บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

JMT เผชิญความท้าทาย! กำไรสุทธิปี 2567 ลดลง 19.7% แม้รายได้รวมจะเติบโตเล็กน้อยที่ 2.7% ต้นทุนการให้บริการและผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหลัก กดดันผลประกอบการ

ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567

ปี 2567 JMT มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 2.7% จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นลดลง 19.7% เหลือ 1,615.2 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก ต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มขึ้นถึง 20.1% และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น 13.7% นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า (JK AMC) ก็ลดลง 13.8% ด้วย

ปัจจัยกระทบและสภาพคล่องทางการเงิน

ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2567 ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ทำให้การจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพทำได้ยากขึ้น JMT มีการใช้กระแสเงินสดภายใน, เงินปันผล, เงินกู้ยืมคืนจากกิจการร่วมค้า และการออกหุ้นกู้ (1,800 ล้านบาทในไตรมาส 3/2567) เป็นแหล่งเงินทุน เพื่อเสริมสภาพคล่องและรองรับการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังมีแผนออกหุ้นกู้เพิ่มเติมในไตรมาส 1/2568

ความเสี่ยงและโอกาส

ความเสี่ยงที่สำคัญคือภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ อย่างไรก็ตาม JMT ยังคงมีโอกาสในการเติบโตในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ เนื่องจากปริมาณหนี้เสียในระบบการเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ JMT ยังมีหนี้คุณภาพดีที่ซื้อมาก่อนหน้านี้เพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจในระยะสั้นถึงกลาง

สรุปและแนวโน้ม

JMT เผชิญกับความท้าทายในการรักษาระดับกำไรท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว