บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SPALI กำไร Q4/67 เสี่ยง! โบรกฯ หั่นเป้าเหลือ 19.5 บาท แม้ยีลด์สูง 8.5%
P/E 6.87 YIELD 8.83 ราคา 17.00 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: SPALI แนวโน้มกำไรและคำแนะนำ
บริษัทหลักทรัพย์ พาย (PI) ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SPALI แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 19.5 บาท มองว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 4/2567 มีแนวโน้มอ่อนตัวลง (-24% YoY, -23% QoQ) จากยอดขายที่ลดลงและการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมา ทำให้ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 5.3 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงถึง 8.5% จึงแนะนำให้ทยอยซื้อลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัว
รายละเอียดการวิเคราะห์: ปัจจัยกระทบและแนวโน้ม
บล. พายคาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2567 ของ SPALI อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจาก 1) ยอดขาย (Presales) ที่หดตัว (-7.3% YoY) โดยเฉพาะโครงการแนวราบ ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเข้าชมโครงการที่ลดลง และ 2) การแข่งขันด้านราคาในตลาดคอนโดมิเนียมที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยอดขายรอโอน (Backlog) ของไตรมาส 1/2568 ที่ค่อนข้างต่ำ (1.2 พันล้านบาท) จะเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของรายได้ในปี 2568
แม้ว่าบล. พายคาดการณ์กำไรปี 2568 จะเติบโตเพียงเล็กน้อย 1.8% อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท จาก 1) รายได้ที่เติบโตเล็กน้อยจากอุปสงค์ที่ยังไม่ฟื้นตัว 2) แผนการเปิดโครงการใหม่ที่สูงถึง 5.2 หมื่นล้านบาท/4.6 หมื่นล้านบาท ในปี 2567/68 และ 3) ยอดขายคอนโดมิเนียมที่รับรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกำหนดการโอนคอนโดมิเนียม Blue Whale Huahin (มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ขายแล้ว 72%) ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรในปี 2568 ให้อยู่ในระดับสูงที่ 36-37%
ประมาณการและมูลค่าพื้นฐาน: ปรับลดประมาณการ
บล. พายปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 1.2% แม้ว่ารายได้อาจลดลง แต่ในไตรมาส 4/2567 อัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสอยู่ในระดับดีที่ 37% หนุนให้กำไรโดยรวมในปี 2567 ยังคงสูงอยู่ที่ 37.4% ขณะที่ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 7% จาก 1) อัตราการเยี่ยมชมโครงการที่อ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนอุปสงค์ของตลาดที่อ่อนแอ 2) การแข่งขันด้านราคาในตลาดคอนโดมิเนียมที่สูงขึ้นอาจกดดัน GPM 3) ยอด Backlog ที่ต่ำ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมีกำหนดโอนในปี 2568 เพียง 7.5 พันล้านบาท และ 4) บริษัทเห็นโอกาสปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยในปี 2568 รวมทั้งยังไม่มีสัญญาณมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ใหม่จากภาครัฐในระยะสั้น
บล. พายปรับลดมูลค่าพื้นฐานลง 20% มาอยู่ที่ 19.5 บาท จากความสามารถในการขายและการทำกำไรที่มีแนวโน้มอ่อนตัว และเมื่อพิจารณาแนวโน้ม ROE ที่ลดลง (-0.5 ppts) แต่ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง 8.5% ในปี 2568 โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานด้วยวิธี P/E จากการคิดลดเงินปันผล (DDM) จาก ROE 8.9% และ Cost of Equity 16.2% เทียบเท่า P/E 6.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย