สรุป Oppday STX: สรุปผลประกอบการ Q3 ปี 2568 โอกาสและการเติบโตอย่างยั่งยืน

P/E 5.39 YIELD 14.35 ราคา 1.08 (0.00%)

สรุป Oppday STX: สรุปผลประกอบการ Q3 ปี 2568 โอกาสและการเติบโตอย่างยั่งยืน

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**
  • ผลกระทบเชิงบวก: บริษัทสามารถเจรจากับลูกหนี้การค้าที่ค้างชำระมานานเกือบ 10 ปีได้สำเร็จ ทำให้ได้รับชำระหนี้จำนวน 51.2 ล้านบาท ซึ่งช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

  • ผลกระทบเชิงลบ: รายได้รวมของบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากลูกค้าที่รับซื้อหินใหญ่ (Big Rock) เนื่องจากมีปัญหาภายในโครงการ รวมถึงรายได้จากหินแกรนิต 20 มม. ลดลงเนื่องจากบริษัทหันไปผลิต Big Rock มากขึ้น

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**
  • การเข้าซื้อกิจการบุญถาวรไมนิ่ง: บริษัทได้เข้าซื้อกิจการบุญถาวรไมนิ่ง ซึ่งเป็นเหมืองหินปูน ด้วยมูลค่าการลงทุน 212.8 ล้านบาท โดยเหมืองดังกล่าวมีปริมาณสำรองตามประทานบัตรประมาณ 25 ล้านตัน และมีอายุสัมปทานคงเหลือที่จะสามารถดำเนินการผลิตได้อีก 25 ปี ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพและรองรับการเติบโตในระยะยาว

  • การขยายตลาด: บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง เช่น โดโลไมท์ โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ และภาคเกษตร ซึ่งยังมีการเติบโตที่ดี

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**
  • การชะลอตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง: อุตสาหกรรมก่อสร้างมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงตาม GDP ของประเทศ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-2.1% ในปีนี้ ทำให้กระทบต่อรายได้และยอดขายของบริษัท

  • การลดลงของรายได้จาก by-product: รายได้จากการขาย by-product ลดลงไป 8.6 ล้านบาท ซึ่งมีผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**
  • การบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย: บริษัทพยายามบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสร้างอัตรากำไรให้ได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าเดิม

  • การกระจายความเสี่ยง: บริษัทวางแผนที่จะผลิตตัวผลิตภัณฑ์อื่นที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น โดโลไมท์ โดยเฉพาะในภาคเกษตร เพื่อลดการพึ่งพิงรายได้จากอุตสาหกรรมก่อสร้างเพียงอย่างเดียว

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**
  • เป้าหมายรายได้: บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง เช่น โดโลไมท์ และพยายามบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้รายได้ไม่แตกต่างจากปีนี้มากนัก

  • การพัฒนาเหมืองหินปูนเขาย้อย: บริษัทคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในสิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2569 ซึ่งจะช่วยเสริมกำลังการผลิตและความมั่นคงด้านวัตถุดิบ

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** **[เริ่ม Q&A นาทีที่ 53:05]**
  • **แผนธุรกิจปี 2569 และเป้าหมายการเติบโต:**
    • **คำถาม:** แผนธุรกิจปี 2569 และกลยุทธ์การเติบโต ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตกี่เปอร์เซ็นต์?

    • **คำตอบ:** ธุรกิจจะเติบโตตาม GDP ของประเทศ ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างชะลอตัว บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง เช่น โดโลไมท์ และภาคเกษตร บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • **ภาพรวมอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ในปีหน้า:**
    • **คำถาม:** ภาพรวมอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ในปีหน้าเป็นอย่างไร?

    • **คำตอบ:** อ้างอิงจากภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้าง ธนาคารที่ทำ Study ออกมาคาดการณ์ว่าปีหน้าจะเติบโตแค่ประมาณ 1.3% สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ และ 1.8% สำหรับภาพก่อสร้างซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่าบริษัทคงมีรายได้ที่ไม่แตกต่างจากปีนี้เท่าไหร่ แต่จะพยายามบริหารต้นทุนเพื่อสร้างอัตรากำไรให้ได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าเดิมจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มา เช่น แร่โดโลไมท์ ในภาคอุตสาหกรรม เช่น ผลิตเหล็ก กระจก ขวดแก้ว ที่ยังมีการสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

**หัวข้อที่ถามและคำตอบ:** *

**การเติบโตปี 2569:** วางแผนเติบโตตาม GDP เน้นโดโลไมท์และเกษตร

*

**อุตสาหกรรมปีหน้า:** ก่อสร้างโตน้อย เน้นบริหารต้นทุน รักษาลูกค้าเดิม

โดยสรุป บริษัท Stone One มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการขยายตลาดไปยังภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากภาคก่อสร้าง เพื่อสร้างความมั่นคงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด