บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
AP กำไรปี 67 อ่อนตัว! LHS คาดปี 68 ฟื้นตัว, ปันผล 7% แนะนำ "ทยอยซื้อสะสม"
P/E 4.83 YIELD 7.79 ราคา 7.70 (1.32%)
ไฮไลท์สำคัญ: AP (Thailand) Plc.
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHS) วิเคราะห์ AP (Thailand) Plc. โดยคาดการณ์ว่ากำไรปี 2568 จะฟื้นตัว +4.4%YoY แม้กำไรปี 2567 จะอ่อนตัวลงจากการแข่งขันรุนแรง โดย LHS ปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง -4% แต่ยังมีปัจจัยบวกจากเงินปันผลปี 2567 ที่ 0.60 บาท XD 7 พ.ค. นี้ คิดเป็น Div. yield สูงถึง 7% จึงแนะนำ “ทยอยซื้อสะสม” เพื่อรอรับปันผล
ผลประกอบการและเป้าหมายธุรกิจ: การวิเคราะห์โดย LHS
LHS ระบุว่ากำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 1,293 ล้านบาท -10.8%QoQ, -14.5%YoY และทั้งปี 67 ลดลง -17%YoY อยู่ที่ 5,020 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ LHS คาดการณ์ไว้ 4% ตามยอดโอนที่ลดลง -3%YoY อยู่ที่ 35,688 ล้านบาท บวกกับ GPM ที่อ่อนตัวลง -290bps YoY ที่ 32.4% และส่วนแบ่งกำไรจากคอนโด JV ลดลง -8%YoY ที่ 972 ล้านบาท รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น +172%YoY อย่างไรก็ตาม AP ตั้งเป้าธุรกิจปี 68 เชิงรุก โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 42 โครงการ มูลค่า 6.5 หมื่นล้านบาท +35%YoY โดยรุกแผนเปิดคอนโด 6 โครงการ มูลค่า 2.02 หมื่นล้านบาท +105%YoY ซึ่งจะเป็นโครงการ JV ทั้งหมด และโครงการแนวราบ 36 โครงการ มูลค่า 4.48 หมื่นล้านบาท +17%YoY
ข้อสังเกตและปัจจัยเสี่ยง: โดย LHS
LHS ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ลงเล็กน้อย -4%YoY จาก 5,455 ล้านบาท เป็น 5,239 ล้านบาท เติบโต +4.4%YoY ปัจจัยหลักเกิดจากกำไรปี 67 ที่ต่ำกว่าคาดราว 4% ขณะที่สถานการณ์กำลังซื้อในปีนี้ที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน รวมถึงการแข่งขันด้านราคาในตลาดที่คาดว่าจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาในปีนี้ แต่ยังเชื่อมั่นว่ากำไรของบริษัทจะฟื้นตัวได้จากปีก่อนหน้า จากยอดโอนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามโครงการพร้อมขายที่มากขึ้น รวมถึงแผนเปิดโครงการใหม่เชิงรุก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทาวน์โฮมซึ่งยังคงมีความต้องการซื้อสูง ทั้งนี้ยังมีความเสี่ยงในการปฏิเสธสินเชื่อสูงเช่นเดียวกัน
สรุปและคำแนะนำ: ราคาเป้าหมายและกลยุทธ์การลงทุน
LHS ประเมินราคาเป้าหมายปี 68 อิง PER ที่ 6.0 เท่า และ EPS68F 1.67 บาท ได้ราคาเหมาะสมที่ 10.0 บาท มี Upside +14.3% ขณะมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากเงินปันผลปี 67 ที่ 0.6 บ./หุ้น จะขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค. 68 คิดเป็น Dividend yield จะอยู่ที่ราว 7% จึงแนะนำ “ทยอยซื้อสะสมเพื่อรอรับปันผล” โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องพิจารณาคือความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่อาจทำให้ rejection rate สูงขึ้น