บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
AMATAV กำไรทรุด! ปี 67 กำไรสุทธิร่วง 69% แม้รายได้รวมโต 24%
P/E 9.25 YIELD 2.31 ราคา 2.16 (0.00%)
"อมตะ วีเอ็น" รายได้รวมปี 67 พุ่ง 24% แต่กำไรสุทธิกลับดิ่งเหว 69% เจอพิษพายุ "ยาจิ" ถล่ม แถมต้นทุนอสังหาฯ พุ่งสูง ฉุดกำไรขั้นต้นลดฮวบ
รายได้รวมโต แต่กำไรหด
รายได้รวมปี 2567 ของ AMATAV อยู่ที่ 5,325.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 24.23% เมื่อเทียบกับปี 2566 แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ กำไรสุทธิกลับลดลงถึง 68.78% เหลือเพียง 132.67 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก การตัดจำหน่ายสินทรัพย์เสียหายจากพายุยาจิ และ ต้นทุนการขายอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้น
ปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตา
เศรษฐกิจเวียดนามปี 2567 เติบโต 7.09% หนุนโดยการส่งออกและการลงทุน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากสงครามการค้า, ปัญหาหนี้เสียในระบบธนาคาร, และค่าเงินดองอ่อนค่า AMATAV มีโอกาสจากเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้าเวียดนาม แต่ก็ต้องระวัง ผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
เจาะลึกรายได้แต่ละส่วน
รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 6.47% แต่ กำไรขั้นต้นลดลง เพราะต้นทุนสูงขึ้นในนิคมอมตะ ซิตี้ ฮาลอง (HAL) รายได้จากสาธารณูปโภคโตถึง 49.77% แต่ กำไรขั้นต้นก็ยังลดลง ส่วน รายได้จากการให้เช่าลดลง 18.13% เพราะทยอยขายโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในนิคมอมตะ ซิตี้ เบียนหัว (BIH) ตั้งแต่ปี 2565 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารก็เพิ่มขึ้น 38% เพราะต้องตัดจำหน่ายสินทรัพย์เสียหายจากพายุ
สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินก็บาน
สินทรัพย์รวมของ AMATAV เพิ่มขึ้น 11.77% จากเงินจ่ายล่วงหน้าค่าสิทธิในการใช้ที่ดินที่เพิ่มขึ้น แต่ หนี้สินรวมก็เพิ่มขึ้นถึง 19.87% จากหนี้การค้าและเงินกู้ยืมที่มากขึ้น ทำให้ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เพิ่มขึ้นจาก 1.18 เท่า เป็น 1.37 เท่า แสดงว่าบริษัทใช้ leverage มากขึ้น
ความเสี่ยงและโอกาสที่ต้องพิจารณา
AMATAV ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจาก ราคาวัสดุก่อสร้างผันผวน, ตลาดอสังหาฯ ไม่แน่นอน, สงครามการค้า, และปัญหาในระบบธนาคารเวียดนาม แต่ก็มีโอกาสจาก การขยายโครงการใหม่, การย้ายฐานการผลิตจากจีน, และการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม
สรุป: AMATAV ยังมีอนาคต แต่ต้องระวัง
แม้ปี 2567 จะไม่สวยหรู แต่ AMATAV ยังมีโอกาสเติบโตจากเศรษฐกิจเวียดนามและการย้ายฐานการผลิต นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน AMATAV มีการจัดการความเสี่ยงโดยการกระจายการลงทุนไปยังนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