SRS Oppday Q2/2025: เจาะลึกกลยุทธ์เติบโต มุ่งสู่เป้าหมาย 1,000 ล้าน

P/E -100.00 YIELD 11.14 ราคา 1.74 (0.00%)

SRS Oppday Q2/2025: เจาะลึกกลยุทธ์เติบโต มุ่งสู่เป้าหมาย 1,000 ล้าน

สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เป็นการนำเสนอผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ของบริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) โดยมี agenda หลักดังนี้ Business Overview, Key Highlights 2025 Outlook และ Q&A

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ผลกระทบต่อธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เป็นปีที่ท้าทาย เนื่องจากสภาพตลาดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ส่งผลให้การ consumption ของ private และ public sector ชะลอตัวในโครงการ IT และ Digital อย่างไรก็ตาม บริษัทพยายามบริหารความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสถาบันการเงิน และมุ่งเน้นงาน implementation ระบบ Merchant Portal Payment Gateway

บริษัทได้เข้าร่วมโครงการ Cloud First Policy ของภาครัฐ นำเสนอ Solution Cloud และจะเริ่มมีการลงทุนตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะกลับมาเป็นรายได้ Recurring Revenue ในไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป

  • Top line ยังมีการเติบโตที่ดี Double-digit growth ปีนี้ 6 เดือนแรกเติบโต 12%
  • ขับเคลื่อนมาจากการ implementation
  • เน้น Software Development กลับเข้ามาใน port

ปี 2024 งานในส่วนนี้ค่อนข้างหดหายไป ปีนี้โฟกัสไม่ใช่แค่ FSI แต่เป็น Retail และ Healthcare มากขึ้น งานโครงการเหล่านี้เริ่มทยอยกลับเข้ามา

  • Recurring revenue เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • Year-on-year 6 เดือนแรกเติบโต 35%
  • ปลายปีที่แล้ว (2024) มีการ renew license กับลูกค้ารายใหญ่
  • ส่งผลให้รายได้เต็มปี 6 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 18% ใน 6 เดือนแรก ฝ่ายจัดการชี้แจงว่ามีโครงการขนาดใหญ่ที่ struggling ในไตรมาสที่ 1 ทำให้มี cost overrun และมีการตั้งสำรองประมาณ 14 ล้านบาท ซึ่งกระทบต่อ bottom line และกำไรขั้นต้นของบริษัท

Lesson learned จากโครงการนี้คือต้องพยายามบริหารโครงการให้ส่งมอบได้เร็วและตรงตาม Timeline ปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการทำงานของ Software Development ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โครงการนี้เกิดขึ้นครั้งเดียวและจบไปแล้วเมื่อไตรมาส 2

หาก normalize กำไรขั้นต้น จะอยู่ที่ประมาณ 26% ซึ่งเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่อยู่ใน average ของบริษัท (average บริษัทอยู่ที่ประมาณ 30%) ที่ drop ลงมาเพราะมีการส่งมอบโครงการ Hardware ติดตั้งขนาดใหญ่ ซึ่ง margin ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

หาก normalize bottom line 6 เดือนแรก โดยถอด effect โครงการ จะกลับมาเป็น Break Even

บริษัทให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ได้รับการรับรองจาก ISO 27001 (ความมั่นคงด้านระบบสารสนเทศ) และ ISO 9001 (การควบคุมคุณภาพ)

โมเมนตัมของรายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 54% (CAGR) ปี 2024 มีการเติบโตของรายได้ประมาณ 16% 6 เดือนแรกเติบโตจากปีก่อนอีก 12% ฝ่ายจัดการคาดหวังว่าตลอดเต็มปี 2025 จะยังสามารถสร้างการเติบโตได้แบบ Double-digit growth

Recurring Revenue มาจาก Subscription license ที่ขายให้กับลูกค้า เป็นลักษณะของ term ที่เป็นระยะยาว (3 ปีขึ้นไป) เสริมให้รายได้ของบริษัทมีความสม่ำเสมอมากขึ้น

  • 2 ไตรมาสแรกเติบโตขึ้นอย่างมีสาระ เติบโตขึ้นประมาณ 60 ล้านบาท (35%)
  • 6 เดือนแรกของปีนี้ proportion อยู่ที่ประมาณ 70% อีก 30% เป็น Project-based (งาน implementation)
  • Cloud Solution จะมาตอบโจทย์ใน portfolio ในฝั่ง Recurring Revenue ให้มีความสม่ำเสมอมากขึ้น

นอกจากเรื่อง Subscription license แล้ว ยังมีในส่วนของ MA Service implement งานระบบเสร็จ จะมีการส่งทีมงานเข้าไปดูแลระบบต่อเนื่อง ส่วนนี้จะเป็น port ที่ค่อยๆ ขยายและเติบโตขึ้นไปในอนาคต

รายได้เติบโตขึ้นค่อนข้างเยอะ 33% หลักๆ ปัจจัยในไตรมาส 2 ที่เพิ่มขึ้นมาคืองาน implementation เติบโตขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ (ไตรมาส 1 อาจจะ stuck กับโครงการที่มีปัญหาและตั้งสำรองขาดทุนไป)

ไตรมาส 3-4 อยากรักษโมเมนตัมในเรื่องการส่งมอบงาน ส่งงานให้ได้ จบโครงการให้ได้ ต้องแข่งกับเวลาในส่วนของงานการรับรู้รายได้

  • สำหรับ 6 เดือน รายได้เติบโตขึ้น 12%
  • เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งส่วนของ trading (การขาย Hardware และ Software) และส่วนของงาน implementation เติบโตทั้งคู่

อัตรากำไรขั้นต้นลดลงอย่างมีสาระ เนื่องจากมีโครงการหนึ่งที่ตั้งสำรองขาดทุนในโครงการ หาก normalize โครงการนั้นออก จะอยู่ที่ประมาณ 26% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 31% ตั้งเป้าว่าในไตรมาส 3-4 จะกลับมายืนระยะในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 30% ให้ได้

Net profit ไตรมาส 1 ขาดทุนจากการตั้งสำรอง 23 ล้านบาท ไตรมาส 2 กลับมา Break Even อยู่ที่กำไรเล็กน้อย 2 ล้านบาท รวม 6 เดือน ขาดทุน 21 ล้านบาท เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น one-off พยายาม recover กลับมาให้เต็มปีไม่ขาดทุน และพยายามสร้างผลกำไรในไตรมาส 3-4 ให้ได้

  • Balance Sheet Position ของบริษัทแข็งแรง
  • Asset ทั้งหมด 1,210 ล้านบาท อาจจะ drop ลงจากเมื่อตอน year-end ปีที่แล้วประมาณ 174 ล้านบาท
  • สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ Recurring Revenue มี Asset ที่เป็น Prepaid expense ในส่วนของ Software license ซึ่งรับรู้คู่กับขา รายได้รอการรับรู้

ลดลงทั้งส่วนของ Asset และ Liability คือลดลงจากการรับรู้รายได้และต้นทุนทั้งสองฝั่ง ทั้ง Asset และ Liability เป็น nature ของ SRS อยู่แล้วที่มี backlog รายได้และมี prepaid ในส่วนของ Subscription license

เงินสด 666 ล้านบาท ยังแข็งแรง ลูกหนี้ของบริษัทรวมไปถึงรายได้ค้างรับของบริษัทก็ไม่มีที่ค้างเกิน 90 วัน บริหารจัดการลูกหนี้ได้ดี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการส่งมอบงานโครงการด้วย พยายาม improve efficiency ในการติดตามสถานะโครงการ และพยายามส่งมอบงานให้ได้ตาม Timeline เพื่อให้ Working Capital ของบริษัทมีประสิทธิภาพสูงสุด

หนี้สิน หลักๆ ยังเป็นหนี้สินทางการค้า และเป็น Backlog revenue ในส่วนของ Subscription license ที่รอการรับรู้ ไม่มี Zero Interest Bearing Debt หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน จึงมีความพร้อมในการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคต จากทั้งฝั่งเงินสดที่มีอยู่ในมือ และฝั่งหนี้สินที่ไม่ได้มี Debt Pressure ในส่วนของเรื่องของความกดดันด้านฝั่ง Capital Structure ของบริษัท

Backlog สิ้นสุดไตรมาสที่ 2 มากกว่า 85% ยังเป็นส่วนของ Software License Subscription ซึ่งรอการรับรู้อยู่ 641 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ตลอด 3 ปี ที่ได้สัญญาออกบิลมา เน้น Backlog ของงาน Implementation เริ่มได้งาน Implementation ที่อยู่นอกเหนือจากส่วนของ FSI และ FSI ยังโฟกัสและก็ได้มา แต่ส่วนที่อยู่นอกเหนือจากนั้นคืองานของ Retail Healthcare โฟกัสอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตที่ดี Backlog ในส่วน Implementation อยู่ที่ 73 ล้านบาท เมื่อเทียบกับตอน year-end ก็เติบโตขึ้น

คาดหวังว่าไตรมาส 3-4 ค่อนข้างที่จะมองโครงการขนาดใหญ่ และอยากจะเติม Backlog ในส่วน Implementation ให้กลับเข้ามาใน port ให้ได้เยอะที่สุด

Target Revenue ปี 2568 เต็มปีคือ 1,000 ล้านบาท สถานการณ์ตอนนี้ครึ่งปีอยู่ที่ 332 ล้านบาท มี Backlog ที่รอการรับรู้และรอการส่งมอบงานอยู่ที่ 302 ล้านบาท รวมกันตอนนี้เห็นได้แน่ๆ แล้วว่ามีอยู่ 634 ล้านบาท คือใกล้เคียงกับเมื่อตอนปี 2024 Potential Pipeline คือสิ่งที่บอก โฟกัสว่าอยากจะพยายามดันในส่วนของ Pipeline ไปให้ถึง 1,000 ล้านบาท รวมไปถึงเรื่องของการส่งมอบงานด้วย ต้องพยายามแข่งกับเวลาเพื่อให้ Revenue ในส่วนนี้กลับเข้ามา

Pipeline ในส่วนนี้ถูกถอนมาแล้วมาจาก Pipeline มูลค่าเต็ม หมายถึง Revenue คือการส่งมอบงาน สิ่งที่ท้าทายคือฝ่ายจัดการและทีมงานต้องพยายามรีบเร่งส่งมอบงานให้ได้ภายในปี 2568 เพื่อให้ achieve กับเป้า Target Revenue ที่ 1,000 ล้านบาท

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

  • Performance Improvement: Recover Available Utilization จากโครงการ one-off ที่มีปัญหา, ปรับปรุง GP Margin โดย Ensure คุณภาพในการส่งมอบงาน, Secure Large Scale Project เข้ามาอยู่ใน Backlog
  • Customer และ Solution Focus: เข้าใจ requirement ของลูกค้า, Replicate ไปหาลูกค้าใหม่ๆ ใน Sector FSI, Diversify ออกจาก FSI โดยการเปิด New segment ใหม่ (Energy, Healthcare, Retail และ Media), จับมือ Partnership กับ Product Vendor หรือ Tech Vendor ที่มีองค์ความรู้
  • AI Transformation: ผสมผสาน AI เข้าไป Embed ใน Solution ตั้งแต่ Software Infrastructure จนถึง Application สําหรับ End User
  • Inorganic Growth: Explore Partnership opportunity และ Strategic Investment

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

  • สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
  • การแข่งขันในตลาด IT ที่สูง
  • ความเสี่ยงในการบริหารโครงการขนาดใหญ่
  • ความเสี่ยงด้าน Cybersecurity ที่เพิ่มขึ้น

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

  • มุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปรับปรุงกระบวนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบงาน
  • ขยายฐานลูกค้าและ Diversify ธุรกิจ
  • ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และพัฒนา Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

มีบริษัทลูกชื่อ SIS Integration ทำเรื่องเติม IT Resource ให้กับลูกค้า รวมถึงทำเรื่อง Cybersecurity แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มันเข้ามาใกล้กันมากขึ้น Security ก็ Embedded เข้าไปใน Cloud, Embedded เข้าไปใน Code และ Embedded เข้าไปใน Total ของ Solution เพื่อความง่ายในการบริหารจัดการทั้งหมดของบริษัท สิริซอฟต์จึงทยอย Transfer ย้ายทีม Security ย้ายเข้ามาในทีมของสิริซอฟต์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงกลางปีนี้

เมื่อย้ายมาหมดแล้ว บริษัทจึง Rebrand และทำบริษัทใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อจากบริษัท SIS เดิม เป็นบริษัทที่ชื่อ งานดีดี บริษัทจัดหางาน งานดีดี จำกัด เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ในการทำเป็นบริษัท Recruitment ให้กับลูกค้า ภาพของบริษัทจะไม่ได้แค่หาคน IT Outsource ให้กับลูกค้าแล้ว แต่หาทั้งคน IT และองค์ประกอบอื่นๆ ที่เป็น End-to-end Solution หรือ End-to-end Business ให้กับลูกค้าเลย ได้เปลี่ยนชื่อรวมถึงการ Provide HR Service ให้กับลูกค้าด้วย โดยปัจจุบันมีการ restructure และเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก SIS Integration เป็นบริษัท Workdd จำกัด

Large Scale Project: มีการ Sign MOU Partnership ร่วมกันกับทาง NT เพื่อที่จะทำเรื่องของ Cloud First Policy ตามโครงการ GDCC ของภาครัฐ เป็น Key Milestone ที่สำคัญที่ทำให้สามารถมี Access เข้าไปหาลูกค้าภาครัฐอื่นๆ ได้ในอนาคต

New segment: ปี 2024 FSI segment Contribute มากกว่า 80% New focus segment อยู่แค่น้อยกว่า 10% (ประมาณ 7%) ปี 2025 สัดส่วนของ New focus segment ไม่ว่าจะเป็น Energy Healthcare หรือ Media เพิ่มขึ้นมาเป็น 14% พยายาม Diversify Revenue หรืองาน เพื่อที่จะกระจายความเสี่ยงออกจากธุรกิจ FSI

Partnership: ได้ Award มาจากทั้ง Veeam ทั้ง Elastic แล้วก็ Huawei ซึ่งเป็น Technology Vendor ระดับโลก มองในเรื่องของการที่จะพัฒนาต่อยอด Solution ใหม่ๆ ร่วมกันกับ Partner เหล่านี้ โดยอาศัยองค์ความรู้ของเขาที่อาจจะเคยทำในตลาดต่างประเทศ Huawei เองก็จะมี Solution ในหลายๆ Industry ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่เราน่าจะนำมาทำในประเทศไทยได้เช่นเดียวกัน

  • AI-Ops (AI for Operation): เอา AI มาใช้ในการ Monitor Log ทำให้เรื่องของ Productivity และ Efficiency ในการนำ Log มา Take Action ต่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • Application for End User: เอา AI ผสมผสานเข้าไปใน Application อย่างเช่น event หนึ่งที่เอา AI ไปทำในเรื่องของการ Enhance Experience ให้กับ User ที่เข้า event โดยการที่มี AI มา Capture ตัว Facial Recognition แล้วก็เอามาทำเป็น AI Avatar แล้วก็อาจจะใช้ข้อมูลของ User ในการที่ไปทำในเรื่องของดูดวง เพื่อที่ Matching ให้เจอผู้ร่วมงานให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น
  • Smart City: เรื่องของ Smart City เป็น Team ที่สำคัญต่อประเทศเรา ไม่ว่าจะเป็น Infrastructure Healthcare หรือเรื่องของ Public Safety มี Project ที่กำลังพัฒนาอยู่ร่วมกับทางลูกค้าในการที่จะเอา AI เข้าไป Monitor เรื่องของพวกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Public Safety
  • ESG: Global Trend ทั้งเรื่องของ Carbon Footprint แล้วก็ Carbon Credit กำลัง Explore ในเรื่องนี้และก็มี Project ที่กำลัง Explore ร่วมกับลูกค้าอยู่เช่นเดียวกัน

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 36:10]

คำถามเกี่ยวกับเรื่องผลประกอบการ 6 เดือนแรกที่ขาดทุน ได้มีการอธิบายไปแล้วว่าได้รับผลกระทบจาก One-off จากโครงการหนึ่ง และได้ปิดโครงการไปแล้วในไตรมาสที่ 2 มองว่าครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ตาม Backlog ที่ show ไป

หัวข้อคำถามและคำตอบ

  1. **Q: ผลกระทบจาก PDPA ต่อธุรกิจ?**

    A: PDPA เป็นโอกาสให้เราเข้าไปช่วยลูกค้า Implement ระบบ Data Governance และ Data Privacy

  2. **Q: กลยุทธ์การเติบโตในอนาคต?**

    A: เน้นการขยายฐานลูกค้า, พัฒนา Solution ใหม่ๆ, และมองหาโอกาสในการ M&A

  3. **Q: ความท้าทายในการบริหารจัดการโครงการ?**

    A: ปรับปรุงกระบวนการทำงาน, เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร, และลงทุนใน Training ให้กับพนักงาน

  4. **Q: เป้าหมายระยะยาวของบริษัท?**

    A: เป็นผู้นำด้าน Digital Transformation Solution ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  5. **Q: นโยบายการจ่ายปันผล?**

    A: พิจารณาจากผลประกอบการและกระแสเงินสดของบริษัท

  6. **Q: มีการลงทุนใน R&D อย่างไรบ้าง?**

    A: ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI, Cloud, และ Blockchain

โดยสรุปแล้ว สิริซอฟต์ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการขยายฐานลูกค้า พัฒนา Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด