BPP Oppday Q3/2025: ปรับโครงสร้างสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

P/E 20.05 YIELD 4.65 ราคา 12.90 (0.00%)

BPP Oppday Q3/2025: ปรับโครงสร้างสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีครับ ท่านนักลงทุนและผู้เข้าร่วมฟังการบรรยาย Opportunity Day ของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ในครั้งนี้เป็นการนำเสนอผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 3 โดยมีผู้บริหาร 4 ท่านร่วมให้ข้อมูล

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

BPP ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเดินหน้าสู่การเติบโตและการลดคาร์บอนอย่างมั่นคง นอกจากวาระปกติแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเชิงกลยุทธ์ของบริษัท รวมถึงผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นของ BPP จะได้รับหลังจากการปรับโครงสร้างในครั้งนี้

แม้ว่า BPP จะมีกำไรและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากสินทรัพย์คุณภาพทั่วภูมิภาคที่ไปลงทุน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้มูลค่าของบริษัทในตลาดทุนยังไม่ได้สะท้อนศักยภาพที่แท้จริง

  • โครงสร้างการถือหุ้นที่ซับซ้อนทำให้การบริหารและการจัดสรรเงินทุนในระดับกลุ่มยังไม่คล่องตัวเท่าที่ควร
  • ข้อจำกัดด้านสภาพคล่องของหุ้น ส่วนหนึ่งมาจาก Free Float น้อย
  • ความหลากหลายของ Portfolio ในต่างประเทศ และในหลายเทคโนโลยี รวมถึงโครงสร้างปัจจุบันที่ยังอาจจะทำให้ภาพรวมของธุรกิจที่ไม่ได้สะท้อนศักยภาพที่ชัดเจนเท่าที่ควร

กำลังการผลิตเติบโตจาก 1.9 กิกะวัตต์ในช่วง IPO เป็นกว่า 3.6 กิกะวัตต์แล้ว

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทมีแผนที่จะปรับโครงสร้างสำคัญผ่าน 2 แนวทาง:

  1. ขายสิทธิการลงทุน 25% ในโรงไฟฟ้าก๊าซที่สหรัฐฯ
  2. ควบรวมบริษัทระหว่างบ้านปู เพาเวอร์ และบ้านปู เพื่อจัดตั้ง NewCo ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดในสไลด์ถัดไป

เป้าหมายหลักและขั้นตอนสำคัญของการปรับโครงสร้างของกลุ่ม คือ การจัดตำแหน่งของสินทรัพย์ก๊าซ โรงไฟฟ้าก๊าซเทมเบอร์วัน เทมเบอร์ทู ในประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อยู่ภายใต้บริษัท BKV เพื่อให้มูลค่าของสินทรัพย์สะท้อนในตลาดได้อย่างเต็มที่ สร้าง Synergy ภายในธุรกิจก๊าซครบวงจรของกลุ่ม จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเรียกว่า Close Loop Gas

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ยังไม่มีข้อมูลส่วนนี้ระบุไว้ชัดเจนในเนื้อหาที่สรุป

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

การควบรวมบริษัทระหว่างบ้านปู เพาเวอร์ และบ้านปู จะช่วยลดความซับซ้อนของโครงสร้าง ทำให้การขับเคลื่อนกลยุทธ์มีความชัดเจน รวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งหมดไว้ภายใต้ Power Plus ไม่ว่าจะเป็น Thermal, Renewable หรือ Battery Energy Storage (BESS) จะช่วยให้ก้าวจาก Holding Company ไปสู่ Integrated Energy Group ที่มีแพลตฟอร์มพลังงานครบวงจร พร้อมต่อยอดธุรกิจใหม่ได้

การควบรวมเทคโนโลยีด้านพลังงานและ Solution Digital ต่างๆ จะเป็นหนึ่งใน Engine สำคัญของกลุ่มในระยะถัดๆ ไป

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

โครงสร้างใหม่จะช่วยให้กลุ่มมีเอกภาพมากขึ้น โปร่งใส และบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการเจริญเติบโต การลงทุน และการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

การปรับโครงสร้างโดยกระทำผ่าน 2 Track ที่สำคัญ:

  • Track 1: ขายสิทธิการลงทุนใน BKV BPP 25% ให้กับ BKV Corporation เพื่อสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์และสร้างความคล่องตัวในการบริหาร Portfolio ของกลุ่ม
  • Track 2: ควบรวม (Amalgamation) ของ BPP และบ้านปู เพื่อรวมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างการถือหุ้นและการบริหาร

การปรับโครงสร้างการบริหารและธุรกิจหลักของกลุ่ม โดยให้มีความสอดคล้องกัน โดยแบ่งเป็น 4 เสาหลัก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้ผู้ถือหุ้น เพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน

Deal การขายสัดส่วน 25% ใน BKV BPP Power ให้กับ BKV Corporation มีมูลค่ารวมประมาณ 376 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะปิด Deal ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2026 หรือปีหน้า มูลค่าธุรกรรมรวมในครั้งนี้อยู่ที่ราคาเฉลี่ย 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์ ใน Deal การซื้อขายนี้ ซึ่งมูลค่านี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ Deal โรงไฟฟ้าก๊าซในตลาดสหรัฐฯ ในช่วงปี 2021-2025 ซึ่งค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 800,000 เหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 29:59]

นโยบายปันผลสำหรับงวดสิ้นปี และเหตุผลที่ปันผล 40% งวด 6 เดือนน้อยกว่าปีที่แล้ว

บริษัทจะยังคงดำเนินการจ่ายปันผลเช่นเดิม โดยจะพิจารณาหลังผลประกอบการประจำปี 2025 ออก คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาถึงอัตราปันผลที่เหมาะสม การจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ออกมาที่ประมาณ 41% ของกำไรสุทธิเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจปีนี้ที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก บริษัทจึงสำรองกำไรบางส่วนเพื่อรองรับการลงทุนและเสริมความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน

หากไม่ได้ขายหุ้นในช่วง General Offer จะทำการซื้อขายหุ้น BPP ได้อีกหรือไม่

General Offer ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1-23 ธันวาคมนี้ จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้ถือหุ้นที่ต้องการขายสามารถเสนอให้บริษัทรับซื้อที่ 13 บาทต่อหุ้นได้ แต่ถ้าไม่ขายหุ้น หุ้นของบ้านปู เพาเวอร์เองก็ยังมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ปกติ จนกว่าการควบรวมจะสมบูรณ์ 100% ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2026

IFA จะดำเนินการประเมินมูลค่าของ BPP โดยออก Report ช่วงไหน และหากมูลค่า BPP ที่ประเมินได้สูงกว่า 13 บาท จะมีผลกระทบอย่างไร

IFA Report เล่มแรกที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการควบรวมบริษัทจะถูกเผยแพร่ก่อนระยะเวลาที่ทางบ้านปูมี General Offer โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ บริษัทบ้านปู เพาเวอร์เองไม่สามารถตอบแทนบ้านปูได้ว่าทางบ้านปูจะมีการพิจารณาปรับตัว General Offer นี้หรือไม่ ภายหลังการเผยแพร่ IFA Report

แผนการควบรวมกิจการกับบ้านปูจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ และประโยชน์จะเป็นอย่างไร

แผนการควบรวมกิจการกับบ้านปูคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาสที่ 3 ของปีหน้า (2026) การปรับโครงสร้างครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและศักยภาพของการเจริญเติบโตของ BPP ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Energy Serenex และการขับเคลื่อนการเติบโตในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต

สรุป

บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยมีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกศักยภาพและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว การปรับโครงสร้างธุรกิจผ่านการขายสินทรัพย์บางส่วนและการควบรวมกิจการกับบ้านปู จะนำไปสู่บริษัทใหม่ที่มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น

โพสต์ล่าสุด