บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
OKJ โตแรง! กำไรพุ่ง 43.4% ทะลุ 201 ล้านบาท ขยายสาขาต่อเนื่อง
P/E 17.43 YIELD 3.88 ราคา 4.12 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: OKJ สร้างการเติบโตแข็งแกร่งในปี 2567
OKJ หรือ ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงานปี 2567 สุดปัง! รายได้จากการขายรวม 2,421.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 41.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรสุทธิก็ไม่น้อยหน้า เติบโต 43.4% แตะ 201.7 ล้านบาท อานิสงส์จากการขยายสาขาและเมนูใหม่ที่โดนใจสายเฮลท์ตี้
ผลประกอบการและปัจจัยขับเคลื่อน
OKJ กวาดรายได้จากการขายรวม 2,421.1 ล้านบาท จากการขยายสาขาทั้งร้านโอ้กะจู๋, โอ้! จุ๊ซ และโอ้กะจู๋ แรปแอนด์โรล อีกทั้งสาขาเดิมยังคงเติบโตได้ดีที่ 7.7% นอกจากนี้ การเปิดตัวรสชาติใหม่ของโอ้! จุ๊ซ ภายใต้ชื่อ "Material Girl Smoothie" โดยมีชมพู่อารยาเป็น Brand Admirer ช่วยกระตุ้นยอดขาย ด้านกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,077.8 ล้านบาท เติบโต 39.4% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 201.7 ล้านบาท เติบโตถึง 43.4% แม้ค่าใช้จ่ายในการขายจะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา แต่โดยรวมแล้วผลประกอบการยังคงแข็งแกร่ง
แผนธุรกิจและโอกาสการลงทุน
4Q/67 กำไรเพิ่มเล็กน้อยเมื่อเทียบกับทั้งปี สาเหตุเกิดจากรายได้ยังเพิ่มขึ้นถึง 38.6% แต่กำไรขั้นตอนเพิ่มในอัตราลดลงเกิดจาก ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น จากการขยายสาขาไปยังภูมิภาคะวันออกเฉียงเหนือและมี โครงสร้างค่าเช่าที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับแบรนด์โอ้ จู๊ซ และโอ้กะจู๋ แรปแอนด์โรล และ ค่าใช้จ่ายในการเตรียมเปิดสาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงค่าใช้จ่ายการตลาดที่มีการเปิดตัว Brand Admirer และเมนูใหม่ของแบรนด์โอ้ จู๊ซช่วงไตรมาส 4/67
OKJ ยังคงมุ่งเน้นการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ พร้อมกับการพัฒนาเมนูใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ OKJ จึงเป็นบริษัทที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างรอบคอบ เช่น การแข่งขันในตลาดร้านอาหารที่สูง, ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ, และความเสี่ยงด้านการดำเนินงานต่างๆ
OKJ เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทรนด์สุขภาพ อย่างไรก็ตาม P/E ที่ค่อนข้างสูงบ่งชี้ถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อการเติบโตในอนาคต การลงทุนอาจเหมาะสำหรับ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง และมองหาการเติบโตในระยะยาวมากกว่าการรับเงินปันผล