บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป OPPDAY XPG: เจาะลึกผลประกอบการและกลยุทธ์ฝ่าวิกฤต ปี 2568
P/E 22.69 YIELD 0.00 ราคา 0.43 (0.00%)
สรุป OPPDAY XPG: เจาะลึกผลประกอบการและกลยุทธ์ฝ่าวิกฤต ปี 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
รายได้รวมในไตรมาส 2/2568 ปิดที่ 203 ล้านบาท ลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568
อย่างไรก็ตาม หากเทียบครึ่งปีแรกของปี 2568 กับครึ่งปีแรกของปี 2567 รายได้เพิ่มขึ้น 14% ปิดที่ 463 ล้านบาท
รายได้หลักยังคงมาจากดอกเบี้ยและเงินปันผล คิดเป็น 184 ล้านบาท เติบโต 3%
รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 30% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส สอดคล้องกับสภาวะตลาดและการลงทุนที่ไม่เอื้ออำนวย
ผลขาดทุนจากการลงทุน (Gain Loss on Investment) ติดลบ 32 ล้านบาท กดดันผลประกอบการอย่างมาก เนื่องจากการ Mark to Market ของหุ้นและสินทรัพย์ดิจิทัล
ค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส แต่ดีขึ้น 3% หากเทียบครึ่งปีแรกต่อครึ่งปีแรก
การประหยัดค่าใช้จ่ายหลักมาจาก Employee Benefit ที่ลดลง 10% และ Expected Credit Loss ที่ลดลง 15% จากการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้น
Bottom Line ของไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 27 ล้านบาท ลดลง 60% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 แต่เพิ่มขึ้น 76% หากเทียบครึ่งปีแรกต่อครึ่งปีแรก
ในส่วนของ Balance Sheet ยังคงมีสถานะที่มั่นคง แทบไม่มีหนี้สิน และมีการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
เน้นการลงทุนใน Direct Lending ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 60% ของพอร์ตการลงทุนของบริษัท
การปล่อยกู้ยังคงเป็น Asset-Based Lending ให้กับบริษัทในประเทศ
ลงทุนใน Funds ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง Corporate Bonds
มองหาโอกาสในการออก Derivative Warrant และ DR (Depositary Receipt) ซึ่ง KTX เป็นผู้นำตลาด
XSpring Asset Management วางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับสภาวะตลาด
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ความผันผวนของตลาดและการลงทุนที่ไม่แน่นอน ทั้งในและต่างประเทศ
การลดลงของ Volume การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลกระทบต่อ Brokerage Income
ความเสี่ยงด้าน Credit Loss ที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย
การ Mark to Market ของสินทรัพย์ดิจิทัลและหุ้น กดดันผลประกอบการ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
เน้นการลงทุนใน Debt Instrument ที่มีความปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ
บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ มีการกระจายความเสี่ยงและประเมินสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ
XSpring Asset Management พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในสภาวะตลาดปัจจุบัน
XSpring AMC เน้นการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด และปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระได้ตามกำลัง
บริษัทมีความ Conservative ในการประมูลซื้อหนี้เสีย และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ NPL
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
มุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจ Lending โดยชักชวนนักลงทุนมาร่วมปล่อยกู้ Private Credit
คาดการณ์ว่าทิศทางการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง
XSpring Asset Management จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับสภาวะตลาดและบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
XSpring AMC จะบริหารจัดการการติดตามหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และพิจารณาการ Acquire Portfolio ใหม่ ๆ อย่างระมัดระวัง
XSpring Digital ได้รับผลบวกจาก G-Token ซึ่งช่วยให้ Investment Token กลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุน
คาดการณ์ว่า Trading Volume ของ Cryptocurrency จะมีทิศทางที่ดีขึ้นตามสภาพตลาดโลก
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่ นาทีที่ 47:38
-
แผนปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและบุคลากร
มีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนา XSpring App เพื่อรวบรวมข้อมูลการลงทุนของนักลงทุน
-
โอกาสขาดทุนต่อเนื่องจากพอร์ตลงทุน
ผลขาดทุนส่วนใหญ่มาจากหุ้นไทยที่ปรับตัวลง แต่ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น และผลขาดทุนน่าจะเบาบางลง
-
ความต้องการสินเชื่อและการลดการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร
ความต้องการสินเชื่อยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง และบริษัทล็อคอินดอกเบี้ยไว้แล้วส่วนหนึ่งจนถึงสิ้นปี
-
มุมมองต่อโครงการ G-Token และประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ
มองว่าเป็นโครงการที่ดี ช่วยระดมทุนให้ภาครัฐ และเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึง Government Bond ได้ง่ายขึ้น
บริษัทจะได้รับประโยชน์จากการ Educate นักลงทุนเกี่ยวกับ Investment Token และขยายฐานลูกค้า
-
โครงการ ICO ที่จะออกในปีนี้
ยังคงมุ่งเน้น Private ICO แต่มีแผนจะออก Public ICO ด้วย คาดว่าจะออกทันภายในปีนี้ 1 Public ICO และ 1 Private ICO
-
ธุรกิจดาวเด่นในไตรมาส 3
ธุรกิจ Lending ยังคงเป็น Bread and Butter ของบริษัท แต่หากตลาดฟื้นตัว ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจจัดการกองทุนก็น่าจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น
-
แผนเพิ่มรายได้ของ KTX
เน้นผลิตภัณฑ์ Derivative Warrant และ DR
-
การลงทุนต่างประเทศของลูกค้า Wealth
มีการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น Infrastructure Fund ที่เป็น Macquarie
-
การเพิ่มสัดส่วนลงทุนใน Corporate Bond และ Cash
เป็นการลงทุนเพื่อพักเงินใน Money Market และจะ Switch เงินไปลงทุนใน Direct Lending เมื่อมีโอกาส
-
การออกกองบอนด์ในภาวะดอกเบี้ยขาลง
พยายาม Capture ดอกเบี้ยให้ได้ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับลดลง
-
ความแตกต่างระหว่าง ICO และ Bond
ICO ก็คือ Debt Instrument อย่างหนึ่ง เพียงแต่ออกในรูปแบบของ Investment Token
-
ผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีจากสหรัฐอเมริกา
ไม่มีผลกระทบโดยตรง เพราะบริษัทไม่ได้มีธุรกิจที่โดนเรียกเก็บภาษีจากฝั่งสหรัฐฯ
-
การติดตามหนี้ของ XAMC และการเร่งฟ้องลูกหนี้
เร่งติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด และพยายาม Capture ไม่ให้ลูกหนี้หายไป
การเร่งฟ้องลูกหนี้อาจไม่ใช่ Solution ที่ดีที่สุด และจะเน้นการพูดคุยกับลูกหนี้ให้มากขึ้น
-
XAMC เก็บเงินได้ แต่ทำไมงบยังขาดทุน และตลาด NPA เป็นอย่างไรบ้าง
เป็นเรื่องของ Accounting Basis ที่บริษัทตั้ง ECL 100% ทำให้งบค่อนข้าง Conservative
ตลาด NPA ทรง ๆ ตัว และบริษัทพยายามขาย NPA ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
-
เหตุผลที่ยังไม่พิจารณาการจ่ายเงินปันผล
จะพิจารณาจากผลประกอบการของปีนี้อีกครั้ง
-
XAMC จะมีการซื้อทรัพย์เข้าพอร์ตอีกไหม
มีการประมูลอย่างต่อเนื่อง และจะรายงานเมื่อชนะการประมูล
-
รายได้ดอกเบี้ยยังคงเป็นพระเอก และมีดีลไหนที่น่าเป็นห่วงว่าจะ Default หรือไม่
ปัจจุบันยังไม่มีเคสที่น่าเป็นห่วง และทุก Lending ของบริษัทเป็น Asset-Based
-
Backlog หรือ NPA ที่อยู่ระหว่างการเจรจาปิดการขาย
มี NPA อยู่ประมาณ 40 ชิ้น และขายได้เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ชิ้น
-
แผนการฟื้นกำไรของ KTX ในช่วงที่เหลือของปี
หวังว่าสภาวะตลาดจะดีขึ้น และผลิตภัณฑ์ Derivative Warrant หรือ DR จะได้รับความนิยมมากขึ้น
-
ความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพของ XSpring ที่ยังคงติดกับตลาดคริปโต
คริปโตเป็นแค่ส่วนหนึ่งของ XSpring เท่านั้น และอยากให้นักลงทุนมองว่าเป็นบริษัทให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร
-
แผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ความเสี่ยงต่ำ
XSpring Asset Management พยายามออกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพตลาดและบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดี
-
โอกาสเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย และบริษัทจะ Capture Growth นี้อย่างไร
Investment Token น่าจะได้รับการยอมรับและความเข้าใจมากขึ้น และ Cryptocurrency น่าจะเติบโตตามประเทศที่พัฒนาแล้ว
-
เป้าหมายการเติบโตของฐานลูกค้าและรายได้ใน 3-5 ปีข้างหน้า และกลยุทธ์ในการบรรลุเป้าหมาย
อยากเป็นหนึ่งใน Financial Service Provider ที่นักลงทุนนึกถึงเมื่อต้องการลงทุนใน Asset Class ต่าง ๆ และมีการ Synergy กันใน Group เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการลงทุนได้หลากหลายรูปแบบ
-
แผนสำรองสภาพคล่องและการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
บริษัทไม่มีหนี้สิน และมีการ Balance การลงทุนใน Debt, Equity และ Fund และสามารถดึงสภาพคล่องออกมาจากหลาย Asset Class ได้
โดยสรุป, XPG กำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอนและผลกระทบจากการ Mark to Market, แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตผ่านธุรกิจ Lending, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ, และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ. การมีส่วนร่วมในโครงการ G-Token และการ Synergy ภายในกลุ่มบริษัทจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต