NDR สรุป Oppday Q2/2568: โฟกัส Bio-char และ Electornic, ตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้าน

P/E 96.93 YIELD 2.92 ราคา 1.30 (0.00%)

NDR สรุป Oppday Q2/2568: โฟกัส Bio-char และ Electornic, ตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้าน

สรุป Opportunity Day ของ NDR (ND Rubber) ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 โดยเน้นภาพรวมของบริษัท, โครงสร้างธุรกิจ, ผลประกอบการ, และแนวโน้มในอนาคต

  1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

    ND Rubber มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 กลุ่ม: สัมฤทธิ์ธิวนิชา (35.93%), CISB (17.22%), และ EG Industry (24.08%) ส่วนที่เหลือ (22.77%) เป็นนักลงทุนทั่วไป ทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 456.89 ล้านบาท

    โครงสร้างธุรกิจประกอบด้วยบริษัทแม่ (ND Rubber) และบริษัทย่อย 4 แห่ง: FKR (มาเลเซีย), ND Interparts, ND Green Planet, และ Extronic โดยแต่ละบริษัทมีธุรกิจหลักที่แตกต่างกัน เช่น FKR เน้นนำเข้าและจำหน่ายยางนอก/ในรถจักรยานยนต์ และรองเท้านักเรียน, ND Interparts จำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์, ND Green Planet ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟและไบโอชาร์, และ Extronic เป็น Testing Center สำหรับอุปกรณ์ 5G

    รายได้จากการขายในไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 221.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว (214 ล้านบาท) แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีเดียวกัน (231 ล้านบาท) สาเหตุหลักมาจากรายได้ของ FKR ที่ลดลงเนื่องจาก Back-to-School ในมาเลเซียหมดไป และผลกระทบจากความไม่สงบตามชายแดน

    รายได้ในประเทศค่อนข้างคงที่ (ประมาณ 84 ล้านบาท) ในขณะที่รายได้จากต่างประเทศเติบโตขึ้นเล็กน้อย กำไรขั้นต้นใกล้เคียงกันในทุกไตรมาส (18-19%) แต่กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากการจ้างคุณลำไย ไหทองคำ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทำให้มีค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท

    ทรัพย์สินและหนี้สินไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงเป็นการดำเนินงานตามปกติ มีการคืนหนี้บางส่วนและเบิกเงินหมุนเวียนออกมาบ้าง

  2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

    ND Green Planet กำลังขยายธุรกิจไปสู่ Bio-char Project โดยเครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกติดตั้งในโรงงานแล้ว คาดว่าจะเริ่มทดสอบเครื่องในเดือนตุลาคม และเริ่มดำเนินการและมีรายได้ในไตรมาส 4

    Extronic ดำเนินการสร้างห้อง Clean Room เสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้เช่นกัน

    ESG Project: ND Green Planet ผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้จำนวนมาก

  3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

    สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว และสถานการณ์ตามชายแดนยังไม่แน่นอน

    ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชาและพม่า

  4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

    ND Rubber คาดหวังว่าการได้แบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นคุณลำไยจะช่วยให้ผู้บริโภครู้จักสินค้ามากขึ้น และส่งผลให้ยอดขายดีขึ้นในระยะยาว

    บริษัทมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศไปยังพื้นที่ที่ยังไม่มีตัวแทนจำหน่าย

  5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

    ND Rubber ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ไว้ที่ 950-1,000 ล้านบาท โดยยังไม่ปรับเป้าหมาย

    คาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 หรือสูงกว่าเล็กน้อย และผลประกอบการโดยรวมจะดีกว่าไตรมาส 2 เนื่องจากไม่มีค่าการตลาดสูงเหมือนไตรมาสที่ผ่านมา

    ครึ่งปีหลัง คาดว่ารายได้จะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยบวกจากต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกลง และปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมและชายแดน

    หาก NDGP และ Extronic สามารถสร้างรายได้ได้ตามเป้าหมาย จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาทได้

    ND Rubber ยังคงโฟกัสที่ธุรกิจ Bio-char และ Extronic เพื่อให้ทั้งสองโปรเจ็กต์นี้ประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ที่มั่นคง

