บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

FVC โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2568 สุดปัง! กำไรสุทธิพุ่งทะยานถึง 1,108.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 18.46 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุนสุทธิ 1.83 ล้านบาท การเติบโตนี้มีแรงหนุนหลักจากการขยายตัวของ กลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) โดยเฉพาะธุรกิจการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม

ผลการดำเนินงานที่น่าจับตา:

ในไตรมาส 3 ปี 2568 FVC มีรายได้รวม 293.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.87% เมื่อเทียบกับ 264.65 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 โดยรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 10.87% ในไตรมาส 3 และ 9.36% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

• กลุ่มธุรกิจ B1 (อุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ): รายได้ลดลงเนื่องจากงานโครงการขนาดใหญ่ที่ล่าช้าและการแข่งขันที่สูงขึ้น
• กลุ่มธุรกิจ B2 (พาณิชย์และที่พักอาศัย): รายได้เพิ่มขึ้น 14.89% จากกำลังซื้อภายในประเทศและการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
• กลุ่มธุรกิจ B3 (บริการทางการแพทย์): รายได้เพิ่มขึ้น 13.92% จากการขยายสาขาและจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กำไรขั้นต้นยังเพิ่มขึ้นถึง 71.30% ในไตรมาส 3 และ 32.63% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสะสม 9 เดือนเพิ่มขึ้นเป็น 24.95% จาก 20.58% ในปีก่อน

ข้อสังเกตและสถานะทางการเงิน:

ถึงแม้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจะเพิ่มขึ้น 18.60% ในไตรมาส 3 และ 11.94% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 แต่ FVC ยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งไว้ได้ โดยมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เพิ่มขึ้นถึง 70.65% จากสิ้นปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินสด ลูกหนี้การค้า และเงินจ่ายล่วงหน้าค่าหุ้น ในขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นเพียง 3.78% และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 108.71% จากสิ้นปี 2567

สรุปและทิศทางในอนาคต:

FVC มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2568 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ บริษัทฯ วางแผนที่จะมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายสินค้า การเจาะตลาดอุตสาหกรรมใหม่ และการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์สำหรับกลุ่มธุรกิจ B1 ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ B2 จะมุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม และการรักษามาตรฐานบริการหลังการขาย ส่วนกลุ่มธุรกิจ B3 จะเดินหน้าขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม FVC ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด