https://aio.panphol.com/assets/images/community/11107_FDBB3D.png

KCG กำไร Q3/25 ลดลงเล็กน้อย แต่ Q4/25 เตรียมทำ New High!

P/E 9.22 YIELD 5.13 ราคา 8.00 (0.00%)

หยวนต้ายังคงแนะนำ "ซื้อ" KCG ที่ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท มองข้ามผลกระทบระยะสั้นจากการปิดปรับปรุงโรงงาน และคาดหวังการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต

ไฮไลท์สำคัญ

  • KCG Corporation (KCG) คาดการณ์กำไรจะกลับมาทำ New High ในไตรมาส 4 ปี 2568
  • แม้ไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรจะลดลงเล็กน้อยจากการปิดปรับปรุงโรงงาน แต่ยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  • บล.หยวนต้า ยังคงมองบวกต่อการเติบโตของ KCG ในปี 2569 จากกำลังการผลิตใหม่เต็มปี

ผลการดำเนินงาน 3Q25 ตามคาด แต่ 4Q25 สดใส

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 3 ปี 2568 ของ KCG อยู่ที่ 81 ล้านบาท ลดลง 18.6% QoQ แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 15.2% YoY ปัจจัยหลักมาจากรายได้ที่ขยายตัวเล็กน้อย แม้มีการปิดซ่อมปรับปรุงโรงงานในเดือนสิงหาคม 2568 แต่บริษัทฯ ได้เตรียมการผลิตสินค้าไว้ล่วงหน้าแล้ว นอกจากนี้ ธุรกิจ B2B และ B2C ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

สำหรับไตรมาส 4 ปี 2568 คาดว่ากำไรจะกลับมาทำ New High อีกครั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วง High season ของธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มบิสกิตที่เป็นสินค้ายอดนิยมสำหรับของฝาก นอกจากนี้ การรับรู้กำลังการผลิตใหม่เต็มไตรมาส และการเริ่มออกสินค้าใหม่กลุ่มบิสกิตใน Makro จะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล เช่น โครงการ "คนละครึ่ง" ที่คาดว่าจะช่วยหนุนกำลังซื้อในช่วงท้ายปี

ปี 2569 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

หยวนต้ามีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในปี 2569 ของ KCG โดยคาดการณ์กำไรปกติที่ 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% YoY ปัจจัยหลักมาจากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่เต็มปี ทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับการผลิตสินค้ากลุ่มเนยได้มากขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อที่คาดว่าจะขยายตัวได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ และ Election Rally ที่จะช่วยหนุนกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2569

คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเหมาะสม 12.20 บาท

หยวนต้าคงราคาเหมาะสมของ KCG ที่ 12.20 บาท โดยให้เหตุผลว่าราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่แพง ซื้อขายบน PER25 เพียง 10.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มขนมขบเคี้ยวที่กรอบ 13-14 เท่า นอกจากนี้ KCG ยังเป็นหุ้นที่สามารถคาดหวังเงินปันผลได้ในระดับ 5-6% ต่อปี ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นยังขาดปัจจัยบวกในระยะสั้น ดังนั้น เชิงกลยุทธ์อาจพิจารณาเข้าสะสมหลังงบไตรมาส 3 ปี 2568 ออกไปแล้ว

วิธีการประเมินมูลค่า: PER @ 14.9x

โพสต์ล่าสุด