SINO Logistics Corporation: สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568 มองหาโอกาสเติบโตในตลาดเอเชีย

P/E 11.12 YIELD 7.77 ราคา 0.99 (0.00%)

โอเคครับ เริ่มการสรุป Oppday SINO ได้เลยครับ

SINO Logistics Corporation: สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568 มองหาโอกาสเติบโตในตลาดเอเชีย

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**
  • SINO Logistics Corporation ได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ได้แก่:

    1. การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariff) ส่งผลให้ผู้ส่งออกและนำเข้าเร่งการส่งออกในไตรมาสแรก ส่งผลให้ไตรมาสที่สองมีปริมาณลดลงเล็กน้อย

    2. ปริมาณขนส่งสินค้าทางเรือเติบโต 32% ในปี 2566 และ 5% ในปี 2567 แสดงถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    3. รายได้รวมครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 1,496 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย

  • สัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจาก Sea Freight (93%) แต่มีการเติบโตในส่วนของ Logistics Support และ Air Freight

  • กำไรขั้นต้นดีขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 15% ในครึ่งปีแรกของปี 2568 เทียบกับ 12% ในปี 2567

  • Net Profit ในไตรมาสที่สองลดลง 52% เนื่องจากการขายที่ดินในไตรมาสก่อนหน้า แต่ Net Profit โดยรวมของครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 117%

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**
  • การขยายธุรกิจในประเทศอาเซียน โดยเฉพาะมาเลเซียและเวียดนาม มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาค

  • SINO Worldwide ได้เปิดสาขาในมาเลเซีย (ปีที่แล้ว) และเวียดนาม (ปีนี้) เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า

  • การเติบโตในตลาดเวียดนามมีเป้าหมายอยู่ที่ 600 TEU ในครึ่งปีหลังของปี 2568

  • การเพิ่มสัดส่วนสินค้า Free Hand ที่ออกจากมาเลเซียจาก 20% เป็น 45% เพื่อเพิ่ม Margin

  • การขยายธุรกิจคลังสินค้า โดยมีพื้นที่รวม 33,000 ตารางเมตรในปี 2569 และมีลูกค้าจองพื้นที่แล้ว 40%

  • การเพิ่มจำนวน ISO Tank เพื่อให้บริการสินค้าประเภทเคมีภัณฑ์, อาหาร, และ Industrial Fluid

  • การเตรียมควบรวมกิจการกับบริษัท Air Freight รายหนึ่งภายในเดือนกันยายน 2568 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งทางอากาศ

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**
  • ความผันผวนของ Ocean Freight (ค่าระวางเรือ) เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น Tariff และ Demand-Supply

  • ผลกระทบจากนโยบายภาษี 19% ของสหรัฐฯ ต่อผู้ส่งออกและนำเข้า

  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**
  • รักษาฐานลูกค้ากลุ่ม High-Margin และพยุงราคา Ocean Freight ให้อิงตาม Index

  • สร้าง Value-Added ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่ม SOC และ ISO Tank

  • เพิ่มปริมาณ Volume ในประเทศอื่นๆ เช่น เอเชียและยุโรป เพื่อลดผลกระทบจากตลาดสหรัฐฯ

  • กำหนดสัดส่วนในการทำสัญญา Forward เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**
  • SINO Logistics มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำ ISO Tank ในอาเซียน

  • การลงทุนใน Voyager Project (Digital Transformation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและรองรับการเติบโตในทุกประเทศของอาเซียน

  • การมุ่งเน้นการทำธุรกิจในตลาดอเมริกาเหนือ เนื่องจากเป็นช่วง Peak Season และมีการนำเข้าสินค้ามากขึ้น

  • การให้ความสำคัญกับ ESG และ Sustainability เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 53.49]**
  • **นโยบายภาษี 19% ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างไร:**
    • ปริมาณ Volume ลดลง แต่ยังคงรักษาฐานลูกค้าได้

    • เพิ่ม Volume ในประเทศอื่นๆ เช่น เอเชียและยุโรป

    • โดยรวมแล้วไม่ส่งผลกระทบมากนัก

  • **SCI ผันผวนและมีแนวโน้มลดลง จะกดดันกับ Margin หรือไม่:**
    • ธุรกิจ SOC, ISO Tank, และ Warehouse ช่วยเพิ่ม Value-Added

    • ให้บริการในตลาดอเมริกาแบบ Door-to-Door

    • ไม่กดดัน Margin มากนัก

  • **บริษัทมีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และปีหน้าอย่างไร:**
    • เศรษฐกิจไทยมีผลกระทบจากการเมืองและ Tariff

    • การส่งออกอาจชะลอตัว

    • การส่งออกในตลาดอื่นๆ ยังคงปกติ

  • **แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นอย่างไร มีปัจจัยอะไรเป็นตัวหนุน:**
    • มีรายได้เพิ่มจากธุรกิจ Air Freight ที่จะประกาศในเดือนกันยายน

    • มีรายได้จาก SINO Worldwide ในเวียดนามและมาเลเซีย

    • เป็นช่วง Peak Season ของตลาดอเมริกา

    • แนวโน้มค่อนข้างดี

  • **ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร:**
    • ยังดูดี เนื่องจากเป็นช่วง Peak Season ในตลาดอเมริกา

    • มีการเพิ่ม Volume ในเอเชีย

    • มีการเพิ่ม Freep ของ ISO Tank

    • Margin ดีขึ้น

  • **บริษัทวางแผนรายได้เติบโตเท่าไหร่ เติบโตจากอะไรบ้าง:**
    • ขนส่งทางเรือและอากาศ

    • เพิ่ม ISO Tank

    • Volume จาก SINO Worldwide ในมาเลเซียและเวียดนาม

  • **อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มเป็นอย่างไร จะป้องกันความเสี่ยงนี้อย่างไร และบริษัทได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่:**
    • อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน

    • กำหนดสัดส่วนในการทำสัญญา Forward

    • ตั้งซื้อ Forward ไว้ในส่วนกรอบบนที่คาดว่าบาทจะอ่อนไปถึง

    • บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากอัตราแลกเปลี่ยน

  • **บริษัทมั่นใจแค่ไหนกับการเติบโตในครึ่งปีหลังตามที่บอกไว้:**
    • มั่นใจว่าจะเติบโตได้ดี

  • **กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท Contribute รายได้คิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ และมีความเสี่ยงที่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่จะย้ายไปใช้บริการคู่แข่งหรือไม่:**
    • Top 10 ของบริษัทมีรายได้ประมาณ 11%

    • มั่นใจในการให้บริการและรักษาฐานลูกค้าได้

  • **SG&A และ IT Investment เพิ่มขึ้น จะทำให้กำไรสุทธิน้อยลงหรือไม่:**
    • เป็นการลงทุนเพื่อกลยุทธ์ระยะยาว

    • วางแผนและ Accrue ค่าใช้จ่ายไว้ล่วงหน้าแล้ว

    • กำไรสุทธิอาจลดลงบ้าง แต่ระยะยาวจะ Payoff ได้คุ้มค่าแน่นอน

โดยสรุป, SINO Logistics Corporation ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดเอเชียและการเพิ่ม Value-Added ให้กับบริการต่างๆ พร้อมทั้งบริหารจัดการความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต

โพสต์ล่าสุด