KSS คงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ PTT ราคาเป้าหมาย 32.50 บาท แม้มีแรงหนุนจากปันผล

P/E 9.77 YIELD 6.82 ราคา 31.00 (-1.59%)


ไฮไลท์สำคัญ: คงคำแนะนำ Neutral แม้มีปันผลจูงใจ

Krungsri Securities (KSS) ยังคงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ PTT โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 32.50 บาท แม้ว่าจะมีแรงหนุนจากเงินปันผลครึ่งปีหลังของปี 2567 ประมาณ 1.3 บาทต่อหุ้น (yield 4% ขึ้น XD 6 มีนาคม 2568) แต่ภาพรวมปี 2568 ยังขาดปัจจัยกระตุ้น (catalyst) เนื่องจากธุรกิจก๊าซฯ ฟื้นตัวช้าและถูกฉุดรั้งจากกำไรที่ลดลงของบริษัทลูก นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ที่อยู่ระหว่างการเจรจากับภาครัฐซึ่งยังมีความไม่แน่นอน

แผนกลยุทธ์และเป้าหมายบริษัท: มุ่งลดค่าใช้จ่ายและปรับโครงสร้าง

PTT ยังคงแผนกลยุทธ์ในการลดค่าใช้จ่ายและปรับโครงสร้างธุรกิจภายในเครือ สำหรับธุรกิจก๊าซฯ อยู่ระหว่างการเสนอข้อมูลธุรกิจกับภาครัฐและหาโอกาสเจาะตลาด out-out เพิ่มเติม ส่วนธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีอยู่ระหว่างหา partner ร่วมลงทุน (คาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 1 ปี) นอกจากนี้ PTT ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA ประมาณ 3.3 พันล้านบาทต่อปีภายใน 3 ปีจากการหาโอกาสร่วมกันสำหรับตลาดในประเทศ และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) มองว่ามีโอกาสเติบโตจากการหาแหล่งใหม่เพิ่ม

PTT ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA ประมาณ 3 หมื่นล้านบาทภายในปี 2570 (1 หมื่นล้านบาทในส่วนของ PTT เอง และ 2 หมื่นล้านบาทของกลุ่มบริษัทลูก) การเพิ่มขึ้นนี้จะมาจากการลดต้นทุนการผลิตโดยการเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานและการ optimize asset รวมถึงการเพิ่มรายได้จากการลงทุนใหม่และการหาตลาดใหม่ นอกจากนี้ ผู้บริหารมองว่าการใช้ digital transformation ในการบริหารการผลิตและการขายจะช่วยเพิ่ม EBITDA ประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปีภายในปี 2569

ความท้าทายในปี 2568: ราคาน้ำมันดิบและต้นทุนก๊าซฯ

ในปี 2568 ธุรกิจหลักของ PTT ยังคงมีความท้าทาย:

  1. ธุรกิจ E&P: แม้ปริมาณขายจะเติบโตตามการผลิตของแหล่งในประเทศ และคาดว่าจะสามารถรักษาระดับ unit cost ไว้ได้ แต่ราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลง (คาด -5% y-y มาอยู่ที่ 71-81 $/bbl) จะทำให้อัตรากำไรลดลง
  2. ธุรกิจก๊าซฯ: ปริมาณขายของโรงแยกก๊าซฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวตามปริมาณก๊าซฯ อ่าวไทย รวมถึงปริมาณใช้ท่อฯ และ tank เพิ่ม แต่ต้องเผชิญกับต้นทุนก๊าซฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก geopolitical risk ส่งผลให้ราคา LNG ผันผวน (มอง JKM LMG 12-14$/mmbtu Vs. เดิม 11.5-12.5 $)
  3. ธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี: ฝั่งโรงกลั่นมีการปิดซ่อมใหญ่ทั้ง TOP และ PTTGC มองว่าค่าการกลั่นมีแนวโน้มลดลง y-y ตาม supply ที่ตึงตัวน้อยลง ส่วนปิโตรเคมีมองว่า product spread เพียงทรงตัว y-y จาก oversupply ยังกดดัน

สรุปและคำแนะนำ: Catalyst ยังจำกัด กำไรทรงตัว

KSS มอง "Neutral" ต่อข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ แม้เป้าหมายธุรกิจระยะยาวจะเป็นเชิงรุกมากขึ้นในแง่ของการพยายามลดต้นทุน ซึ่งหากทำได้ตามเป้าของผู้บริหาร จะมีโอกาสสร้าง upside ต่อประมาณการของ KSS (KSS มองว่า EBITDA ในช่วงปี 2568-2569 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท) อย่างไรก็ตาม KSS มองว่าความท้าทายคือการ optimize asset ของธุรกิจปิโตรเคมีที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง และการฟื้นตัวของ product spread จะเพียงชดเชยกับอัตรากำไรที่ลดลงของธุรกิจ E&P จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงสู่ระดับปกติอย่างต่อเนื่องในปี 2568-2569 (บริษัทมองว่าราคาน้ำมันดิบลดลงเช่นกัน)

KSS คงคำแนะนำ "Neutral" ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 32.50 บาทต่อหุ้น โดยคงมุมมองว่า catalyst ในปี 2568 มีจำกัด เนื่องจากกำไรเพียงทรงตัว y-y การฟื้นตัวของธุรกิจก๊าซฯ และปิโตรเคมีจะเพียงชดเชยกำไรที่ลดลงของบริษัทลูกอย่าง PTTEP คาดว่ากำไรปกติในช่วงปี 2568-2569 จะเติบโตเฉลี่ย 2% CAGR ในขณะที่บริษัทยังเผชิญกับความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์

โพสต์ล่าสุด