บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

MEB Oppday สรุปผลประกอบการ Q2/2568 พร้อมแผนขยายธุรกิจและลงทุนใน Cybersecurity

MEB Oppday สรุปผลประกอบการ Q2/2568 พร้อมแผนขยายธุรกิจและลงทุนใน Cybersecurity

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2568 และช่วงครึ่งปีแรกของบริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้บริหารให้ข้อมูลและตอบคำถามนักลงทุน

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

• รายได้รวมไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 544 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อน
• รายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,115 ล้านบาท เติบโต 3% จากปีก่อน
• กำไรสำหรับงวดไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 103 ล้านบาท ลดลง 12% จากปีก่อน
• สาเหตุหลักที่กำไรลดลง: รายได้ลดลงเล็กน้อย และมีค่าใช้จ่ายพิเศษ one-time รวมถึงการรวมงบการเงินของ Inkognito Lab (เดือนมิถุนายน)
• จำนวนผู้ใช้งาน (MAU) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ:

• สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
• การลงทุนใหม่ในธุรกิจ Cybersecurity (Inkognito Lab) ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

1. การลงทุนใน Inkognito Lab:
• สร้างการเติบโตเชิงกลยุทธ์ (New Engine)
• ตอบโจทย์ความต้องการด้าน Cybersecurity ที่เพิ่มขึ้นในยุคดิจิทัล
• กระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
2. แพลตฟอร์ม Luna:
• ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ (จำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ภาษาต่างประเทศ)
• ยอดดาวน์โหลดมากกว่า 500,000 ครั้งทั่วโลก
• ช่วยเพิ่มยอดขาย Non-Thai Content
3. ไฮเทค (Hi-Text) :
• ยอดขาย E-reader เติบโตอย่างมาก (ผู้นำตลาดในไทย)
• มีระบบ Hybrary (ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์) ให้บริการองค์กรต่างๆ (ภาครัฐและเอกชน) มากกว่า 400 องค์กร
• เปิดตัว Hybrary Plus: ระบบจัดการห้องสมุดหนังสือเล่ม
4. การเข้าซื้อแพลตฟอร์ม Moresheet:
• แพลตฟอร์มซื้อขายชีทสรุปสำหรับนักศึกษา (มีชื่อเสียงในกลุ่มนักศึกษา)
• มีนักเขียนในระบบมากกว่า 20,000 ราย

กลยุทธ์: ขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ, พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ, สร้างความร่วมมือกับพันธมิตร, และลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

1. การแข่งขัน: การแข่งขันที่สูงในตลาด E-book และแพลตฟอร์มออนไลน์
2. สภาวะเศรษฐกิจ: สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
3. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี: การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วอาจทำให้ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น: รายได้และกำไรอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

• การปรับปรุงประสิทธิภาพ: ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดค่าใช้จ่าย
• การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่: พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
• การขยายตลาด: ขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
• การบริหารความเสี่ยง: บริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัดความสำเร็จ: การเติบโตของรายได้และกำไร, จำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น, และความพึงพอใจของลูกค้า

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

• การเติบโตของตลาด E-book และแพลตฟอร์มออนไลน์ยังคงมีศักยภาพ
• ความต้องการด้าน Cybersecurity จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
• เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

วิสัยทัศน์และเป้าหมาย: เป็นผู้นำในตลาดวรรณกรรมออนไลน์และ Cybersecurity, สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 43:58]

