https://aio.panphol.com/assets/images/community/10985_111C30.png

SCGP กำไร Q3/68 ทรงตัว แต่โต YoY! INVX ชี้เป้า 17.5 บาท

P/E 23.56 YIELD 3.57 ราคา 15.40 (0.00%)

INVX ประเมิน SCGP กำไรสุทธิ Q3/68 ที่ 1 พันลบ. ทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY แม้รายได้ลดลงจากราคาขายเฉลี่ยกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง แต่บริหารจัดการต้นทุนได้ดี และได้ประโยชน์จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Duy Tan และปรับโครงสร้างหนี้ Fajar คงคำแนะนำ NEUTRAL ราคาเป้าหมายกลางปี 69 ที่ 17.5 บาท

คาดการณ์กำไร Q3/68

INVX คาดการณ์กำไรสุทธิ Q3/68 ของ SCGP ทรงตัว QoQ แต่ เพิ่มขึ้น 74% YoY มาอยู่ที่ 1.0 พันลบ. แม้รายได้จะลดลง 2.0% QoQ และ 7.3% YoY จากราคาขายเฉลี่ยกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง รวมถึงราคาเยื่อใยสั้น (-8.6% QoQ, -21.7% YoY) และเยื่อเคมีละลายได้ (-4.8% QoQ, -15.4% YoY) ที่ลดลง แต่ SCGP ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Duy Tan อีก 30% เป็น 100% ในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา (+130 ลบ.ต่อปี) รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ของ Fajar ซึ่งคาดว่าจะประหยัดดอกเบี้ยจ่ายไปได้ 250-300 ลบ.ต่อปี ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2568 ทำให้ภาพกำไรยังสามารถทรงตัวได้ QoQ และเพิ่มขึ้น YoY

แนวโน้มกำไร Q4/68

INVX คาดว่ากำไรปกติ Q4/68 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ 2Q68 และ 3Q68 แม้ผลประกอบการในเดือน ต.ค. และ พ.ย. จะยังคงทรงตัว แต่โดยปกติแล้วในเดือนสุดท้ายของปีจะมีการผลิตที่ค่อนข้างน้อยจากวันหยุดยาวของลูกค้าหลายราย นอกจากนี้ SCGP ยังยอมรับว่า Fajar ซึ่งตั้งเป้าว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในระดับกำไรสุทธิได้ใน 4Q68 อาจไม่สามารถทำได้ตามเป้า โดยคาดว่าจะเลื่อนออกไปเป็นครึ่งแรกของปี 2569 แทน เนื่องจากราคาขายกระดาษบรรจุภัณฑ์ปรับตัวขึ้นช้ากว่าคาด อย่างไรก็ตาม EBITDA ยังสามารถยืนสูงกว่าจุดคุ้มทุนได้หลังจากสามารถถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBITDA ใน 2Q68

ข้อสังเกตและกลยุทธ์

SCGP ยังคงเน้นทำ M&A ธุรกิจปลายนํ้า โดยมีเป้าหมายเพิ่มระดับการบูรณาการ โดยเฉพาะในโรงงานในอินโดนีเซียที่ยังคงมีระดับการบูรณาการตํ่ากว่าฐานการผลิตในเวียดนามและไทย ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา M&A 1 ดีลในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ปลายนํ้าในอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะปิดดีลได้ภายใน 4Q68 หากผลประกอบการ 3Q68 ออกมาตามคาด กำไร 9M68 จะคิดเป็น 81% ของประมาณการกำไรเต็มปี 2568 เนื่องจาก INVX คาดว่ากำไรปกติ 4Q68 จะอ่อนตัวลง QoQ

สรุปและคำแนะนำ

INVX คงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SCGP โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 17.5 บาท อ้างอิง PE 20 เท่า หรือระดับ -1.5SD ของ PE เฉลี่ย 3 ปี ความเสี่ยงที่สำคัญคือ เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้าต่อเนื่อง และความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ต้นทุนถ่านหินเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญคือการบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ยังอยู่ระดับสูง

โพสต์ล่าสุด