บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 49.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้ว่ารายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีจะเติบโต 8.6% จากการส่งออกผลิตภัณฑ์หลักและการรุกตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่

ผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

ในไตรมาส 3/2568 PCE มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 6,999.5 ล้านบาท ลดลง 21.0% YoY และ 37.4% QoQ กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 94.5 ล้านบาท ลดลง 49.5% YoY และ 29.4% QoQ ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 23,609.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% YoY แต่กำไรสุทธิลดลง 35.5% YoY เหลือ 256.0 ล้านบาท

อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9 เดือนปี 2568 ลดลงจาก 3.7% เหลือ 2.6% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2568 ฟื้นตัวมาอยู่ที่ประมาณ 4% จากต้นทุนวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือที่อยู่ในระดับต่ำ

วิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้ม

สถานการณ์อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในช่วงไตรมาส 4/2568 ถึงต้นปี 2569 มีแนวโน้มที่ผลผลิตจะกลับมาเพิ่มขึ้นจากอินโดนีเซีย ราคาน้ำมันปาล์มยังคงอยู่ในระดับสูงจากการที่อินโดนีเซียประกาศว่าจะมีการปรับใช้ B50 ในปี 2569 สำหรับประเทศไทย ผลผลิตมีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 6,349.2 ล้านบาท ลดลง 4.0% จากสิ้นปี 2567 หนี้สินรวม 1,257.3 ล้านบาท ลดลง 7.9% จากสิ้นปี 2567 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงมาอยู่ที่ 5,091.9 ล้านบาท ลดลง 2.9% จากสิ้นปี 2567 อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.2 เท่า

สรุปและข้อสังเกต

แม้ว่า PCE จะมีรายได้รวมเติบโตในช่วง 9 เดือนแรกของปี แต่กำไรสุทธิที่ลดลงอย่างมากในไตรมาส 3/2568 เป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง การฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 เป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังต้องติดตามว่าจะสามารถรักษาแนวโน้มนี้ไว้ได้หรือไม่ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มและการบริหารจัดการต้นทุนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อผลประกอบการของ PCE ในอนาคต