บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
HL เจาะลึกผลประกอบการ Q3/2566: โอกาสและความท้าทายในตลาดยา
P/E 20.43 YIELD 2.79 ราคา 6.30 (0.00%)
HL เจาะลึกผลประกอบการ Q3/2566: โอกาสและความท้าทายในตลาดยา
สวัสดีนักลงทุนและผู้สนใจทุกท่าน ในวันนี้เราจะมาสรุปประเด็นสำคัญจากการประชุม Oppday ของบริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ HL ในไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2566 โดยจะครอบคลุมภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ โอกาสทางธุรกิจ ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ แนวโน้มและอนาคต และช่วงถาม-ตอบ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ภาพรวมธุรกิจของ HL มีบริษัทลูก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไอแคร์ เฮลท์ ซึ่งดูแลร้านขายยา และบริษัท Healthiness ที่ค้นหาและนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาขายในร้านไอแคร์และช่องทางอื่นๆ ธุรกิจร้านขายยามีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมี 70 กว่าสาขา มีสินค้าหลากหลายกว่า 10,000 SKU นอกจากนี้ Healthiness ยังมีการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากเพื่อจำหน่ายทั้งในและนอกองค์กร
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
HL มองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดร้านขายยาที่มีมูลค่า 2 แสนกว่าล้านบาท โดย 20% เป็นร้านขายยา ซึ่งมีการเติบโตทุกปีเนื่องจากสังคมผู้สูงอายุ นอกจากนี้ HL ยังมีโอกาสในการขยายผลิตภัณฑ์ของ Healthiness ผ่านช่องทางของตนเองและช่องทางใหม่ๆ รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
HL เผชิญกับความเสี่ยงจากความเข้มงวดของระเบียบต่างๆ ในการเปิดร้านขายยา เช่น การมีเภสัชกรประจำตลอดเวลา การควบคุมอุณหภูมิ และพื้นที่ ทำให้การเติบโตของจำนวนร้านขายยาเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีและปริมาณฝนที่มากยังส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
HL ใช้วิธีการแก้ไขปัญหาโดยการปรับรูปแบบร้านให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเน้นการขยายผลิตภัณฑ์ Healthiness ซึ่งมีอัตรากำไรที่ดี นอกจากนี้ HL ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่กำลังซื้อตกต่ำ รวมถึงการจัดงาน conference academic เพื่อพัฒนาบุคลากรเภสัชกร
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
HL มีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 9 สาขาในปี พ.ศ. 2566 โดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพ และจะขยายไปยังต่างจังหวัดในปีหน้า นอกจากนี้ HL ยังมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางออนไลน์และใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลากหลาย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย HL ยังคงเป้าหมายการเติบโต 15% แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวยนัก
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 48.08]
-
**คาดการณ์รายได้เติบโต 15% ทำได้ไหม?**
ผู้บริหารยังคงมองภาพนี้อยู่ เพราะปัจจุบันอยู่ที่ 14% กว่าๆ และมองว่าอัตราการเติบโตยังใกล้เคียง
-
**ทำไม Ticket Per Day ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว?**
ผู้บริหารอธิบายว่าเนื่องจากฝนตกมากขึ้น ทำให้ Ticket ต่อวันลดลง อย่างไรก็ตาม มูลค่าต่อ Ticket กลับสูงขึ้น
-
**ทำไม Gross Profit Margin ไตรมาส 3 น้อยกว่าไตรมาส 2 ทั้งที่มีการกระจายสินค้า Healthiness มากขึ้น?**
ผู้บริหารชี้แจงว่าสินค้า Healthiness เพิ่งเริ่มกระจายในช่วงปลายไตรมาส 3 และต้นไตรมาส 4 นอกจากนี้ ไตรมาส 2 มีรายได้จาก ATK ซึ่งลดลงในไตรมาส 3
-
**ช่วยบอก Same Store Sales Growth ของไตรมาส 1, 2 และ 3?**
ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าไตรมาส 1 อยู่ที่ 6.8%, ไตรมาส 2 อยู่ที่ 8.3% และไตรมาส 3 ล่าสุดอยู่ที่ 3.4%
-
**ยอดขายและ Same Store Sales Growth ของไตรมาส 4 QTD เป็นอย่างไรบ้าง?**
ผู้บริหารกล่าวว่าเดือน 7 และ 8 ไม่ดีมาก แต่เดือน 9 กลับมาดีขึ้นทันที และคาดว่าแนวโน้มเดือน 10 ก็ค่อนข้างดี
-
**ค่าใช้จ่าย Q3 ไม่เพิ่มขึ้นจาก Q2 ทั้งที่มีสาขาเพิ่มขึ้น เป็นเพราะลดโปรโมชั่นหรือไม่?**
ผู้บริหารอธิบายว่าค่าใช้จ่ายลดลงเนื่องจากปิดสาขา Central ปิ่นเกล้า ซึ่งมีค่าเช่าสูง และมาเปิดสาขาใหม่ที่มีค่าเช่าถูกกว่า นอกจากนี้ Q2 มีค่าใช้จ่ายในการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่โอซาก้า
-
**ปีนี้จะเปิดได้ครบ 14 สาขาหรือไม่?**
ผู้บริหารตอบว่าปีนี้คาดว่าจะเปิดได้ 9 สาขา เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและโครงการต่างๆ เลื่อนออกไป
-
**มีแผนปรับลดการเปิดสาขาในแต่ละปี เพื่อเพิ่มกำไรสุทธิหรือไม่?**
ผู้บริหารกล่าวว่าการเปิดสาขาเท่าๆ กันไปเรื่อยๆ จะทำให้อัตราส่วนลดลงอยู่แล้ว และจะเห็นในค่าใช้จ่ายที่เป็นอัตราส่วนที่ไม่เพิ่มเหมือนปีที่แล้ว
-
**ที่เปิด 14 สาขาใน ปี 2567 ภาพรวมทำได้ดีไหม?**
ผู้บริหารตอบว่าภาพรวมค่อนข้างดี เพราะเปิดสาขาไม่เยอะทำให้โฟกัสได้มากขึ้น และทำให้ Break Even Point ดูดีกว่าก่อนหน้านี้
-
**สินค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็น แต่ยอดขายกลับไม่โตตามเป้า 15%?**
ผู้บริหารชี้แจงว่ายาโต แต่จำนวนบิลหายไปเนื่องจากฝนตกและสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี อย่างไรก็ตาม ในเดือน 9 เริ่มกลับมาเป็นปกติ
-
**บริษัทมีแผนการตลาดกับสินค้าแบรนด์ Q อย่างไร?**
ผู้บริหารกล่าวว่านอกจากงาน World Expo ที่โอซาก้า จะไปโชว์ที่งาน Medica ที่เยอรมัน และจะมีการทดสอบเรื่องโควิด และปีหน้าจะเป็นปีแห่งการตลาดของ Q โดยจะทำช่องทางออนไลน์ต่างๆ
-
**แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2566 จะเติบโตไหม?**
ผู้บริหารคาดว่าจะเติบโต เพราะ Q4 ค่อนข้างแน่นอนกว่า Q3 และฝนเริ่มน้อยลง รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถขายได้เต็มที่
-
**ปีที่แล้วมีกี่สาขา และไตรมาส 3 ปี 2566 มีกี่สาขา แต่ละแบรนด์มีอะไรบ้าง?**
ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าปีที่แล้วจบที่ 64 สาขา และไตรมาส 3 ปีนี้มี 69 สาขา โดยมี iCare 30, Pharmas 36 และ Super Drug 3
-
**เป้าการเปิดสาขาในปีนี้และปีต่อๆ ไปยังคงที่ 14 สาขาหรือไม่?**
ผู้บริหารตอบว่าเป้าปีหน้ายังคง 14 สาขา และตั้งใจจะเปิด 14 สาขาไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษ
-
**การเติบโตของรายได้และกำไรในไตรมาสที่ 3 เป็นไปตามคาดหรือไม่?**
ผู้บริหารกล่าวว่าต่ำกว่าคาด เนื่องจากสภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี แต่เดือน 9 ค่อนข้างดีกว่าชัดเจน
-
**กระแสและผลตอบรับของกลุ่ม Healthiness เป็นอย่างไรบ้าง?**
ผู้บริหารกล่าวว่า Healthiness เติบโตจากปีที่แล้วเกือบ 2 เท่า แม้ว่าจะออกสินค้ามาช่วงปลายปี
-
**ภาพรวมทั้งปีวางเป้าหมายเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์?**
ผู้บริหารกล่าวว่าแนวโน้มของตลาดไม่ดีมาก แต่การเติบโตของเรายังคงเป้าเหมือนเดิมคือ 15% ที่เราตั้งใจไว้
-
**ปัจจุบันสถานะทางการเงินเป็นอย่างไรบ้าง?**
ผู้บริหารกล่าวว่าอย่างที่เราเห็นว่าสัดส่วนหนี้สิน หรือว่าสภาพคล่องเนี่ยเรายังดีมากนะครับ แล้วก็ยังไม่มีสภาพวะเงินกู้เลย ที่เราเห็นว่า เอ๊ย มีเรื่องของหนี้เนี่ยมันจะเป็นเรื่องของ อ่า ทางบัญชีนะฮะ แล้วก็เรื่องของเงินสด และการที่เท่ากับเงินสดตอนนี้เรายังอยู่ระดับ 500 กว่าล้านอยู่เลยนะครับ
-
**แผนการขยายสาขาของ Super Drug เป็นอย่างไรบ้าง?**
ผู้บริหารกล่าวว่าอาจจะเป็นแบรนด์ที่เปิดได้ค่อนข้างยากกว่านะฮะ เพราะว่าเป้าหมายเราก็ต้องการเป็นคล้ายๆ ขายส่ง เพราะฉะนั้นตำแหน่งเนี่ยมันก็จะเป็นญาติที่เป็นหน้าโรงพยาบาล ซึ่งก็ไม่ได้มีพื้นที่เยอะมากครับ
-
**ปัจจุบันมีสาขาที่ถูกน้ำท่วมบ้างไหมครับ?**
ผู้บริหารกล่าวว่าไม่มีเลยครับ เราไม่ได้ ที่เราเปิดมาทั้งหมดไม่มีสาขาไหนที่โดนน้ำท่วมเลยครับ
-
**เราจะออกต่างจังหวัดปีไหน มองจังหวัดไหน เพราะอะไรครับ?**
ผู้บริหารกล่าวว่าก็ในช่วงปีหน้า จริงๆแล้วเรามองมาซักพักแล้วนะฮะ ก็ช่วงปีหน้า อาจจะเป็นปีที่เราเริ่ม มองต่างจังหวัดอย่างชัดเจนขึ้นนะฮะ เพราะว่าเรามองว่าจริงๆแล้ว พอ อัตราเปิดที่ไม่ดีเยอะมาก เรามีโอกาสที่จะไปโฟกัส ในสาขาใหม่ๆมากขึ้นนะฮะ ก็ถามว่ามองโซนไหน ก็มองอยู่หลายโซน แต่ว่าน่าจะเริ่มจากโซนใกล้ๆก่อนนะฮะ ในช่วงปีหน้า อย่างเช่นออก จากออกภาคตะวันออกก่อนครับ
-
**ช่วยเล่าอัปเดตเรื่องนโยบายที่รัฐมนตรีพาณิชย์พยายามผลักดันการซื้อยานอกโรงพยาบาล มีผลกระทบกับร้านขายยาอย่างไรบ้างครับ?**
ผู้บริหารกล่าวว่าขอแรกก็คือนโยบายนี้มันซึ่งเริ่มตอนเดือนพฤศจิกายนนะฮะ ช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะยังไม่เห็นภาพเท่าไหร่ว่าเกิดอะไรขึ้นนะฮะถามว่า ถ้าในความรู้สึกของคนทั่วไปก็มองว่าเอ๊ยไป เวลาที่เราไปโรงพยาบาลเอกชนแล้วก็อ่ะหมอก็จะเขียนกระดาษโน้ตเล็กๆ หรือหมอก็จะบอกว่าให้ซื้อยาอะไรนอก นอกข้างนอกโรงพยาบาลอยู่แล้วนะฮะ แต่สิ่งนึงที่เรา ตอบไม่ได้ก็คือคนไข้ทุกคนออกมาซื้อรึเปล่าเพราะคนไข้บางคนก็อาจจะ รู้สึกว่าการซื้อโรงพยาบาลเลยเนี่ย อาจจะง่ายกว่า เพราะการเขียนกระดาษโน้ตออกมาเนี่ย เค้าก็กลัวยาผิด ผิดตัวนะฮะ แต่ด้วยระบบใหม่นโยบายใหม่เนี่ย มันก็จะข้อดีที่ว่าคนไข้สามารถขอไปสั่งยาได้นะฮะ แต่ไปสั่งยาก็จะมีชื่อยาชัดเจน มีจำนวนมีการใช้ชัดเจนอันเนี้ย ถามว่าโครงการนี้มีข้อดียังไง ในแง่ข้อแรกก็คือมันก็คือเพิ่มความปลอดภัยให้คนไข้แน่นอนในการซื้อยาข้างนอกนะฮะ สองก็คือมันก็เป็นเรื่อง ของความประหยัดแน่นอนที่ ที่ช่วยได้นะฮะ และถามว่าเราจะได้ประโยชน์ยังไง คือเรา ถ้าเห็นข่าวต่างๆนี้ก็จะเห็นชัดเลยว่าเราร่วมโครงการนี้นะฮะ มีชื่อฟาแม็ก iCare Super ดัก ค่อนข้างชัดนะฮะที่เข้าร่วม แล้วก็เราก็น่าจะได้ประโยชน์จากการที่ไปสั่งยาที่ออกมา ร้านยามากขึ้นนะฮะ แล้วก็ในแง่ของการจ่ายยาก็จะได้รับความถูกต้องมากขึ้นด้วยครับ
โดยสรุป HL ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในตลาดร้านขายยา แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ แต่ด้วยกลยุทธ์ที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง HL จะสามารถบรรลุเป้าหมายและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้