KKP กำไรปี 67 ยังหดตัว! LHS แนะ "ถือ" รับปันผล มองธุรกิจตลาดทุนดันกำไรโต

P/E 9.05 YIELD 7.32 ราคา 55.00 (2.80%)


ไฮไลท์สำคัญ: KKP กำไรหด แต่ยังมีปันผล

LHS (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) ประเมิน KKP (ธนาคารเกียรตินาคินภัทร) กำไรปี 2567 ยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แต่คาดการณ์ว่าธุรกิจตลาดทุนจะเป็นตัวขับเคลื่อนกำไรให้เติบโตได้ในปี 2568 พร้อมแนะนำ "ถือ" รับปันผล โดยให้ราคาเป้าหมาย 58.00 บาท มอง Upside เหลือไม่มาก

เหตุผลที่ LHS มอง KKP กำไรยังหดตัว

LHS ระบุว่า KKP รายงานกำไรปี 2567 ที่ 4,985 ล้านบาท ลดลง 8.4% YoY ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สาเหตุหลักมาจากการเร่งปล่อยสินเชื่อในช่วงปี 2565-2566 ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ส่งผลลบต่อธุรกิจเช่าซื้อ ทำให้มีปัญหาคุณภาพหนี้และต้องตั้งสำรองสูง รวมถึงมีขาดทุนจากการขายรถยึด อย่างไรก็ตาม KKP พยายามแก้ไขปัญหาด้วยการคุมเข้ม ชะลอการปล่อยสินเชื่อ และ Clean up พอร์ตสินเชื่อ จนคุณภาพพอร์ตสินเชื่อในปัจจุบันเริ่มดีขึ้น

ผู้บริหาร KKP มองว่าภาพรวมธุรกิจธนาคารยังถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจและหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้กลยุทธ์ปีนี้จะไม่เร่งเติบโตด้านสินเชื่อ โดยตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้ทรงตัวจากปีก่อน และยังไม่วางใจเรื่องคุณภาพสินทรัพย์จึงตั้งเป้า Coverage Ratio ที่ระดับใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.1-4.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย และ Credit Cost ที่ระดับใกล้เคียงเดิมที่ 2.2-2.4% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ทั้งนี้ KKP ตั้งเป้า ROAE ที่ระดับ 9-10% มากกว่าปีก่อนที่ 8.4%

ธุรกิจตลาดทุนหนุนกำไร และคำแนะนำการลงทุน

LHS คาดว่าตัวที่จะขับเคลื่อนผลประกอบการของ KKP จะมาจากธุรกิจที่สร้างรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย อย่างธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และธุรกิจจัดการกองทุน (Asset Management) ที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำและภายใต้การจัดการเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า KKP จะมีกำไรปี 2568 ที่ 5,333 ล้านบาท โตขึ้นราว 6%

ถึงแม้กำไรปี 2567 จะหดตัวลงอีกปี แต่ LHS มองเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในด้านคุณภาพของสินทรัพย์และ Credit Cost ที่ลดลงจากปีก่อน ขณะที่การหันไปให้ความสำคัญกับธุรกิจอย่าง Wealth Management และ Asset Management ที่จะช่วยสร้าง Recurring Income บน Cost ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้กำไรกลับมาเติบโตได้ในปีนี้ ประกอบกับ KKP ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นปันผลดีสม่ำเสมอ โดยคาดจ่ายปันผลงวดปี 2567 อีก 1.75 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.2% อย่างไรก็ตาม LHS มองว่าราคาเป้าหมายที่ 58.00 บาท มี Upside เหลือน้อย จึงแนะนำเพียง "ถือ" รับปันผล

โพสต์ล่าสุด