  6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 18:38 ]**
    1. **แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3:**
      • **คำถาม:** แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 เทียบ Q on Q และ Year on Year จะเติบโตหรือไม่ เพราะอะไร?
      • **คำตอบ:** รายได้น่าจะใกล้เคียงไตรมาส 2 หรือสูงกว่าเล็กน้อย สถานการณ์ในประเทศค่อนข้างเอาเรื่อง สถานการณ์ชายแดนยังไม่จบ ไตรมาส 3 เจอน้ำท่วมหลายพื้นที่ ยอดขายในประเทศชะลอตัวไปบ้าง แต่ผลประกอบการโดยรวมน่าจะดีกว่าไตรมาส 2 เพราะไม่มีค่าการตลาดสูง
    2. **ช่วงครึ่งปีหลัง:**
      • **คำถาม:** ช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไรบ้าง เห็นปัจจัยบวก-ลบอะไรบ้าง?
      • **คำตอบ:** รายได้ในครึ่งปีหลัง (ไตรมาส 3-4) น่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก อาจมีการชะลอตัวจากน้ำท่วมและชายแดนที่ยังไม่ทราบว่าจะกลับมาเปิดด่านค้าขายกันได้เมื่อไหร่ ปัจจัยลบคือชายแดนพม่ายังปิดทำการ สินค้าส่งไปพม่ายากขึ้น ปัจจัยบวกคือต้นทุนวัตถุดิบครึ่งปีหลังน่าจะถูกกว่าครึ่งปีแรก โดยรวมแล้วรายได้น่าจะทรงๆ กับครึ่งปีแรก ในส่วนของกำไรน่าจะยังคงรักษาฐานกำไรไว้ได้
    3. **เป้ารายได้ปี 2568:**
      • **คำถาม:** ภาพรวมปี 2568 วางเป้ารายได้โตเท่าไหร่ มีการปรับเป้าหมายไหม?
      • **คำตอบ:** พยายามไปแตะที่ 950-1,000 ล้านบาท เป้าหมาย 1,000 ล้านยังไม่ปรับเป้าหมาย พยายามทำให้ไปถึงตรงนั้นให้ได้อยู่ ถ้าเร่งรายได้จาก Bio-char กับ Extronic เข้ามาได้ในปีนี้ เชื่อว่าน่าจะไปถึง 1,000 ล้านได้ ต้องรอดูว่าจะเร่งรายได้จาก 2 ธุรกิจนี้เข้ามาได้ด้วยหรือไม่
    4. **ภาพรวมอุตสาหกรรม:**
      • **คำถาม:** ภาพรวมอุตสาหกรรมจะเป็นยังไงบ้างในครึ่งปีหลัง?
      • **คำตอบ:** แยกในประเทศกับต่างประเทศ ต่างประเทศมีปัญหาเรื่องชายแดน 2 ประเทศ แต่ประเทศอื่นๆ ยังค้าขายได้และมีออเดอร์ที่ดีอยู่ ในประเทศหลังมีเรื่องน้ำท่วมคงชะลอตัวลง ต้องดูว่าปลายปีฝนตกทางใต้เยอะจะมีปัญหาน้ำท่วมภาคใต้หรือไม่ ถ้าไม่มี ไตรมาส 4 น่าจะมีแนวโน้มที่ดีกว่าไตรมาส 3 โดยรวมครึ่งปีหลังคงใกล้เคียงหรืออาจจะดีกว่าครึ่งปีแรกเล็กน้อย
    5. **กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิ:**
      • **คำถาม:** กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิในไตรมาส 3 คาดว่าจะเป็นอย่างไร?
      • **คำตอบ:** กำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 อาจจะใกล้เคียง โตกว่าไตรมาส 2 หรือไตรมาส 1 ปีนี้เล็กน้อย แต่คงไม่ก้าวกระโดดมากนัก แนวโน้มวัตถุดิบมีขยับลงบ้างแต่ไม่หวือหวา กำไรสุทธิคงขยับขึ้นมาอยู่ในระดับปกติ เพราะค่าใช้จ่ายการตลาดจะลดลง จะไม่สูงเหมือนไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
    6. **แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบ:**
      • **คำถาม:** แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบไตรมาส 3 เป็นอย่างไร?
      • **คำตอบ:** เริ่มเป็นขาลงในหลายๆ ตัว ไตรมาส 3 เองก็มีหลายๆ ตัวที่เริ่มลง แต่ลงแบบก้าวกระโดดไหมก็ไม่ใช่ ค่อยๆ ไหลลง โดยรวมๆ ต้นทุนวัตถุดิบไตรมาส 3 ก็อาจจะต่ำกว่าไตรมาส 2, ไตรมาส 1 เล็กน้อย
    7. **การใช้คุณลำไยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์:**
      • **คำถาม:** การลงทุนใช้คุณลำไย ไหทองคำ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์จะเป็นประโยชน์กับบริษัทอย่างไร?
      • **คำตอบ:** การตลาด สินค้า ถ้าจะแข่งขันในเรื่องของราคาหรือการใช้ระบบจัดจำหน่ายอย่างเดียว มันก็จะเป็นการแข่งขันที่จะทำให้มาร์จิ้นน้อยลงเรื่อยๆ การสร้างความเชื่อมั่น การสร้างความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ ในเรื่องของแบรนด์ มันเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ได้คาดหวังว่าจะขายสินค้าให้มันแพงๆ เป็นสินค้า Luxury คงไม่ได้คาดหวังแบบนั้น แต่การนำคุณลำไยเข้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ จะทำให้ผู้บริโภครวมถึงผู้จัดจำหน่ายรู้จัก ND Rubber มากขึ้น คาแรคเตอร์ของคุณลำไยเองจะบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ผู้บริโภคซึมซับความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ในระยะยาว คนจะรู้จัก ND Rubber มากขึ้น รู้จักตัวตนของ ND Rubber ได้ดีมากขึ้น จะทำให้สินค้าเข้าถึงมือผู้บริโภคเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้นและทำให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น มันก็จะย้อนกลับมาที่เรา ทำให้เราขายสินค้าได้ง่ายขึ้น จะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในระยะยาว
    8. **การขยายตลาด:**
      • **คำถาม:** การขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง?
      • **คำตอบ:** การขยายตลาดในประเทศจริงๆ เราก็มีตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นรายเล็กบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นรายเล็กรายกลางที่เพิ่มๆ ขึ้นมาในบางพื้นที่ แต่สภาวะเศรษฐกิจในประเทศเองค่อนข้างที่จะไม่ฟื้น กำลังซื้อในประเทศมันหดตัวลงและมันยังไม่กลับมา ประกอบกับสภาวะชายแดน สภาวะน้ำท่วมก็เลยทำให้ตลาดในประเทศค่อนข้างซบเซา แต่เราก็พยายามขยายไปยังพื้นที่ที่เรายังไม่มีตัวแทนจำหน่ายก็ขยายไปได้เรื่อยๆ จากการที่เราใช้คุณลำไยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ก็ส่งผลดีในด้านนี้ สำหรับตลาดในประเทศส่วนหนึ่งก็คือทำให้มีคนถามหาเข้ามาหาเราบ้างว่าอยากจะเอาสินค้าเข้ามาจำหน่าย เราก็สามารถส่งต่อให้ฝ่ายขายเข้าไปดีลและก็มีตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นได้บ้าง จากการใช้คุณลำไยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ส่วนตลาดต่างประเทศเองก็พยายามดีลกับตลาดยุโรปอยู่ 1-2 ประมาณ 2-3 ประเทศ แต่ว่ายังไม่ได้ผลลัพธ์ ยังไม่ได้คำตอบ ยังอยู่ในช่วงระหว่างการดีลกันอยู่ ถ้าเกิดสามารถตกลงกันได้ก็จะมียุโรปเพิ่มเข้ามา
    9. **บริษัทลูกในมาเลเซีย:**
      • **คำถาม:** บริษัทลูกในประเทศมาเลเซียเป็นอย่างไรบ้าง ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?
      • **คำตอบ:** โดยรวมๆ FKR ในมาเลเซียก็มีผลประกอบการที่ดี ยังคงมีกำไรและก็มีรายได้ที่เติบโตขึ้น ถ้าเทียบกับประเทศไทยต้องบอกว่ามาเลเซียตอนนี้ดูเหมือนสภาวะเศรษฐกิจจะดูเป็นบวกกว่าประเทศไทยอยู่บ้าง ก็เลยทำให้ในมาเลเซียการขายสินค้าก็ไม่หนักหนาสาหัสเหมือนกับช่วงปีก่อนๆ ปีนี้ในมาเลเซียคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายและก็สร้างผลกำไรให้เรากลับมารวมในงบเราเนี่ยมีผลกำไรที่ดีได้
    10. **ความคืบหน้าธุรกิจถ่านชีวมวล:**
      • **คำถาม:** ความคืบหน้าธุรกิจถ่านชีวมวล?
      • **คำตอบ:** อย่างที่เรียนตอนในภาพไป ตอนนี้เครื่องเข้ามาแล้วกำลังติดตั้งอยู่ คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้หรือไม่เกินกลางเดือนหน้าก็จะติดตั้งเสร็จแล้วก็จะเริ่มทดลองเครื่อง มั่นใจว่าไตรมาส 4 เนี้ยมีรายได้จากธุรกิจถ่านชีวมวลแน่ๆ
    11. **ความขัดแย้งประเทศเพื่อนบ้าน:**
      • **คำถาม:** ความขัดแย้งประเทศเพื่อนบ้าน?
      • **คำตอบ:** มีผลกระทบแน่นอน ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก็ทำให้ชายแดนถูกปิด เราก็ไม่สามารถส่งสินค้าข้ามไปได้เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ก็ทำให้รายได้ส่วนนี้หายไป ถึงแม้จะไม่ได้เป็นตัวเลขที่เยอะต่อเดือน แต่ก็หายไป ถ้าสะสมหลายๆ เดือนมันก็น่าเสียดายเหมือนกัน ในส่วนของทางพม่าก็จะไม่ได้เป็นความขัดแย้งระหว่างเรากับเขา มันเป็นความขัดแย้งภายในประเทศ แต่ว่าก็ทำให้เกิดปัญหาเหมือนกัน เพราะว่าล่าสุดชายแดนก็ถูกปิดหรือสินค้าที่เราส่งไปกว่าจะข้ามไปถึงลูกค้าได้ก็จะใช้เวลานานกว่าปกติ ก็ทำให้ออเดอร์ที่เราจะได้จากทางพม่าเนี่ย แทนที่จะได้เร็วขึ้นก็ช้าลงเพราะว่าสินค้ากว่าจะส่งแล้วจะข้ามไปได้มันใช้เวลา ก็ทำให้ ออเดอร์ใหม่ก็จะยังไม่มาจนกว่าสินค้าเนี่ยจะข้ามไปถึง
    12. **ความคืบหน้าโครงการ Testing Center:**
      • **คำถาม:** ความคืบหน้าโครงการ Testing Center?
      • **คำตอบ:** อย่างที่แสดงในรูปเมื่อกี๊ ห้อง Clean Room เสร็จแล้ว เครื่องถูกนำไปวางแล้ว ปัจจุบันกำลังติดตั้งเดินสายไฟ แล้วก็เทสระบบต่างๆ คาดว่าไตรมาส 4 เนี้ยน่าจะเริ่มมีรายได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าเกิดมีดีเลย์จากลูกค้าหรืออะไรยังไง คิดว่าอย่างช้าก็ไตรมาส 1 ปีหน้าเนี่ยมีรายได้แน่นอน
    13. **แผนการลงทุนหรือโครงการใหม่ๆ:**
      • **คำถาม:** บริษัทมีแผนจะลงทุนหรือจะมีโครงการใหม่ๆ เพิ่มอีกหรือไม่?
      • **คำตอบ:** ณ ปัจจุบันยังไม่มีโครงการใดๆ เรายังไม่มีโครงการใหม่ๆ ที่จะลงทุนเพิ่ม ยังโฟกัสอยู่กับที่ Bio-char และก็ Extronic เพื่อที่จะทำให้ 2 โปรเจ็กต์นี้ที่เราลงไปเนี่ยเกิดแล้วก็มั่นคงก่อน พอ 2 โปรเจ็กต์นี้ Stable แล้ว ถ้ามีโอกาสหรือมีโครงการอะไรใหม่ๆ เข้ามา ก็ค่อยมาวางแผนกันอีกทีนึง ตอนนี้หลักๆ ก็จะมุ่งเน้นไปที่ 2 ธุรกิจนี้กับธุรกิจเดิมเราที่เป็นรากฐานของ ND Rubber

โดยสรุป, NDR ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตผ่านธุรกิจหลักและขยายไปยังธุรกิจใหม่ เช่น Bio-char และ Extronic โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้และสร้างผลกำไรที่มั่นคงในอนาคต แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ, บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการเติบโตและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์

โพสต์ล่าสุด