5 และสร้างป่าต้นน้ำกลับคืนมาในอนาคตจากการที่เกษตรกรหันมาปลูกผักออร์แกนิกส่งให้บริษัท ปัจจุบันมีแปลงเพาะปลูกอยู่ที่ 380 ไร่ มีความสามารถในการผลิต 850,000 กิโลกรัมต่อปี มีโรงงานผัก 5 แห่ง บริษัทให้ความสำคัญและเน้นการเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
บริษัทดำเนินกิจกรรมควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ โดยในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ได้ช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายและน่าน รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องของเกษตรอินทรีย์ให้กับน้องๆ นักเรียนบนพื้นที่สูง และมอบต้นกล้าพันธุ์กาแฟให้กับชุมชนปางหินฝนที่แม่แจ่ม
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
โอกาสทางธุรกิจของโอเคจู๋ส่วนใหญ่อยู่ที่การขยายสาขาไปยังภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคใต้ที่มองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการวาง Position และกำหนดราคาให้เหมาะสม การเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดสุขภาพเป็นอีกโอกาสสำคัญ
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ความเสี่ยงที่บริษัทกำลังเผชิญส่วนใหญ่มาจากภายนอก เช่น สถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อสาขาในบางพื้นที่ และการแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆ ในตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาและการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมีการจัดการและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่าย การพัฒนาและสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการเพิ่มความหลากหลายและกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโต เป็นวิธีการที่บริษัทใช้ในการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ นอกจากนี้ การทำ Marketing และ Event ต่างๆ เพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ก็เป็นสิ่งสำคัญ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
แนวโน้มในอนาคตของธุรกิจโอเคจู๋ยังคงสดใส โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการท่องเที่ยว การลงทุนจากภาครัฐและเอกชน และการส่งออกที่สูงขึ้น บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค และเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะเป็นผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
กลยุทธ์หลักของบริษัทในปี 2568 คือการรักษา Total Same Store Sales Growth (TSSG) และ Same Store Sales Growth (SSG) โดยมีวิธีการหลักๆ คือการขยายสาขา การพัฒนาและออกเมนูใหม่ๆ การเพิ่มความหลากหลายและกำลังการผลิต และการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์
บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโต 20-30% ในปี 2568 โดยมีสัดส่วน New Brand อยู่ที่ 15% และ SSG โต 2-5% บริษัทจะมุ่งเน้นการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุน การออก Product Mix ต่างๆ และการบริหารจัดการราคาของวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีมาใช้ให้มีประสิทธิภาพและการควบคุมค่าใช้จ่ายก็เป็นสิ่งสำคัญ
บริษัทวางแผนที่จะลงทุน 350-400 ล้านบาทในการขยายสาขาใหม่ การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การรองรับการเติบโตในอนาคต และการก่อสร้างครัวกลาง