1. การประเมินมูลค่า Inkognito Lab
• Q: บริษัทใช้วิธีการประเมินมูลค่าแบบใดในการกำหนดราคาซื้อ Inkognito Lab ที่ 80 ล้านบาท และผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีของ Inkognito Lab ทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิเป็นอย่างไรบ้าง การลงทุนใน Inkognito Lab สอดคล้องกับธุรกิจของ Meb อย่างไร
• A: การลงทุนใน Inkognito Lab เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากธุรกิจของ Meb เป็นออนไลน์ 100% และความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญ Inkognito Lab เป็นหนึ่งในผู้เล่นในตลาดนี้ที่มีผลประกอบการเติบโตได้ดีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้เติบโตในระดับ 2 หลัก และมีกำไรที่เติบโตสูง การประเมินมูลค่าใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น การคิดลดกระแสเงินสด (DCF) และมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
2. พฤติกรรมการอ่าน E-book และผลกระทบของ AI
• Q: พฤติกรรมการอ่าน E-book ในไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเปลี่ยนไปอย่างไร โดยเฉพาะการอ่านผ่านมือถือ แท็บเล็ต หรือ PC บริษัทมองว่า Generative AI จะเปลี่ยนพฤติกรรมการอ่าน เช่น การใช้ AI แปลภาษาแบบ Real-time บน PC ซึ่ง E-reader ปัจจุบันทำไม่ได้ ได้หรือไม่
• A: มองว่า Generative AI อาจมีผลกระทบต่อการอ่าน Non-fiction มากกว่า แต่ในส่วนของนิยายหรือ Content บันเทิงยังยากที่จะเปลี่ยนแปลง หากมี AI แปลภาษาแบบ Real-time ได้ดี จะเป็นโอกาสให้ Content ไทยขายดีขึ้น เนื่องจากจะทำให้คนต่างชาติอ่านได้ง่ายขึ้น บริษัทมีนิยายแชทซึ่งเป็นรูปแบบคล้ายละครสั้นอยู่แล้ว และกำลังเพิ่มภาษาใหม่ๆ ในแพลตฟอร์ม Luna
3. นโยบายการจ่ายเงินปันผล
• Q: สอบถามเกี่ยวนโยบายการปันผลปี 2568 ปีว่าก่อนมีการจ่ายเงินปันผลปกติอยู่ที่ 1.10 บาทต่อหุ้น พร้อมปันผลพิเศษ ขอทราบแนวโน้มว่าหากผลประกอบการครึ่งปีหลังยังทรงตัว บริษัทจะยังรักษาระดับปันผลเช่นเดิม หรืออาจเก็บเงินสดไว้เพื่อลงทุนโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
• A: บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไร แต่จะพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น แผนการลงทุนและสภาวะตลาด ปีนี้มีการพิจารณาที่จะจัดปันผลพิเศษออกไปเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ถือหุ้น และ จะต้องดูสภาวะตลาดต่อไปในอนาคต
4. การขยายจำนวนพนักงาน
• Q: บริษัทมีแนวโน้มจะขยายจำนวนพนักงานเพิ่มเติมหรือไม่ในปีนี้ และหากมีคาดว่าจะเป็นในด้านใดเป็นหลัก
• A: มีแผนที่จะขยายธุรกิจในทุกภาคส่วน ซึ่งการเพิ่มจำนวนพนักงานก็เป็นเรื่องปกติ แต่บริษัทไม่ได้มองแค่การเพิ่มคนเป็นหลัก แต่จะเน้นการปรับปรุงระบบงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มคนที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าการจ้างเยอะๆ
5. ความกังวลเกี่ยวกับรายได้ธุรกิจหลักและแนวทางการสร้างธุรกิจเสริม
• Q: ผู้บริหารมีความกังวลกับรายได้ธุรกิจหลักที่ค่อยๆ อ่อนแอลงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงวันนี้ ยังคิดว่าอุตสาหกรรมนี้จะดีคลายเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ ที่ก่อนหน้าเข้าตลาดมายังคาดโกรธในระดับ Low to mid-teen ต่อปี และเราจะมีแนวทางการสร้างธุรกิจเสริมรายได้ตรงนี้อย่างไรบ้าง รวมถึงมองว่าตรงนี้จะเป็นปัจจัยระยะสั้นหรือระยะยาว ที่ เป็น เป็นเทรนด์ชั่วคราวหรือว่าเป็นขาลงงานชัดเจนนะคะ แล้วก็เกิดจากสาเหตุใดเป็นหลัก นะคะ การแข่งขันจากการแข่งขัน ผู้บริโภคที่เปลี่ยนกันไปหรือว่ากำลังซื้อในตลาด
• A: การมองเพียงข้อมูลด้านเดียว เช่น ยอดขายและค่าใช้จ่าย อาจทำให้เข้าใจผิดว่าตลาด E-book จะดีคลายหรือไม่ แต่เมื่อมองในภาพที่กว้างขึ้น เช่น MAU การเพิ่มขึ้นของ User และ Content มองว่ายอดขายที่ชะลอตัวเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจภายนอกมากกว่าจะเป็นเทรนด์ภาพใหญ่ของธุรกิจ E-book บริษัทมีอาวุธครบมือและมีแนวทางที่จะพัฒนาขยายธุรกิจ ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว
6. การเติบโตของอุตสาหกรรมหนังสือและการเติบโตของบริษัท
• Q: ทำไมอุตสาหกรรมหนังสือของไทยในภาพรวมจากข่าวบอกว่าโตขึ้น แต่รายได้ของเรากลับไม่โตตามอุตสาหกรรม
• A: การประเมินในข่าวและการประเมินของบริษัทอาจแตกต่างกัน บริษัทมีการแจกแจงข้อมูลอย่างละเอียดตามไตรมาส การมองในภาพรวมอาจไม่สามารถบอกได้ว่าโตในภาพไหน แต่บริษัทเห็นรายละเอียดมาก ทั้งส่วนที่โตขึ้นและส่วนที่ชะลอตัว จึงเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ใช่ Apple to Apple
7. พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและความยั่งยืนของละครแนวตั้ง
• Q: แนวโน้มผู้บริโภคเสพอะไรที่ไวขึ้น เร็วขึ้น แล้วคอมีการทำละครแนวตั้ง เนื้อเรื่องต้องโดนภายใน 1-2 นาที เพราะผู้บริโภครอไม่ได้ต้องการเสพด่วน ไวๆ เร็วๆ ค่อนข้างสวนกระแสกับการอ่านนิยายในอดีต เราจะปรับ ตัวเลขเทรนด์นี้ได้อย่างไรแล้วก็มีแนวคิดอย่างไรค่ะ
• A: ในแพลตฟอร์มการอ่านของบริษัทมีนิยายแชทซึ่งเป็นของเทียบเคียงกับตัวละครสั้นอยู่แล้ว บริษัทมองว่าละครสั้นมีแนวโน้มที่ไม่ยั่งยืน จึงยังไม่ได้กระโดดเข้าไปเล่นในตลาดนั้น
8. Luna ที่เติบโตได้ไม่เร็วเท่าที่คาดหวัง
• Q: Luna Light ที่คาดหวังจะเป็นเรือธงใหม่เหมือนจะเติบโตได้ไม่เร็ว ยอดขายไม่ได้มาอย่างที่คาดหวัง มีแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้ไปในทิศทางที่เป็นรูปธรรมกว่านี้ได้อย่างไรบ้างค่ะ
• A: ไม่ได้คาดหวังว่ายอดขายของ Luna จะมาเร็วตั้งแต่แรก เพราะการสร้างความเชื่อมั่นต้องใช้เวลา กำลังปรับปรุงแก้ไขโดยการเปิด UGC ไปครึ่งตัวและคัดเลือก Content เพิ่มภาษาใหม่ๆ ให้เร็วขึ้น
9. ปัญหาที่ผู้บริหารกังวลและวิธีการจัดการ
• Q: ปัญหาที่ผู้บริหารกังวลในตอนนี้มีอะไรที่น่ากังวลที่สุด และมีวิธีการจัดการอย่างไรบ้างค่ะ
• A: สิ่งที่น่ากังวลคือความคาดหวังของผู้บริหารกับความคาดหวังของนักลงทุนอาจไปคนละทาง ธุรกิจเติบโตไปได้ด้วยดี แต่อาจมีอาการชะลอตัวบ้างตามสภาพเศรษฐกิจ ภายนอกอาจคาดหวังว่าเศรษฐกิจชะลอตัวจะไม่กระทบต่อธุรกิจเลย ซึ่งเป็นไปได้ยาก เนื่องจากธุรกิจมีผู้ใช้หลายล้านคน การที่เศรษฐกิจในระดับภาพรวมของประเทศมีผลกระทบย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจบ้าง การคืบหน้าของการลงทุนและการพัฒนาต่อยอดสิ่งที่มีอยู่เป็นไปในทิศทางที่ดี การจัดการกระแสเงินสดและการหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนในธุรกิจที่อยู่ข้างเคียงยังคงมีอยู่ สิ่งที่น่ากังวลคือการที่ภายนอกอาจตอบสนองต่อความคาดหวังมากเกินไป ราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและผลตอบแทน
10. แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 3 และการทำ M&A
• Q: แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 3 ผ่านมาแล้ว 2 เดือนกว่าๆ มีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 บ้างหรือไม่ มีทิศทางเป็นอย่างไรนะคะ แล้วก็ไตรมาส 2 เนี่ยจะเป็นจุดที่ต่ำที่สุดแล้วหรือเปล่า ค่ะ
• A: ในด้านแนวโน้มยอดขายในไตรมาส 3 ถือว่าในภาพรวม มีสัญญาณที่ดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 แต่การชะลอตัวยังคงมีมาต่อเนื่อง ไตรมาส 2 เป็นไตรมาสที่ชะลอตัวกว่าไตรมาสอื่นๆ ไตรมาส 3 น่าจะมีแนวโน้มที่ดีกว่า
• Q: แผนการทำ M&A จะมีอีกหรือไม่ คิดว่าจะมาช่วยการเติบโตของบริษัทที่เติบโตน้อยลงในช่วงนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ค่ะ
• A: สำหรับเรื่องของแผนการลงทุนนะครับเรามีพิจารณาอยู่เรื่อยๆเลยนะฮะก็เอ่อมีทั้งอย่างที่เคยได้เรียนไปอ่ะนะครับว่าจริงๆเรื่องของการเข้าซื้อกิจการเนี่ยมันก็ หรือการเข้าลงทุนในเอ่อassetต่างเนี่ย เอ่อก็เป็นส่วนนึงที่ช่วยสร้างทั้งรายได้ที่เป็นorganicแล้วก็organic growthให้เรานะครับ ตรงนี้เราก็พิจารณาอยู่อยู่เรื่อยๆครับ
11. การจ่ายปันผลพิเศษและการซื้อหุ้นคืน
• Q: อยากให้บริษัทมีปันผลพิเศษในปีนี้เหมือนปีที่ผ่านมา อยากขอแนะนำให้ เอ่อ จ่ายปันผลเปลี่ยนเป็นปีละ 2 ครั้งค่ะ
• A: รับทราบในคำเสนอแนะ
• Q: อยากให้ผู้บริหารพิจารณาซื้อหุ้นคืนที่ราคาปัจจุบัน ซื้อธุรกิจตัวเองที่คิดว่ามีอนาคตดีกว่าไป M&A บริษัทอื่นที่ราคาแพงกว่า ถ้ามั่นใจในธุรกิจของตนเองในอนาคตเพื่อจะเพิ่ม value ให้กับบริษัทมากกว่านี้ และเป็นการส่งสัญญาณที่ดีเพิ่มความ เชื่อมั่นให้กับตลาดได้อีกด้วยค่ะ
• A: พิจารณาถึงหลายแนวทางที่จะ ช่วยบรรเทาผลกระทบตรงนั้นให้กับผู้ถือหุ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ จ่ายเป็นปันผลเงินปันผลพิเศษหรือว่าเรื่องของการซื้อหุ้นคืนรวมไปถึงมาตรการอื่นๆด้วยนะครับ ก็คงต้องดูตามสภาพตลาดยุคด้วยนะครับ และในเรื่องของการ ซื้อหุ้นคืนเอ่อ เทียบกับการเน้นaเนี่ย ก็ต้องเรียนว่าเนื่องในปัจจุบันเนี่ยจริงสภาพตลาดหุ้นตอนนี้มันก็ไม่รู้หนักมันก็ยังดูเหมือนไม่ได้ปั่นปึก นะอย่างที่คุยดวิอรได้เรียนนะฮะว่าจริงๆแล้วเราดูรายด้านของต่างของบริษัทเนี่ยก็ไม่ได้เอ่อมีการเปลี่ยนแปลงไปจากหน้าดังนั้นเนี่ยเอ่อสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยความคาดหวังของนักลงทุนในตลาดหุ้นน่ะมันจะมีผลต่อตัวราคานะครับ ซึ่งถ้าจะเอาmulpleในปัจจุบันมาเทียบกับเอ่อการเข้าลงทุนเอ่อในธุรกิจดีๆหรือธุรกิจที่มันมีในากรเติบโตสูงกําไรนะฮะในปัจจุบันภาวะแบบเน้มันอาจจะเอามาเทียบกันไม่ได้นะ แตะแบบเป็น แต่ก็เรียนทางนักลงทุนทั้งพุดหุ้นด้วยนะครับว่าเอ่อเราเองเนี่ยก็มีเอ่อทั้งเอ่อทุกท่านที่ผู้บริหารนะครับแล้วก็กรรมการที่พิจารณาโครงการลงทุนต่างๆเนี่ยอย่างถี่ถ้วนอย่างละเอียดแล้วก็รอบคอบนะครับ
12. แนวทางการปรับปรุงราคาหุ้นให้กลับมาสู่มูลค่าพื้นฐาน
• Q: ผู้บริหารมีแนวทางการปรับปรุงแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ราคาหุ้นกลับมาสู่มูลค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นมากกว่าราคาIPOนะคะเนื่องจากว่าในปัจจุบันเนี่ยก็ตัวตัวราคาหุ้นก็ปรับปรับตัวลงไปต่ำกว่าไอพีโอเป็นอย่างนี้แล้วค่ะ
• A: เป้าในการทำธุรกิจเราไม่ใช่การทำให้ราคาหุ้นมาอยู่ในจุดที่ เท่านั้นเท่านี้ แต่คือการที่ทำให้บริษัทเติบโตนะครับเพิ่มสร้างพื้นฐานใหม่ใหม่สร้างยอดขายที่สอดคล้องกับเป้าที่เราจะไปได้นะครับ นั่นผมว่านั้นนั้นเป็นสิ่งที่น่าจะดีที่สุดสําหรับนักลงทุนแล้วก็จุดบริษัทนะครับ ส่วนราคาหุ้นเนี่ยผมมองว่ามันจะเป็นผลของการที่เราactionสิ่งเราทําที่เหมาะสมเข้าไปครับ

โดยรวมแล้ว ผู้บริหารยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตและมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น แม้ว่าจะมีปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจและความผันผวนในตลาดหุ้น