บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
JMT กำไรทรุด! ไตรมาส 3/68 ร่วง 46.2% พิษเศรษฐกิจซบเซา หนี้ครัวเรือนพุ่ง
P/E 10.63 YIELD 7.50 ราคา 8.80 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ
JMT กำไรสุทธิทรุดฮวบ 46.2% ในไตรมาส 3/2568 เหลือ 231.3 ล้านบาท เหตุรายได้รวมลดลง 12.8% จากการจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพที่ลดลงและรายได้จากการรับประกันภัยที่ลดลง สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและหนี้ครัวเรือนที่สูงยังคงเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ
ผลกระทบจากเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2568 ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแรง ภาระหนี้ครัวเรือนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ แม้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP จะลดลง แต่ยังสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น NPLs เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพื่อประคองเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ผลประกอบการ
กำไรสุทธิที่ลดลง 46.2% มาจากรายได้รวมที่ลดลง 12.8% การจัดเก็บหนี้ที่ลดลงและรายได้จากการรับประกันภัยที่ลดลงเป็นปัจจัยหลัก นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ยังส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ JMT มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2567 โดยมีเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ที่คาดว่าจะได้รับชำระเกินกว่าหนึ่งปีคิดเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดของสินทรัพย์รวม
โอกาสและความเสี่ยง
ความเสี่ยงหลักคือเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและหนี้สินครัวเรือนที่สูง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ อย่างไรก็ตาม JMT มีโอกาสเติบโตจากการทยอยจำหน่ายพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงิน และความพร้อมในการร่วมมือกับภาครัฐในการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ JMT ดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บหนี้ ลดต้นทุน และรักษากระแสเงินสด พร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