บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุปผลประกอบการหุ้น GFC ปี 2567: วิเคราะห์เจาะลึกทุกมิติ
P/E 22.69 YIELD 8.17 ราคา 3.06 (0.00%)
บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 371.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.85% เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ท้าทายในไตรมาสที่ 4 แต่โดยรวมแล้ว GFC ยังคงรักษาการเติบโตไว้ได้ โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73.33 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 5.35% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ภาพรวมปี 2567:
ปี 2567 เป็นปีที่มีความผันผวนสำหรับ GFC โดยแบ่งออกเป็นช่วงเวลาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:
- ไตรมาส 4 ปี 2566 - ไตรมาส 1 ปี 2567: เป็นช่วงที่ธุรกิจรักษาผู้มีบุตรยากมีความต้องการสูงเป็นพิเศษ เนื่องจากความเชื่อเรื่อง "ปีมังกรทอง" ส่งผลให้ GFC สามารถทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
- ไตรมาส 2 - 3 ปี 2567: ธุรกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ GFC ยังคงรักษาระดับรายได้ไว้ได้อย่างคงที่
- ไตรมาส 4 ปี 2567: ธุรกิจอยู่ในสภาวะซบเซาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ส่งผลให้รายได้ลดลง
รายได้รวมเพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินการของบริษัท จีเอฟซี อุบล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567
กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงานฝ่ายการตลาดเพื่อรองรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารจากการเตรียมความพร้อมในการขยายสาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
การวิเคราะห์รายได้และกำไร:
- รายได้รวม: 371.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.85%
- กำไรสุทธิ: 73.33 ล้านบาท ลดลง 5.35%
- รายได้จากการให้บริการ: เพิ่มขึ้น 4.85% เป็น 371.76 ล้านบาท
- ต้นทุนจากการให้บริการ: เพิ่มขึ้น 6.19% เป็น 193.43 ล้านบาท
- อัตรากำไรขั้นต้น: ลดลงจาก 48.63% เป็น 47.97%
- ค่าใช้จ่ายในการบริการ: เพิ่มขึ้น 12% เป็น 24.45 ล้านบาท
- ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: เพิ่มขึ้น 24.04% เป็น 61.10 ล้านบาท
- ต้นทุนทางการเงิน: ลดลง 80.56% เป็น 1.75 ล้านบาท
- อัตรากำไรสุทธิ: ลดลงจาก 21.85% เป็น 19.73%
สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 13.23% เป็น 725.60 ล้านบาท,สินทรัพย์หมุนเวียนลดลง 46.23% เนื่องจากการใช้เงินสดในการลงทุนปรับปรุงอาคารสำหรับสาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 66.36% เป็น 123.99 ล้านบาท, ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 6.23% เป็น 601.61 ล้านบาท จากกำไรสะสม
D/E เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.13 เท่า เป็น 0.21 เท่า แสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเพื่อการลงทุน
สถานะทางการเงินและกระแสเงินสด:
- สินทรัพย์รวม: เพิ่มขึ้น 13.23% เป็น 725.60 ล้านบาท
- สินทรัพย์หมุนเวียน: ลดลง 46.23% เป็น 182.29 ล้านบาท
- สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน: เพิ่มขึ้น 80% เป็น 543.31 ล้านบาท
- หนี้สินรวม: เพิ่มขึ้น 66.36% เป็น 123.99 ล้านบาท
- ส่วนของผู้ถือหุ้น: เพิ่มขึ้น 6.23% เป็น 601.61 ล้านบาท
- D/E: เพิ่มขึ้นจาก 0.13 เท่า เป็น 0.21 เท่า
- กระแสเงินสดสุทธิ: ลดลง สุทธิ 150.45 ล้านบาท
อัตราส่วนสภาพคล่องลดลงจาก 6.11 เท่า เป็น 1.93 เท่า เนื่องจากการลดลงของเงินสดและลูกหนี้
อัตรากำไรขั้นต้น, EBITDA, EBIT, และอัตรากำไรสุทธิลดลง แสดงถึงความท้าทายในการควบคุมค่าใช้จ่าย
อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ลดลง
ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส:
- ความเสี่ยง: การแข่งขันในตลาด, ความผันผวนทางเศรษฐกิจ, การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ, ความเสี่ยงจากการลงทุนในสาขาใหม่
- โอกาส: ธุรกิจรักษาภาวะมีบุตรยากในไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะเติบโต 6.2% ในปี 2568 จากความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ GFC ยังมีแผนขยายธุรกิจด้วยการเปิดสาขาใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและผลักดันให้รายได้เติบโต
สรุป:
แม้ว่ากำไรสุทธิและอัตราส่วนทางการเงินหลายรายการของ GFC ในปี 2567 จะลดลง แต่บริษัทยังคงมีการเติบโตของรายได้ และมีแนวโน้มที่ดีในอนาคตจากการขยายธุรกิจและการเติบโตของตลาดรักษาภาวะมีบุตรยาก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ และติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน การลงทุนเพิ่มเติมในสาขาใหม่และทรัพย์สินถาวร แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเติบโตในระยะยาว แต่ก็ต้องติดตามการบริหารจัดการหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างใกล้ชิด