TWPC โชว์ผลงาน Q2/2568 กำไรโต 2000% มุ่งสู่ Global Food Business

P/E 17.46 YIELD 1.89 ราคา 3.02 (0.00%)

TWPC โชว์ผลงาน Q2/2568 กำไรโต 2000% มุ่งสู่ Global Food Business

สวัสดีครับ สวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่าน ผมเสถียรวิทย์ อนันตระกูล ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทไทยวา จำกัด (มหาชน) ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Set Opportunity Day ประจำไตรมาสที่ 2/2568 ซึ่งจะเป็นการอัปเดตข้อมูลและผลประกอบการไตรมาส 2 และช่วงครึ่งปีแรกให้ทุกท่านได้ทราบ

ในวันนี้มี 3 Agenda หลักๆ คือ Overview ให้ท่านนักลงทุนได้ทราบว่าบริษัทไทยวาทำธุรกิจอะไรบ้าง, Transformation จะเป็นเรื่องของการ Transform บริษัทและ Portfolio ให้เติบโตยิ่งขึ้น, Performance ของ Q2 Result และ Q&A เวลาพรีเซนต์น่าจะประมาณ 35-40 นาที และมีเวลาให้ตอบคำถามท่านนักลงทุน แล้วเราก็จะเข้าสู่ช่วง Q&A กัน วันนี้ได้รับเกียรติจากท่านผู้บริหารระดับสูง 3 ท่านของบริษัท

  1. คุณจิตอาภา อมราลิขิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน
  2. คุณพัชรินทร์ วัชิรวรการ ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส กลุ่มธุรกิจอาหาร
  3. คุณหทัยกาญจน์ กมลศิริกุล ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ความยั่งยืนและนวัตกรรมและธุรกิจใหม่

ต้องขอบคุณนักลงทุนทุกท่านนะคะ ที่มา Spend Time แล้วก็มาฟังไทยวานะวันนี้ ก่อนอื่นที่จะเข้าไปใน Overall ของ Business นะคะ ขออนุญาตเท้าความนิดนึงว่าไทยวาเนี่ยเป็นบริษัทที่อยู่คู่กับประเทศไทยและก็ South East Asia มา 77 ปีแล้ว ด้วย Foundation ของเราเนี่ยจริงๆ ถ้ามองดู Across 77 ปีเนี่ย เรียกได้ว่าไทยวาเนี่ยเป็นธุรกิจที่ถือว่าเป็น Pioneer ในอุตสาหกรรมของเราเองนะคะ เริ่มต้นด้วยจากการที่ไทยวาเนี่ย เป็น Pioneer ในแง่ของการผลิตและก็ทำแล้วก็ส่งออกแป้งมันสำปะหลังนะคะ เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มอุตสาหกรรมนี้ แล้วก็ทำให้อุตสาหกรรมนี้นะโตได้ในประเทศไทยนะคะ

Pioneer อย่างที่ 2 นะคะก็คือตัววุ้นเส้น ไทยวาเนี่ยมี Brand ที่ Strong มาก ณ ตอนนี้นะคะ ซึ่งเรามี Brand ที่ Strong แล้วเดี๋ยวคุณพัชรินทร์จะมาเล่าให้ฟังนะคะว่ากลยุทธ์ของเราเป็นยังไงบ้างนะคะ ก็คือตัววุ้นเส้น Brand มังกรคู่เองนะคะ แล้วถัดไป Pioneer อันที่ 3 ก็คือตัวธุรกิจ New Business ของเรานะคะ ไม่ว่าจะเป็น Bioplastic เองหรือจริงๆ ก็มีธุรกิจอื่นๆ ที่เรากำลังเริ่มสร้างแล้วก็ฟูมฟักขึ้นมา เพราะฉะนั้น Overall เนี่ยไทยวาเนี่ย 77 ปีแล้วนะคะ เราเป็นธุรกิจที่เป็น Pioneer และเราก็ยังมุ่งมั่นที่อยากจะริเริ่มแล้วก็สร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคนะคะในอนาคตค่ะ

Overall Taiwan Business นะคะ ตอนนี้เนี่ยเรามี 16 Operation ใน 7 ประเทศทั่วโลกนะคะ เราส่งออกนะคะไปประมาณ 35 ประเทศนะคะ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราเนี่ยมี R&D Team นะคะ แล้วก็มี R&D Hub นะคะใน 5 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในเมืองไทยเอง เวียดนามเอง อินเดีย อินโดนีเซีย แล้วก็ประเทศจีน ด้านขวาเนี่ย ทุกท่านจะได้เห็น Portfolio ของไทยวา ซึ่งมีหลายๆ SKU มากเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวแป้งมันสำปะหลัง ไม่ว่าจะเป็น Portfolio ของ Food และ Noodles ก็ตามค่ะ

ทีนี้ถ้ามาดู Portfolio หลักๆ ของของไทยวานะคะ ก็คือจะมี 3 Portfolio หลักๆ นะคะ ซึ่ง 3 Portfolio นี้เนี่ย ตอนนี้เนี่ย Deliver Sales มากกว่าหมื่นล้านให้กับไทยวานะคะ ตัวแรกนะคะก็คือตัว Food นะคะ ตัว Food เนี่ยหวังว่าจะมีท่านนักลงทุนหลายๆ ท่านในห้องนี้นะคะ ที่เป็นแฟนคลับของตัววุ้นเส้นมังกรคู่นะคะ แล้วก็ไปซื้อ Noodle Cup ของเรานะคะใน Retailer ต่างๆ ก็คือเนี้ยเป็น Rising Star นะคะ แล้วก็มี Very Healthy Double-digit Growth นะคะ เพราะว่าเราเน้นเรื่อง Product Innovation มากนะคะ Portfolio ที่ 2 คือตัว Specialty Ingredients นะคะ คือเป็น Ingredient ที่จริงๆ เป็น Base ของมันสำปะหลังนะคะ แต่ว่าเราเอาไปดัดแปลงเพื่อให้มี Value มากขึ้น แล้วก็ Higher Margin ธุรกิจตัวที่ 3 ของเราก็คือตัว Native Starch หรือแป้งมันสำปะหลังของเรานะคะ ซึ่งจริงๆ เนี่ยเราอยู่ในธุรกิจนี้มานานและถือว่า Very Well Recognize สำหรับ Quality ของแป้งมันสำปะหลังของเราค่ะ เรียกได้ว่า ถ้าไปที่ไหนนะคะ มันสำปะหลังที่ชื่อแป้งมันสำปะหลังที่ชื่อว่า Rose Brand เนี่ย สามารถที่จะ Command Quality นะคะ แล้วก็ Additional Value สำหรับลูกค้าได้

ถ้าจะดูผลประกอบการแบบเร็วๆ Snap Shot ก่อนเลยนะคะ ต้องบอกว่าผลประกอบการของเราเนี่ยทำได้ดีมากนะคะ ถึงแม้ว่าอาจจะเห็นในมุมของยอดขายที่ไม่ได้เติบโต ถ้าเราดู Overall นะคะจะเห็นว่าตัว Volume นะคะปริมาณการขายเติบโตถึง 7% นะคะ แล้วก็ตัว Gross Profit Margin เองเนี่ยเพิ่มขึ้นเนี่ย 700 Basis Point นะคะ อาจจะเห็นว่ายอดขายเนี่ยยังติดลบนะคะ หลักๆ ก็คือเป็นมาจากตัวราคาตลาดของแป้งมันสำปะหลังนะคะ ที่มีการปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถที่จะ Maintain ตัวกำไรได้นะคะ ส่วนธุรกิจอาหารนะคะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องนะคะ แล้วก็ทำได้ดีมากๆ นะคะ โดยตอนนี้เนี่ยสามารถที่จะทำกำไรให้กับบริษัทได้มากกว่า 50% นะคะ โดยยอดขายเนี่ยเติบโตที่ 13% นะคะ Year to Date นะคะ ในกลุ่มของตัว HVA หรือตัว Special Specialty Ingredients นะคะ ตัว Volume เองเนี่ยก็คือเติบโตที่ 3.7% นะคะ แต่อย่างไรก็ตามตัว Gross Profit เองเนี่ยเติบโตได้ดีมากนะคะ อยู่ที่ 46 45% นะคะ ส่วนตัวธุรกิจ Native Starch นะคะแป้งมันสำปะหลังนะคะ ก็เติบโตได้ดีในส่วนของตัว Volume นะคะ ปริมาณเนี่ยเติบโตได้ถึง 10% นะคะ ในขณะที่ตลาดเนี่ยเติบโต 13% แต่ในส่วนของตัวยอดขายอาจจะเห็นว่ายังติดลบอยู่บ้างนะคะ

อันนี้อยากจะ Recap นิดนึงค่ะว่าคราวที่แล้วเนี่ยเราเคยคุยอะไรกันไว้นะคะ เรา Commit ว่าเราต้องการที่จะเติบโต Double-digit นะคะ ในส่วนของตัว Food Business แล้วก็ตัว HVA นะคะ High Value Added Starch นะคะ ซึ่ง First Half แล้วก็จะเห็นว่าธุรกิจ Food เนี่ยเติบโตได้ถึง 13% นะคะ HVA เองอย่างที่เรียน คือ Volume อาจจะยังไม่โตมาก แต่ว่ากำไรหรือ GP กำไรขั้นต้นนะคะ เติบโตได้ดีมากที่ 45% ค่ะ แล้วก็ แล้วก็เราต้องการที่จะเพิ่มตัว Gross Profit Margin นะคะ อย่างน้อย 200 Basis Point นะคะ Year to Date เนี่ยเราทำได้แล้ว 700 Basis Point Q2 เองก็เติบโตได้ดีนะคะ ที่ 763 Basis Point เช่นเดียวกันนะคะ เราต้องการทำในส่วนของลดต้นทุนแล้วก็เพิ่มประสิทธิภาพนะคะ เราอยากที่จะ Deliver นะคะตัว Saving เนี่ย 80-100 ล้านนะคะ Year to Date เนี่ยเราทำตัว Material Cost Saving ได้แล้ว 43 ล้านนะคะ เรากำลังอยู่ในช่วงการทำ Organization Restructure นะคะ ซึ่งตรงนี้คือ On Track นะคะ แล้วก็ยังอยู่ในส่วนของตัว Process Improvement ด้วยค่ะ ก็ On Track เช่นเดียวกันนะคะ สุดท้ายนะคะ เราต้องการที่จะ Maintain ตัว Residency แล้วก็ Sustainable Profit Growth นะคะ เพราะงั้นเนี่ย Q2 เนี่ยจะเห็นว่าจริงๆ แล้ว Q2 ไทยวาเนี่ยส่วนใหญ่นะคะ มักจะติดลบนะคะ แต่ปีเนี้ยเราเทิร์นกลับมาเป็น Positive Net Profit ของตัว Q2 นะคะ เรามีการทำตัว Rebalance ตัว Portfolio นะคะ เพื่อที่จะ Protect ตัว Downside ของตัว Starch Business นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาส 2 ที่เป็น Low Season นะคะ แล้วเราก็มี Strong Balance Sheet นะคะ ถ้าเดี๋ยว จะอธิบายให้ฟังในส่วนของตัว Interest Bearing Debt to Equity นะคะ

อันนี้ Recap นะคะ ในแง่ของ Taiwan Transformation เนี่ยเรามองไว้ว่าปี 2573 เนี่ย สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือเราจะ Strengthen Core Business ของเรา ไม่ว่าจะเป็น Food HVA หรือตัว Native Starch นะคะ แล้วก็เงินที่เราได้เข้ามานะคะ เราจะกลับเข้ามาไป Reinvest ใน Growth ซึ่งเป็น Growth ของ HVA แล้วก็ Food นะคะ ทีนี้ถ้ามาดูในแง่ของ Strategic Pillar ของไทยวาเนี่ย ก็คือว่าเราจะทำ 3 อย่าง เราจะ Accelerate ตัว Portfolio Transformation ที่เมื่อสักครู่นี้คุณจิตอาภาได้เล่าให้ฟังว่า เรา Make Progress ในแง่ของการ Rebalance Portfolio เนี้ย อันนี้เป็นความที่การที่เราสามารถที่จะ Grow Food แล้วก็ HVA Portfolio เราได้เพิ่มมากขึ้นนะคะ ตัวที่ 2 นะคะ Do Learn Drive Cost Excellence Across Value Chain ก็คือว่า เราจะเน้นว่าเราจะทำให้ตัว Starch Business หรือ Native Business เนี่ยมัน Back to Profit ตอนนี้เราทำได้แล้ว และอย่างที่ 2 ก็คือเรา Unlock นะคะตัว Inefficiency ต่างๆ เพื่อที่จะได้คั้นแล้วก็เอา Cost ออกมานะคะ แล้วก็ Drive Profit ออกมาได้ Portfolio ที่ 3 หรือ Pillar ที่ 3 ก็คือเรื่อง Develop New Platform นะคะ เงินที่เราได้มานะคะ จากไม่ว่าจากการ Increase Margin หรือการ Reduce Cost นะคะ เราเอากลับมา Reinvest To Growth และ Growth นั้นเนี่ยก็คือ Growth ใน Food แล้วก็ HVA ค่ะ Overall เนี่ยอย่างที่คุณจิตอาภาเล่าให้ฟังเมื่อตะกี้ก็คือเรา On Track นะคะ

สำหรับในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารนะคะ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารของเรานะคะ จะเห็นว่ายอดขายเนี่ยย้อนหลังไปในปี 2563 จนกระทั่งถึงปี 2567 เนี่ย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องนะคะ ที่ประมาณ 11% นะคะ หรือว่าเติบโต Double-digit ในทุกๆ ปีค่ะ สำหรับปีนี้เองในปี 2568 เนี่ย ครึ่งปีผลประกอบการที่ผ่านมานะคะ เทียบกับครึ่งปีของปีที่แล้วนะคะ เราเติบโตอยู่ที่ 13% นะคะ ก็ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้วก็แข็งแรง แล้วก็ยังต่อเนื่องไปใน Trend แบบนี้นะคะ สำหรับ Growth Driver หรือว่าปัจจัยที่ทำให้เราเติบโตเนี่ย จะมีอยู่ประมาณ 3 เรื่องนะคะ คือ 1 เรื่องของเรื่องของ Customer นะคะ เรากำลังหมายถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นคู่ค้าของเรา แล้วก็กลุ่มผู้บริโภคนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม RTE เรามีทีมงานขายที่ทำความเข้าใจเรื่องความต้องการของลูกค้า มีทีมการตลาดที่พยายามที่จะหา Insight จากกลุ่มของ Consumer ว่าต้องการอะไรนะคะ แล้วเราก็พยายามที่จะปิด Gap ในเรื่องของอุปสรรคที่ทำให้คู่ค้าของเราไม่สามารถเติบโตนะคะ เรามีแผนการทำงานที่ชัดเจนกับคู่ค้ารายใหญ่ของเราทั้งหมดค่ะ ในส่วนที่ 2 เนี่ยเป็นกลยุทธ์เรื่องของการกระจายสินค้า แล้วก็กลยุทธ์ในการจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายนะคะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราเนี่ยมันมีทั้ง B2B B2C นะคะ เรามีกลยุทธ์ในการจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายของเราที่แตกต่างกันไปนะคะ ทำให้เราสามารถที่จะประสบความสำเร็จนะคะ ในเรื่องของยอดขายรายช่องทางได้ค่ะ

อันที่ 3 แน่นอนนะคะ อย่างที่เห็นว่าตอนนี้เนี่ยไทยวาเรากำลังพัฒนา กลุ่มผลิตภัณฑ์ RTE ของเรานะคะ ซึ่งเป็น High Growth แล้วก็ High Value Segment นะคะ ในขณะเดียวกันเนี่ยเราก็ไม่ได้ทิ้งตัวที่เป็น Core Category ของเรา คือในกลุ่มเส้น เส้นสด เส้นแห้งนะคะ เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นวุ้นเส้น ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของไทยวา เราก็มีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการที่จะบริหารการเติบโตของทั้งกลุ่ม Core Category แล้วก็กลุ่มที่เป็น High Growth High Value ค่ะ สำหรับอันนี้ก็จะเป็น Portfolio ทั้งหมดที่เรามีนะคะ ก็จะเห็นว่าในบางสินค้าเนี่ยก็มีวางจำหน่ายอยู่นะคะในตลาดในเมืองไทย ในบางสินค้าอาจจะมองแล้วไม่คุ้นนะคะ อันนี้ก็เป็นสินค้าที่เราจัดจำหน่ายในต่างประเทศนะคะ เรามีลูกค้าทั้งในประเทศแล้วก็ต่างประเทศนะคะ ในส่วนของในประเทศเนี่ย เราเน้นตัวที่เป็น Mass Product นะคะ ในกลุ่มเส้นเนี่ยมีทั้งเส้นสด มีทั้งเส้นแห้ง มีทั้งวุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยว นะคะ แล้วก็ยังมีกลุ่มที่เป็นเส้น Special ต่างๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเส้นเซี่ยงไฮ้นะคะ หรือว่าจะเป็น Rice Paper ซึ่งอัตราการเติบโตสูงนะคะ มีการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นเยอะเลย ในส่วนของตลาดต่างประเทศเนี่ย เราก็มุ่งเน้น Focus ที่จะทำเรื่องของ Premiumization นะคะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เป็นก๋วยเตี๋ยว Organic นะคะ หรือว่าเป็น OEM นะคะ ให้กับลูกค้าที่เป็นท่านชั้นนำในต่างประเทศค่ะ

ในกลุ่ม RTE นะคะ ตอนนี้เป็น Rising Star ของ Food Business นะคะ หลังจากที่เรามี Cup มาแล้วประมาณ 5-6 ปีนะคะ ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปๆ ได้ด้วยดีนะคะ แต่ว่าปีที่ผ่านมาเนี่ยเราสามารถที่จะหา New S-Curve ให้กับกลุ่ม RTE ของเราได้ จากการที่เรา Launch ตัวซอง นะคะ ซึ่งมีปริมาณหรือมี Portion เท่ากับการอิ่มใน 1 มื้อ ซึ่งตอบโจทย์ กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่ทำให้เราได้ยอดขายจากผู้บริโภคคนใหม่ๆ นะคะ แล้วก็ทำให้ Total RTE เราเติบโตอย่างมีนัยยะค่ะ

ตรงนี้ก็จะโชว์ให้เห็นว่าสัดส่วนของ NPD เรานะคะจากเดิม ที่มีสัดส่วนอยู่ไม่เยอะนะคะ ใน 4-5 ปีที่แล้วเนี่ย ไม่ถึง 5% นะคะ ตอนนี้เราสามารถเติบโตกลุ่มสินค้าใหม่ของเรานะคะได้ถึง 20 มากกว่า 20% แล้วนะคะ ในขณะที่กลุ่ม Core Category ยังคงเติบโตอยู่ด้วยค่ะ อันนี้ก็จะโชว์ให้เห็นถึงนวัตกรรมของเรานะคะ ในกลุ่มที่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นวุ้นเส้นเนี่ย จะเห็นว่าเรามีสินค้าใหม่ออกมาด้วยเช่นกันนะคะ ในปีที่แล้วนะคะเราได้ Launch ตัวเส้นวุ้นเส้นเกาหลีตากิเลนคู่นะคะ ซึ่งเป็นสินค้าที่ใหม่ต่อตลาดนะคะ มี Texture ที่แตกต่างแล้วก็ เหมาะกับวัยรุ่นนะคะ วัยรุ่นชอบทานมากนะคะ ใน Texture ที่มันไม่ใช่แบบ Traditional ที่เราเคยทานกัน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด แล้วก็วันนี้ Penetration ไปจนถึงในระดับ CVS Store นะคะ Convenience Store แล้วก็มีจัดจำหน่ายอยู่หมดแล้วนะคะ ในส่วนใบเมี่ยงเนี่ยอย่างที่เรียนให้ทราบว่าในตลาดภายในประเทศเติบโตเยอะนะคะ ก็ยังคงเป็นสินค้าที่เราอยากจะ Build แล้วเราก็มีฐานการผลิตที่เวียดนามด้วยนะคะ ก็เป็นการต่อยอดจากธุรกิจที่เป็นประเทศที่เรามีความชำนาญอยู่ค่ะ ในส่วน Ready to Eat นะคะ จากที่บอกว่าเรามี Cup นะคะ ในส่วน Cup เนี่ยเราก็ยังคง Continue ที่จะออกสินค้าใหม่ แล้วก็ตัวใหม่ของเราที่เป็นตัวซองนะคะ ตัวนี้ก็มีสินค้าใหม่จะออกมาใน Q4 ปีนี้ด้วย แล้วก็ในปีหน้าด้วยแน่นอนค่ะ

ขอเน้นย้ำเรื่องของการประสบความสำเร็จในเรื่องของก๋วยเตี๋ยวเรือซองของเรานะคะ เราออกมา 2 SKU เมื่อต้นปีนะคะ ก็มีจำหน่ายที่ 7-Eleven แล้วก็ร้านค้าชั้นนำนะคะ ทั่วไปในตลาด Modern Trade รวมถึงตลาดต่างจังหวัดด้วย อันนี้ก็จะเป็นโชว์ให้เห็นถึงว่าผู้บริโภคพูดถึงสินค้าเราในทาง Positive นะคะ ผู้บริโภครักในสินค้าแล้วก็ชื่นชอบทำให้เรามียอดขายที่ดีค่ะ

ถ้าอย่างนั้นขอ Shift เกียร์นิดนึง แล้วก็ไปตัวธุรกิจ HVA หรือว่า Specialty Ingredients นะคะ ก็คือว่าตัวนี้เนี่ยเป็นแป้ง Base ก็คือแป้งมันสำปะหลังนะ แต่ว่าเป็นแป้งมันสำปะหลังที่เราไป Add Value แล้วก็ทำให้มี Quality หลายๆ อย่าง ซึ่งในการ Develop ของเราเนี่ย Portfolio นี้เนี่ย เราเน้น 4 Strategic Pillar ไม่ว่าจะเป็นตัว Category ของ Clean Label ก็คือไม่ใช้สารเคมีเลยนะคะ ตัว Healthy Solution นะคะเป็น Gluten-free, Low GI แล้วก็พวก Fiber นะคะ Functional Solution นะคะ แล้วก็ตัวใหม่ล่าสุดที่เราเพิ่ง Launch ไปเมื่อสิ้นปีที่แล้วก็คือ Texture System Solution นะคะ ในแง่ของ Portfolio 4 Portfolio นี้เนี่ย แน่นอนได้ว่าถ้าสมมุติมองไปในอนาคตเนี่ย อนาคตสดใสแน่นอน เพราะว่า Size of Price เนี่ย Total Addressable Market เนี่ยคือใหญ่มาก เพราะว่านี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา นะคะ Portfolio Contribution ของเราในแง่ของแต่ละแต่ละ Pillar นะคะ หรือแต่ละ Category นะคะ ในแง่ของ Clean Label เนี่ย เราคิดว่าในอนาคตเนี่ย น่าจะสามารถ Contribute ได้มากกว่า 25% นะคะ Healthy Solution เนี่ย Between 20-30% นะคะ Functional Solution ก็ 20-25% แล้วก็ Texture System Solution เนี่ยมากกว่า 15% นะคะ ทั้งหมดนี้เนี่ยเป็น Portfolio ที่ในแง่ของ Growth เนี่ยก็คือ High Double-digit Growth นะคะ ที่เรามองไว้นะคะ แล้วก็ Very Healthy ในแง่ของ Gross Profit Margin ค่ะ

ทีนี้ถ้ามองดูในแง่ของ Portfolio ของไทยวาในแง่ของ Country เนาะ หลักๆ นะคะ เราเป็น Country เป็นแบบ 3 Category ด้วยเช่นเดียวกันนะคะ ปี 2568 เนี่ย Thailand นะคะ แล้วก็ China นะคะ ยังคงเป็น Region ที่ High Contribution ในแง่ ตัว HVA หรือ Specialty Starch นะคะ แต่ว่าในอนาคตนะคะ ถ้าทุกท่านมองเห็นนะคะก็คือสีฟ้าอ่อนนะคะ Grow นี่คือย่อมาจาก Rest of the World นะคะ เรามองว่า Opportunity แล้วก็ Strategy ของเราเนี่ย จะมุ่งเน้นในการ Grow Rest of the World มากขึ้น เพราะว่าอะไร เพราะว่า Rest of the World เนี่ยเป็น Region นะคะ เป็น Region ที่สามารถ Command Higher Margin แล้วก็ Higher Price ให้กับเราได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นยุโรปเอง หรือ Middle East เอง แล้วก็ใน Asia Pacific ประเทศต่างๆ นะคะ ไทวามั่นใจนะคะว่าเราเนี่ยสามารถทำได้ในแง่ของการ Strengthen Customer Intimacy นะคะ เราสามารถที่จะ Collaborate แล้วก็ Add Value ให้ลูกค้านะคะ มากนะคะ ในแง่ของ Deliver Product แล้วก็ Solution ให้ลูกค้านะคะ เราเน้นในการ Double Speed of Execution นะคะ ก็คือ Deliver Innovative Product ให้ลูกค้าได้เร็วมากขึ้นนะคะ 2 เท่า นะคะ แล้วก็เราเน้นในการ Accelerate เรื่อง Innovative Product Solution ให้กับลูกค้าเช่นเดียวกัน

ถ้ามองในแง่ของ Contribution HVA กับ Native เนาะ HVA คือตัวที่เราบอกว่าเรามี Higher Margin นะคะ ถ้ามองไปก่อนปี 2564 นะคะ ตัว Contribution ของ Native หรือ Native Starch ยังใหญ่อยู่นะ แต่ว่าตอนนี้เนี่ยเราได้ Develop ตัว HVA Portfolio เพิ่มขึ้นนะคะ โต Double-digit ทุกๆ ปีนะคะ โดยเรามั่นใจว่า ในปี 2568 แล้วก็ 2573 เนี่ย Contribution ของ High Value Product ของเราเนี่ย จะมากกว่า Native Starch นะคะ อันนี้ก็คือ Progress ในการ Rebalance Portfolio ของเรา ให้ Less Dependency on Commodity นะคะ ในด้านขวานะคะ ในแง่ของ Application นะคะ ที่เราขายเข้า ในแง่ของ Starch ของเรานะคะ ในปี 2568 เนี่ยเรายังเน้น Portion ใหญ่ นะคะ ซึ่งเป็น Sauces and Seasoning นะคะ แล้วก็ Other High Value Category เนี่ยยังเป็น Portion ที่น้อยกว่านะคะ แต่ถ้ามอง Looking Forward ไปถึงปี 2573 เนี่ย Portion ของ Sauces and Seasoning จะเริ่มลดลง แล้วก็ High Value Category ไม่ว่าจะเป็น Bakery Snack หรือ Dairy เองนะคะ จะ Portion เนี่ยจะมากขึ้น เพราะฉะนั้น Margin ของเรานะ จะมีการ Improve ขึ้นทุกๆ ปี

แน่นอนในการที่จะ Build แล้วก็ Transform Portfolio ของเรานะคะ สิ่งที่เป็น Core competency ของไทยวาเองเลยนะ เรามี R&D Hub นะคะ หลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ใน Bangkok เองซึ่งคือ Headquarter นะคะ เวียดนาม อินโดนีเซีย แล้วก็อินเดีย ทำให้เราเนี่ยสามารถ Serve ลูกค้าใน Key High Growth แล้วก็ High Value Market ได้ดีมากขึ้นนะคะ เพราะว่าเรามีคนที่เข้าใจลูกค้าในแต่ละ Region ได้มากขึ้น

ไทยวาเองเนี่ย ถ้าสมมุติมองดูในแง่ของ Distribution ของ Operation ของเรานะคะ เรามี Factory ในเมืองไทยนะคะ Cambodia แล้วก็เวียดนาม เนาะ ถ้ามองดูนะคะ จริงๆ อันเนี้ยเป็น Strategy ที่เราเรียกว่าเป็น Multi strategy และทำให้เราเนี่ยสามารถที่จะ Build resilient ได้นะคะ คือไม่ว่าจะเปิด ไม่ว่าจะเกิดเรื่องความเสี่ยงด้าน Geopolitics นะคะ หรือว่าความเสี่ยงในแง่ของ Tariff นะคะ หรือ Trade Barrier นะคะ หรือความเสี่ยงในแง่ของ Supply Chain หรือ Raw Material Security นะ เราสามารถ Manage และ Ensure ว่า เราสามารถ Deliver ได้ลูกค้า เหมือนเดิมนะคะ เพราะว่าเรามี Multi Hub Strategy

Recap เหมือนกันในแง่ของ Sustainability หรือความยั่งยืนของไทยวา เนาะ ว่าความยั่งยืนของไทยวาเนี่ยเรา Believe ว่า Together เนี่ยไม่ใช่ไทยวายั่งยืนอย่างเดียว แต่ว่า Stakeholder ของเรานะคะ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร หรือว่าพนักงานของเรานะคะ Community ของเรานะคะ แล้วก็ลูกค้าของเรา ทุกๆ คนเนี่ยจะต้องได้รับสิ่งดีๆ ในการดำเนินธุรกิจของไทยวามากขึ้นในอนาคต โดยเรามี 4 Pillar หลักๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Farm นะคะ เรา Drive ในแง่ เรื่อง Farm Development นะคะ แล้วก็เน้นในการ Drive เรื่อง Regenerative Agriculture นะคะ ตัว Factory เองนะคะ เรา Drive ในแง่ของ Green Factory Ensure เรื่อง Waste Water Energy เราใช้ได้ Efficient มากขึ้นนะคะ แล้วก็ตัว Pillar ที่ 3 คือเรื่อง Associate นะคะ หรือว่า Family ก็คือพนักงานของไทยวาเองเนี่ย เราจะ Drive Growth ในแง่ของ Career แล้วก็ Health and Well-being แล้วก็ Food เองก็คือ Solution ใหม่ๆ ที่เราจะออกมา จะต้องเป็น Solution ที่ Healthy แล้วก็ Functional นะคะ แล้วก็ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจ ใน Quality แล้วก็มั่นใจว่าไทยวาเนี่ยมุ่งเน้นที่จะ Build แล้วก็ Deliver Product ที่ดีสำหรับลูกค้าได้ตลอดไป

Overall เนี่ยขอเน้นย้ำนะคะ ไทยวาเนี่ยจะเป็น Sustainable Business ไม่ได้แล้วก็ Maintain Sustainable Growth in terms of Sales and Profitability ไม่ได้นะ ถ้าเราไม่ได้มี People ของเรานะคะ ที่คุณจิตอาภาเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นนะคะ ก็คือว่าเราได้ทำแล้วในแง่ของ Restructuring ซึ่ง End of Last Year เนี่ยเรา Restructure แล้วก็ Build Strong Structure ในแง่ของ Food in Business Unit Leader นะคะ ซึ่งสามารถ Be Accountable กับ Performance of Business Unit ของตัวเองนะคะ ซึ่งตอนนี้เราได้เห็น Result แล้วของทุกๆ Business Unit เนี่ยมี Healthy Growth แล้วก็ Healthy Profit นะคะ นอกเหนือจากนั้นเนี่ยเราก็มีการ Unlock นะคะ Power of Global Talent เนื่องจากว่าไทยวาเนี่ยเป็น South East Asia Company ที่ Export แล้วก็ Deliver ของให้กับลูกค้าเนี่ย ใน 35 ประเทศทั่วโลกนะ เราก็ Believe ว่าคน Local เนี่ยสามารถที่จะเข้าใจลูกค้า Local ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นเราเน้นในการ Build Local Talent เพื่อ Serve ใน Local Customer แล้วก็ Regional Customer ของเรา

มอง Forward ปี 2573 ปีนี้เราถือได้ว่าเราเป็น Leading impact Food ingredient Food Solution Provider นะคะ ในปี 2573 เรามุ่งมั่นที่จะ Build ให้เป็น Global Food Business นะคะ โดยที่ Deliver EBITDA เนี่ยมากกว่า 1,000 ล้านบาท นะคะ

ขอเลขอีกครั้งนะครับ อันนี้ก็จะเป็นตัวเลขของ Financial Highlight นะคะ Net Sales นะคะครึ่งปีแรกเนี่ยเราทำได้ 4,600 ล้านบาท นะคะ แล้วก็เติบโตในส่วนของตัว Volume นะคะ อยู่ที่ 7% นะคะ อย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้วเนาะว่าตัว Net Sale เองเนี่ยอาจจะเห็นว่าไม่เติบโต เพราะว่าหลักๆ จะเป็นผลมาจากตัวราคาแป้งมันสำปะหลัง เอ่อ ที่ในตลาดโลกอะนะคะ แล้วก็สำหรับตัวกำไรนะคะ กำไรเนี่ยครึ่งปีแรกเนี่ยทำมาได้ 138 ล้านบาท นะคะ เติบโตมา 2,000 กว่า % นะคะ แล้วก็เอ่อตัวไตรมาส 2 เองอย่างที่เรียนก็คือว่า ปกติเนี่ยไตรมาส 2 จะเป็นไตรมาสที่เราขาดทุนนะคะ เพราะว่าจะเป็นตัว Low Season แล้วก็จะเป็นช่วงที่เรามีการปิดโรงงานเพื่อ Overhaul แต่ว่าในปีนี้เองนะคะ เราทำกำไรได้ที่ 68 ล้านบาท นะคะ แล้วก็ Overall ตัว Net Profit Margin เนี่ยอยู่ที่ 3% นะคะ หลักๆ ที่ทำได้ดีก็จะมาจากตัว Gross Profit ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อนะคะ ตัว Cash นะคะตัว EBITDA ก็อยู่ที่ 483 ล้านบาท นะคะ Year to Date นะคะ ครึ่งปี Q2 นะคะ อยู่ที่ 217 ล้าน เอ่อ ตัว EBITDA Margin ก็อยู่ที่ประมาณ 10% นะคะ แน่นอนว่าเติบโตขึ้นอย่างมากมายเมื่อเทียบกับ Period เดียวกันของปีที่แล้วนะคะ เรามีตัว Strong Balance Sheet นะคะ ตัว Interest Bearing Debt to Equity นะคะ อยู่ที่ 0.26 เท่า นะคะ ซึ่งก็ยังทำให้เรามีโอกาสนะคะในการเติบโต ไม่ว่าเราจะแบบต้องการไปลงทุนต้องการจะ Gear Up อย่างเงี้ยค่ะ ก็ยัง ยังมีโอกาสอยู่อีกเยอะมากนะคะ

ถ้ามาดูในส่วนของตัว Sales Breakdown นะคะ ต้องบอกว่าเราได้มีการทำตัว Portfolio Shift นะคะ เราต้องการจะเป็น Food Company ต้องการเน้น Contribution ของตัว Food กับ HVA เพื่อที่จะทำให้เรามีกำไรเนี่ยที่ Stable มากขึ้น ไม่ต้องไป Rely on Starch ซึ่งเป็นตัว Commodity นะคะ ก็จะเห็นว่าตัว Sales Contribution นะคะ ของตัว Food HVA เนี่ยก็จะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอะนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Food นะคะ Year to Date ตอนนี้ก็ Contribute เกือบๆ จะ 30% แล้วนะคะ แล้วก็นี่เห็นเดียวกันก็ตัว Breakdown by Country เองเนี่ย เราก็พยายามที่ ที่จะมีเรียก ว่าเอิ่ม Major Contribution ของ Country เราก็อยู่ที่ 3 ที่นะคะ ก็จะเป็นที่เมืองไทยเอง ซึ่งหลักๆ ก็จะเป็นการขายของตัว Food นะคะ แล้วก็ที่ประเทศจีนก็จะเป็นของตัว China แล้วก็เราก็จะพยายามเพิ่มสัดส่วนของประเทศอื่นๆ เข้ามานะคะ เพื่อลดบทบาทของประเทศจีนที่ ที่ขายตัว Starch นั้นะคะ แล้วก็ในส่วนของตัว Gross Profit Margin นะคะ ถ้าเห็นดู Gross Profit Margin ค่ะ หน้าถัดไปได้เลยค่ะ ตัว Gross Profit Margin นะคะ เอ่อ มีอัตราการเติบโตที่ดีมากๆ นะคะ เอ่อตัว Year to Date นะคะ อยู่ที่ประมาณ 23% นะคะ เพิ่มขึ้นจากเอ่อครึ่งปีแรกของปีที่แล้วเนี่ยมาประมาณ 700 Basis Point นะคะ ตัว Driver มาจากอะไรนะคะ ก็มาจากที่เราพยายามที่จะเติบโตในธุรกิจที่มีเอ่อตัว GP หรือ GM ที่ดีนะคะ ไม่ว่าจะเป็น HVA หรือ Foods นะคะ เราตัว HVA โดยเฉพาะอย่างยิ่งนะคะ ได้มีการทำ Production Efficiency นะคะ ทำให้เอ่อตัว Gross Profit ของเขาเนี่ยดีขึ้น แล้วก็ last analyst เป็นในส่วนของตัว Raw Material นะคะ ที่เอ่อมีราคาที่ดีในปีนี้นะคะ แล้วก็เอ่อเราได้ทำ Portfolio Shift นะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ยตัวพวกนี้ก็จะช่วยทำให้ตัว Gross Profit เนี่ยมันดีขึ้นนะคะ

ในส่วนต่อ ต่อไปจะเป็นในส่วนของตัว SG&A นะคะ เราได้มีการ Streamline ตัว Admin Cost นะคะ เพื่อที่จะสามารถนำเงินนี้มา Reinvest เอ่อเพื่อการเติบโตนะคะ ถ้าดู Overall SG&A เนี่ยอาจจะเห็นว่ามันเพิ่มขึ้นขึ้นนะคะ แต่ แต่หลักๆ เนี่ยจะเพิ่มขึ้นจากตัว Selling นะคะ ซึ่งถ้าเรามี Volume ที่ขายมากขึ้นเนี่ยแน่นอนมันก็มีค่า Distribution Cost ที่เพิ่มขึ้นนะนะคะ โดย Admin เองก็จะเห็นว่าลดลง แล้วก็ส่วนหนึ่งของการลดลงเนี่ยก็จะมาจากการที่เรา Reclassification นะคะ เอ่อเราต้องการจะแบ่งให้มัน เอ่อมีความชัดเจนมากขึ้นในส่วนของตัวค่าใช้จ่ายใน ในส่วนของ Support ตัว Growth กับตัว Admin น่ะนะคะ เพื่อที่จะทำให้เราตัดสินใจแล้วก็เอ่อตัว Admin ให้มันตรงได้ดีขึ้นอะนะคะ

ในส่วนของตัว Balance Sheet นะคะ เรามี Balance Sheet ที่แข็งแกร่งนะคะ ตัวถ้าดูในเอ่อรอบนี้เองเนี่ย Assets นะคะ ลดลงนะคะ ประมาณ 139 ล้านบาท ก็ส่วนหนึ่งก็คือมาจากตัว Depreciation นะคะ แล้วก็ Inventory เนี่ยเพิ่มขึ้นนะคะ แต่ว่าอันนี้คือ by Intention นะคะ ด้วยความตั้งใจ เพราะว่าช่วง เอ่อช่วงๆ นี้จะเป็นช่วงที่ต้อง Stock Up นะคะ เพราะว่า เพื่อที่เรา Stock ตั้งแต่ Q1 เป็นต้นมานะคะ เพื่อที่จะใช้ในตัว Low Season ใน Q2 Q3 นะคะ ตัวหนี้นะคะ ลดลงนะคะ 518 ล้านบาท นะคะ หลักๆ ก็คือเราได้เงินที่เอ่อเรามีการจัดเอ่อทำ Partnership นะคะ กับทางบริษัท Fujicon นะคะ ก็ได้รับเงินเข้ามาซึ่งเงินเนี้ยเราก็เอาไปเอ่อจ่ายคืนเอ่อหนี้นะคะ ซึ่งก็จะเห็นว่าดอกเบี้ยเงินกู้เราเนี่ยลดลงอย่างมากนะคะ ส่วนตัว Equity เองเนี่ยก็คือเพิ่มขึ้นะนะคะ ก็มาจากตัวกำไรในเอ่อในงวดนะคะ แล้วก็ตัว NCI จากตัว Partnership กับตัวเอ่อ Fujicon ค่ะ

ในส่วนของตัว Cash Flow นะคะ ก็จะเห็นว่าเรามี Strong Cash Flow จาก Operation นะคะ อยู่ที่ 433 ล้านบาท นะคะ เรามี Cash in จากการที่เราทำ Partnership กับ Fujicon นะคะ แล้วก็เอาเงินส่วนเนี้ยไปเอ่อจ่ายคืนเอ่อหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นส่วนของหนี้ระยะยาวนะคะ ค่ะ ก็จะเห็นว่า Ending เอ่อ Cash เนี่ยเรายังอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท นะคะ ก็ขอเอ่อ Recap อีกทีแล้วกันนะคะ ในส่วนของตัว Financial Guidance นะคะ ของปี 2568 นะคะ ก็คือเราต้องการที่จะเติบโต Double-digit นะคะ สำหรับตัว Food แล้วก็ HVA ค่ะ ตัว Gross Profit Improvement นะคะ ต้องการที่จะเพิ่มขึ้นเนี่ยอย่างน้อยเนี่ย 200 Basis Point ต้องการที่จะทำตัว Cost Efficiency นะคะ แล้วก็เอ่อทำ Project Cost Saving ต่างๆ เราก็ต้องการ Deliver Saving เนี่ย 80-100 นะคะ เพื่อจะเอาเงินนี้ไป Reinvest สำหรับการเติบโตในอนาคตนะคะ แล้วก็เราต้องการที่จะ Maintain Residency แล้วก็ Sustainable Sustainable เอ่อ Profit Growth ค่ะ

Financial Guidance เมื่อตะกี้นะคะ เราก็จะกลับมาทุก Quarter แล้วเราก็มาเช็คกันว่าไทยวาทำได้อย่างที่ Commit ไว้ไหมนะคะ วันนี้นะคะ Summary ของสิ่งที่เราได้นำเสนอนะคะ ก็คือว่า 1 อ่าเราสามารถ Deliver Healthy Food นะคะ Food ของเราเนี่ย Healthy ตัว HVA Portfolio Growth ของเราก็ Healthy นะคะ ทั้ง Sale ทั้ง Margin นะคะ อย่างที่ 2 ก็คือ Starch Business เนี่ยเรา Bring Back To Profit ได้แล้วนะคะ อย่างที่ 3 ก็คือเรา On Track ในแง่ของที่เราบอกว่าเราจะ Unlock Cost Efficiency นะคะ อย่างที่ 4 คือเรามี Diversify Supply Chain เนาะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดเรื่อง Geopolitics Climate Change หรือเรื่อง Tariff เนี่ย เราสามารถ Manage Supply Chain เราได้นะคะ โดยที่ Have Minimum Impact To Bottom Line ของเรานะคะ อย่างที่ 5 ก็คือว่า เรา Aim ว่าเราจะเป็น Global Food Company เนาะ ในปี 2573 แล้วก็ Profit เราก็จะอยู่ใน Healthy State นะคะ

คำถามที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ เป็นคำถามที่ได้ถูกกล่าวถึงไปแล้วในการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเสี่ยง ปัญหา หรือข้อกังวลต่างๆ บริษัทได้มีการอธิบายถึงกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงในด้านสถานที่ตั้ง และการเติบโตของธุรกิจแป้ง ดังนั้น ในวันนี้การให้ข้อมูลและการตอบคำถามกับท่านนักลงทุนจึงครบถ้วนแล้ว หากท่านนักลงทุนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามหรือส่งอีเมลมาได้ตามข้อมูลที่ปรากฏบนสไลด์สุดท้าย


ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้น นาทีที่ 42:48

  1. หัวข้อ: แผนธุรกิจ Food ในช่วงครึ่งปีหลัง
    • คำถาม: ทาง Food BU มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่?
    • คำตอบ: แน่นอนว่ามีผลิตภัณฑ์ใหม่เตรียมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
  2. หัวข้อ: การบริหารจัดการกระแสเงินสด
    • คำถาม: วงจรเงินสดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทมีแนวทางจัดการอย่างไร?
    • คำตอบ: บริษัทมีนโยบายการบริหารจัดการกระแสเงินสด โดยเน้นการเพิ่ม Cash ที่เข้ามา และบริหารจัดการ stock ให้ลดลงในไตรมาส 3 และ 4
  3. หัวข้อ: การลงทุนใน Fujicon
    • คำถาม: บริษัทใช้แหล่งเงินทุนใดในการร่วมทุน และมีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและหนี้สินอย่างไร?
    • คำตอบ: ได้รับเงินจากการร่วมทุนและนำไปชำระหนี้เงินกู้ระยะยาว ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง
    • คำถาม: คาดว่าบริษัทร่วมทุนจะถึงจุดคุ้มทุนและสร้างผลตอบแทนเมื่อใด?
    • คำตอบ: เป็นการที่ Fujicon เข้ามาร่วมทุนกับบริษัท ไม่ใช่การลงทุนของบริษัทเอง
    • คำถาม: บริษัทร่วมทุนมุ่งเน้นตลาดใดเป็นพิเศษ?
    • คำตอบ: มุ่งเน้นตลาดในประเทศ ภูมิภาค และญี่ปุ่น โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ Fujicon
    • คำถาม: มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือ Know-how ที่ส่งผลต่อไทยวาหรือไม่?
    • คำตอบ: มีการนำ Best Practices มาร่วมกัน ทั้งในด้าน Product Development และ Operational Efficiency
    • คำถาม: การร่วมทุนมีผลต่อโครงสร้างต้นทุนการผลิตหรือไม่?
    • คำตอบ: มีส่วนช่วยลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการพึ่งพิงวัตถุดิบ
    • คำถาม: บริษัทมองเห็นความเสี่ยงใดบ้างจากการร่วมทุน?
    • คำตอบ: การร่วมทุนช่วยกระจายความเสี่ยง และลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

โพสต์ล่าสุด