บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

PL ขาดทุนยับ! ปี 67 กำไรหายวับ 213 ล้านบาท ค่า ECL พุ่ง ต้นทุนการเงินอ่วม
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 1.02 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: ภัทรลิสซิ่ง (PL) พลิกจากกำไรเป็นขาดทุนกว่า 105 ล้านบาท เหตุ ECL โต ต้นทุนพุ่ง
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL) รายงานผลประกอบการปี 2567 ที่น่าตกใจ โดยพลิกจากกำไรสุทธิ 107.41 ล้านบาท ในปี 2566 กลายเป็นขาดทุนสุทธิถึง 105.53 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss: ECL) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น แม้ว่ารายได้จากการขายสินทรัพย์ให้เช่าจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากปัจจัยลบดังกล่าวได้
เศรษฐกิจกดดัน: ยอดขายรถยนต์หดตัว ฉุดกำไร PL
แม้เศรษฐกิจไทยปี 2567 จะขยายตัว 2.5% แต่อุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมกลับหดตัว ยอดผลิตและยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลงอย่างมาก จากปัญหาหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อที่ลดลง ราคารถยนต์มือสองก็ปรับตัวลดลงเฉลี่ย 16% กดดันผลประกอบการของ PL โดยตรง
เจาะลึกผลกระทบ: ค่า ECL พุ่ง ต้นทุนการเงินอ่วม ฉุดกำไรดิ่ง
รายได้รวมของ PL ลดลงเล็กน้อย 0.58% จากปี 2566 แต่ปัจจัยสำคัญที่ฉุดกำไรคือ ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่พุ่งขึ้นถึง 199.57 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานจึงลดลงถึง 49.73% ซ้ำเติมด้วยต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นถึง 38.28% จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทขาดทุนก่อนภาษีเงินได้
บริหารสินเชื่อ: คุมเข้มความเสี่ยง แต่ข้อมูลสำคัญยังขาด
PL พยายามบริหารสินเชื่อโดยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทน แต่ยังมีลูกหนี้ค่าเช่าที่ค้างชำระเกิน 90 วันจำนวนมาก และต้องตั้งค่าเผื่อ ECL สำหรับลูกหนี้ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสำคัญ เช่น NIM, NPL และ Coverage Ratio ไม่ได้ถูกเปิดเผย ทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของฐานะสินเชื่อได้อย่างชัดเจน
อนาคตและความเสี่ยง: โอกาสท่ามกลางความท้าทาย
PL เผชิญความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจผันผวน อัตราดอกเบี้ยสูง และความเสี่ยงด้านเครดิต แต่ยังมีโอกาสเติบโตจากการขยายธุรกิจ การเพิ่มผลตอบแทน และการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับ ESG อาจดึงดูดนักลงทุนที่สนใจด้านความยั่งยืน
สรุป: PL ต้องฝ่าวิกฤต!
ผลประกอบการปี 2567 ของ PL ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากค่า ECL และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น การขาดข้อมูลสำคัญทำให้ประเมินความแข็งแกร่งได้ยาก แต่การมีวงเงินที่ยังมิได้เบิกใช้กว่า 3,392 ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการบริหารสภาพคล่องและรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตได้