PLANB โชว์ผลงาน Q2 ปี 2568 รายได้โตต่อเนื่อง พร้อมลุยตลาด Out of Home เต็มสูบ

P/E 17.27 YIELD 2.69 ราคา 4.04 (0.00%)

PLANB โชว์ผลงาน Q2 ปี 2568 รายได้โตต่อเนื่อง พร้อมลุยตลาด Out of Home เต็มสูบ

สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่การแถลงผลประกอบการของบริษัท Plan B Media จำกัด (มหาชน) ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีคุณธราภรณ์ เตชะวิวัฒน์ Senior Vice President of Investor Relations และคุณรวิศรา อัศวะหล่อระพงศ์ Assistant Manager ของแผนก IR เป็นผู้ให้ข้อมูล

Agenda ในวันนี้ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่

  1. Presentation ไฮไลท์ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา
  2. Business Update ไตรมาส 2
  3. รางวัลที่ได้รับและความยั่งยืน (Sustainability)
  4. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A)

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา Plan B สามารถสร้างการเติบโตของรายได้ 1.4% และกำไรสุทธิ 270 ล้านบาท เติบโต 2.4% year-on-year แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ยังคงมีแรงกดดันจาก GDP ที่เติบโตเพียง 2.8% และการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัวลง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลงกว่า 12% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากต่างประเทศ เช่น นโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม Plan B ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้จากธุรกิจ Out of Home (OOH) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรับรู้การบริหารสื่อของ VGI เข้ามาในพอร์ตเป็นเวลา 2 เดือน สร้างการรับรู้รายได้ประมาณ 11.4 ล้านบาท

การเติบโตที่อ่อนตัวลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ปีที่แล้วในไตรมาส 2 มีการบันทึกรายได้จากโอลิมปิกปารีส 73 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ไม่มีรายได้ส่วนนี้ แต่หากไม่รวมรายได้จากโอลิมปิกปารีส Plan B สามารถสร้างการเติบโตของรายได้ถึง 5% ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัว ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ GDP

กำไรสุทธิที่ส่งมอบให้ผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 270 ล้านบาท เติบโต 40.3% เมื่อเทียบ quarter-on-quarter และ 2.4% year-on-year ภายใต้แรงกดดันของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยธุรกิจ OOH ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ Plan B มีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบมากขึ้น รวมถึงมี VGI เข้ามาเติมพอร์ต ทำให้กำไรและรายได้ยังเติบโตได้

สถานะทางการเงินของ Plan B ยังคงแข็งแกร่ง พร้อมต่อยอดการลงทุนในอนาคต โดยมี Free Cash Flow อยู่ที่ 1,751 ล้านบาท และอัตราหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) อยู่ที่ 0.73 เท่า สะท้อนโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง

ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา Plan B ได้เข้าซื้อ Hello LED จำนวน 50% จาก Win Harvest สำเร็จ และมีการแต่งตั้งกรรมการคนใหม่ รวมถึงการออกหุ้นใหม่ (PP) และชำระหุ้นเรียบร้อยแล้ว โดยหุ้นใหม่เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

Plan B ยังคงสามารถสร้างอัตราการเติบโตของส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงตัวกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิได้อย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ

  • รายได้: สูงสุดในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา 2,252 ล้านบาท เติบโต 1.4% year-over-year หลักๆ มาจากการเติบโตของธุรกิจ OOH 4% สื่อดิจิทัล สื่อสนามบิน และการใช้เม็ดเงินที่สูงขึ้นของลูกค้ากลุ่ม Consumer Product และ Automotive รวมถึงการรับรู้รายได้จากการบริหารสื่อ VGI 11.4 ล้านบาท
  • ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม: หดตัวลง 9.3% year-over-year เนื่องจากการที่ปีนี้ไม่มีการรับรู้รายได้จากการบริหารสิทธิ์ของตัว Broadcasting ต่างประเทศ แต่หากไม่รวมรายการนี้ ธุรกิจนี้ยังสามารถสร้างการเติบโตได้ 10.9% year-over-year โดยมีแรงหนุนจากธุรกิจมวย
  • ธุรกิจมวย: สร้างรายได้ 162 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่สร้างได้ 120 ล้านบาท
  • กำไรขั้นต้น: 732 ล้านบาท เติบโต 3% year-over-year มาจากความมุ่งมั่นในการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ และ Efficiency ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 อยู่ที่ 32.5% เติบโตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 32% มาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด
  • กำไรจากการดำเนินงาน: 448 ล้านบาท เติบโต 6.6% year-over-year ความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 19.9% เนื่องจากมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ Admin Expense และ SGA to Sale Ratio ปิดที่ 12.9% ต่ำกว่า Guidance เล็กน้อย
  • กำไรสุทธิ: 270 ล้านบาท เติบโต 2.4% year-on-year อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 12%

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

อัตราการเติบโตของผลประกอบการ Plan B ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังสามารถสร้างอัตราการเติบโตบวกอยู่ที่ 1.4% year-on-year

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น การเข้าซื้อ Hello LED และการบริหารสื่อ VGI

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

Plan B สามารถปิดยอดขายครึ่งปีแรกที่ 4,500 ล้านบาท เติบโต 8.2% year-on-year เหนือกว่าคาดการณ์เล็กน้อยที่ 6-8% กำไรขั้นต้นปิดที่ 1,487 ล้านบาท เติบโต 16.4% year-on-year อัตรากำไรขั้นต้นครึ่งปีอยู่ที่ 33% สูงกว่า Projection ที่ตั้งไว้เล็กน้อย กำไรจากการดำเนินงานเติบโต 24% สร้างได้ประมาณ 900 ล้านบาท ครึ่งปีแรกปิดที่ 2,166 ล้านบาท เติบโต 10% year-on-year กำไรสุทธิส่งมอบได้สูงสุด 463 ล้านบาท เติบโต 4% year-on-year เป็นไปตามแผนการในครึ่งปีแรก คาดหวังว่า Quarter 3 และ 4 จะเป็นช่วงเร่งตัวของผลประกอบการ

บริษัทคงประมาณการปี 2568 โดยมีรายได้ Core Revenue เติบโตราว 5-6% แม้ว่าครึ่งปีแรกจะเติบโต 8.2% แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่มี Broadcasting Rights ตัวโอลิมปิกปารีส คาดว่าจะส่งมอบรายได้ OOH ประมาณ 8-8.3 พันล้านบาท คิดเป็น 83% ของรายได้รวม การเติบโตมาจากการผลิตสื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้น สื่อใหม่ๆ VGI อย่างเต็มไตรมาส การบริหารสิทธิ์ต้อม้อ รวมถึง Deal Hello LED

รายได้ของธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมคงประมาณการที่ 1.5-1.7 พันล้านบาท คิดเป็น 17% ของรายได้รวม โดยธุรกิจ Sport ยังเป็น Key Driver หลัก สร้างเม็ดเงิน 1.1 พันล้านบาท ธุรกิจมวยมีแผนสร้างรายได้ราว 700-800 ล้านบาท ครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้าหมาย คาดว่าครึ่งปีหลังจะสามารถส่งมอบรายได้ให้ผู้ถือหุ้นได้ตามแผน

อัตรากำไรขั้นต้นคงประมาณการ 30-31% แม้ครึ่งปีแรกจะทำได้ 33% แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน คาดว่าจะยังมีความระมัดระวังในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลัง SGA to Sale ยังคงประมาณการเช่นเดิมที่ 13-14% แม้ครึ่งปีแรกจะทำได้ 13.3% Plan B จะพยายามบริหารค่าใช้จ่ายให้เข้มข้นยิ่งขึ้น CapEx ปรับประมาณการลงจาก 4.7-4.9 พันล้านบาท เหลือ 2.7-2.9 พันล้านบาท เนื่องจากเลื่อนการชำระให้ผู้ขายไปอีก 2.5 ปี นโยบายการจ่ายเงินปันผล ยังคงนโยบายเดิมที่ไม่ต่ำกว่า 50%

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 45.20]

  • **Fragmented Business ในไทย:**
  • **คำถาม:** ในมุมมองของผู้บริหาร สื่อโฆษณา OOH ในประเทศไทย ถือว่าเป็น Fragmented Business อยู่หรือไม่ และจะใช้เวลาแค่ไหนที่จะเปลี่ยนเป็น Consolidated Business
  • **คำตอบ:** ธุรกิจ OOH เป็นธุรกิจที่คู่แข่งสามารถเข้ามาได้ไม่ยาก แต่การที่จะมีสเกลที่เพียงพอต่อการเติบโตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะธุรกิจนี้ต้องมีสเกลที่เหมาะสมที่จะสร้างรายได้และกำไรให้บริษัท Plan B เป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักที่มีการเริ่ม consolidate ตลาดตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าทำรายการต่างๆ หรือการซื้อตัว Marco หรือ Lock Tech ในปัจจุบัน หรือการซื้อ Aqua Adway เข้ามารวมในพอร์ต รวมถึงปัจจุบันนี้ก็ได้สิทธิ์ในการบริหารสื่อ VGI เข้ามาด้วย ได้สิทธิ์ในการบริหารสื่อต้อม้อ BTS กลับมายัง Plan B แล้ว ดังนั้น Plan B จะเป็น Leader ในธุรกิจนี้ และจะพยายาม Consolidate ตลาดให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะต่อสู้ทัดเทียมกับคู่แข่ง Platform อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Online ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งทางอ้อม แต่ก็เป็นคู่แข่งเบอร์ 1 ที่จะมี Market Share ใน OOH เยอะที่สุด ในอนาคตระยะกลางถึงระยะยาว ธุรกิจ Online ก็ยังคงเป็นเบอร์ 1 และอาจจะแซงทีวี ปัจจุบันทีวีสัดส่วน Market Share ก็ลดลงเรื่อยๆ สัดส่วนที่ลดลงก็จะวิ่งไปในส่วนของ Online หรือ OOH โดยหยาบๆ Plan B เชื่อมั่นว่า Online ก็คงจะขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 และตัว OOH เองก็อาจจะขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ได้ Online และ OOH จะมี Complements ซึ่งกันและกัน และลูกค้าอยากจะให้ลงทั้ง 2 สื่อ เพื่อช่วยกันดันรายได้การเติบโตของธุรกิจของตัวลูกค้าเองด้วย

หากไม่มีคำถามเพิ่มเติม ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจกับ Plan B หากมีคำถามหรือข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อทีม IR ได้โดยตรง

ทั้งหมดนี้เป็นผลประกอบการที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2 ปี 2568 ที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 ข้างหน้า สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง และมี Cash Flow พร้อมต่อยอดการลงทุนใหม่ๆ

**หัวข้อที่พูดถึงในคลิป:**

  • ภาพรวมผลประกอบการ Q2/2568
  • ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโต
  • สถานะทางการเงินและความพร้อมในการลงทุน
  • การเข้าซื้อ Hello LED
  • Business Update และ Campaign ต่างๆ
  • รางวัลและความยั่งยืน
  • แนวโน้มผลประกอบการ Q3/2568
  • มุมมองต่อธุรกิจ OOH และการแข่งขัน

โพสต์ล่าสุด