บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
Moshi Moshi Retail Corporation: สรุปผลประกอบการ Q2/2568 พร้อมเปิดแผนขยายสาขาและกลยุทธ์เติบโตอย่างยั่งยืน
P/E 17.58 YIELD 2.37 ราคา 33.75 (0.00%)Alright, here is the OPPDAY content based on the audio file you provided
Moshi Moshi Retail Corporation: สรุปผลประกอบการ Q2/2568 พร้อมเปิดแผนขยายสาขาและกลยุทธ์เติบโตอย่างยั่งยืน
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/2568 Moshi Moshi มีสาขาร้านรวม 176 สาขา และแบรนด์ Galig 3 สาขา สาขาค้าส่ง Giant 1 สาขา และ The OK Station 1 สาขา
ในด้าน Product Category Moshi ยังคงสร้างสรรค์สินค้าคุณภาพดี ลวดลายสวยงาม และราคาเข้าถึงได้ ใน 13 หมวดหมู่ เช่น Home Furnishing, Stationery, Bags, Plush Toy, เสื้อผ้า, ขนม, Pet Accessory, แฟชั่น, Beauty Products, Cosmetics, IT Gadget, Toys และ Others
Store Footprint ของ Moshi Moshi, Galig, The OK และ Giant รวม 181 สาขาทั่วประเทศ ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/2568 โดยแบ่งตามเขต กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีจำนวนสาขาประมาณ 35-36% และ Up Country 65%
ในไตรมาส 2 Moshi มีการเปิดสาขาในจังหวัดใหม่เพิ่มขึ้น 1 สาขา คือ จังหวัดตาก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
Q2 ไฮไลท์: รายได้เติบโต 28% อยู่ที่ 816 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 134 ล้านบาท เติบโต 65% Same Store Sales Recover กลับมาอย่างแข็งแกร่งที่ 15.2% ฟื้นตัวจากปีที่แล้วที่เกิดสินค้า Shortage Net Profit Margin ปรับตัวดีขึ้นจาก 12.7% เป็น 16.4%
มีการขยายสาขาในไตรมาสนี้ 11 สาขา รวมกับ Q1 ที่เปิดไป 6 สาขา ทำให้ Half แรกเปิดไปแล้วทั้งสิ้น 17 สาขา ครอบคลุม 64 จังหวัด Moshi มี 176 สาขา
Product Development ในช่วง Q2 ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และ Launch สินค้า Collection ใหม่ๆ อย่างน้อยเดือนละ 1,000 SKU อย่างต่อเนื่อง มีตัวใหม่ๆ เช่น Belly Gom, Ornament, Just Food, Riri Bear, Bix Butter Band และ Aspa
การออกสินค้า Collection ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นตัวผลักดันสำคัญที่ทำให้ Same Store Sales และ Revenue เติบโตขึ้นได้ Q2 ยังมี Collection Back to School ซึ่งเป็นธีมหลักสำหรับช่วงเวลานี้
Moshi ได้รับรางวัล Silver Award ในกลุ่ม Best Retailing Company จากนิตยสาร Finance Asia ประจำปี 2568
ภาพรวมของรายได้ 815 ล้านบาทใน Q2 แบ่งเป็น Retail 86% และ Wholesale 13% ซึ่ง Wholesale ลดลงจากปีที่แล้ว (ประมาณ 17%) ตามแผนที่เน้นขยายสาขาค้าปลีกอย่างเดียว การลดลงของรายได้ Wholesale ทำให้ Margin ของบริษัท improve ขึ้นด้วย
รายได้ 1% มาจาก Other Channels รวมถึงรายได้จาก Online Platform, Warehouse Sales และ Joint Venture (ประมาณ 500,000 บาท) ซึ่งไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของบริษัท
Revenue ใน Q2 เติบโต 28% Gross Profit บวกขึ้นมา 32% Net Profit Margin บวกขึ้นมา 65% GPM อยู่ที่ 55% Net Profit Margin อยู่ที่ 16.4% และ ROA/ROE ยัง Maintain ไว้ในระดับสูงต่อเนื่อง
รายได้ใน Q นี้อยู่ที่ 815 ล้านบาท บวกจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 28% รายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,654 ล้านบาท บวกขึ้นมา 24.5% Same Store Sales ในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 15.2% มาจากการที่ปีที่แล้วมีสินค้า Shortage ทำให้ฐานต่ำ และการออกผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รายได้ทุก Category เติบโต โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าของใช้ในบ้าน, ของเล่น, เครื่องเขียน และสินค้าแฟชั่น
Retail เติบโตขึ้นมาประมาณ 34% แต่สาขา Wholesale ติดลบไปเล็กน้อย (ประมาณ 5.6%) หลักๆ มาจากสาขาแพลตินัมที่ได้รับผลกระทบหลายอย่าง (การก่อสร้างสะพาน, นักท่องเที่ยวลดลง, ปัญหาชายแดน) Other Channels บวกขึ้นมาได้อยู่ที่ 65.9%
ปัจจัยที่ทำให้รายได้ครึ่งปีบวกขึ้นมาได้คือ การขยายสาขาค้าปลีก (31 สาขา) และทุกๆ Collection ที่ Launch ออกมาตั้งแต่ต้นปีประสบความสำเร็จ Collection ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แม้กระทั่ง Collection ที่ไม่ได้เป็นลิขสิทธิ์ (In-house Design) ก็ประสบความสำเร็จ
Same Store Sales ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 11.3% (ปีที่แล้ว -4%) มีนัยยะสำคัญจากการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว
Gross Profit Margin ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 55% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (53.1%) Gross Profit Margin ของ Half Year ปรับตัวดีขึ้นจาก 54% เป็น 55.2% ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ Gross Profit Margin Expand ได้คือ การ Improve ขึ้นมาทั้งในแง่ Retail และ Wholesale
การขยายสาขาค้าปลีกอย่างเดียว (31 สาขา) เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Margin Improve ขึ้นมาได้ มีการเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้ามากขึ้น และเพิ่มสัดส่วนสินค้า High Margin รวมถึงการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินหยวน
Selling Expense เพิ่มขึ้นตามการขยายสาขา แต่ Percent to Sales ปรับตัวดีขึ้นจาก 31.5% ในไตรมาส 2/2567 เหลือ 29.5% ในไตรมาสนี้ สำหรับครึ่งปีแรกปรับตัวดีขึ้นจาก 29.6% เหลือ 28.6% แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย และการบริหารจัดการในการคุมค่าใช้จ่ายของบริษัท
Admin Expense เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทีมงานหลังบ้านเพื่อรองรับการขยายสาขา แต่ Percent to Sales Improve มาจาก 4.2% ในปีที่แล้วมาอยู่ที่ 3.7% ในปีนี้ ในภาพครึ่งปีแรก Admin Expense to Sales Improve มาจาก 3.8% เหลือ 3.4% หลักๆ ของการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย Admin มาจากการปรับฐานเงินเดือนประจำปี, ค่าใช้จ่ายในการย้ายสำนักงานใหญ่ และการปรับสวัสดิการต่างๆ พนักงาน ภาพรวม Q2 และภาพครึ่งปีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
Finance Cost ทั้งหมดเป็นดอกเบี้ยที่เกิดจากหนี้สินตามสัญญาเช่า Moshi ไม่มีภาระดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินกู้ยืม Finance Cost ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายสาขา และการต่อสัญญาเช่าสาขาเดิมเป็นหลัก
Net Profit ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 134.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.5% YoY Net Profit Margin ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจาก 12.7% เป็น 16.4% กำไรในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 290 ล้านบาท ปรับตัวบวกมา 40% Net Profit Margin ก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกันจาก 15.5% เป็น 17.4% แสดงให้เห็นถึงการที่บริษัทสามารถแก้ไขปัญหา Shortage ที่เกิดขึ้นในปีก่อนหน้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สามารถ Expand ทั้ง Top Line และ Margin ได้
ในครึ่งปีแรกมีผลกำไรจาก JV เข้ามาประมาณเกือบๆ 1 ล้านบาท (ไม่มีสาระสำคัญมาก)
Total Asset ปัจจุบันบริษัทมีทรัพย์สินอยู่ที่ 4,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมา 0.8% เมื่อเทียบกับ 31 ธันวาคม มี Inventory ที่ลดลงไปเล็กน้อย 130 ล้านบาท มี Right of Use เพิ่มขึ้นมา และ PPE เพิ่มขึ้นมาตามการขยายสาขา
หนี้สินเพิ่มขึ้นมา 0.4% เล็กน้อย (2,061 ล้านบาท) หลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของตัวหนี้สินสัญญาเช่า ซึ่งสอดคล้องไปกับการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์สิทธิการใช้ Equity อยู่ที่ 2,348 ล้านบาท บวกขึ้นมา 1.1% เป็นไปตามผลการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงที่บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลไปใน Quater ที่ 2
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
Second Half Outlook: ไตรมาสที่ 1 และ 2 เปิดไปแล้วทั้งหมด 17 สาขา (2 สาขา Stand Alone Pilot ตัวใหญ่) Target ในไตรมาสที่ 3 และ 4 คือ เปิดสาขาเพิ่มเติม (12 สาขาในไตรมาส 3 และ 11 สาขาในไตรมาส 4)
First Half ที่ผ่านมา Moshi มีการออกสินค้า Collection ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลิขสิทธิ์และ Non-ลิขสิทธิ์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิด Momentum ที่ดีในเรื่องของ Operating Revenue รวมถึงมีการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อที่จะเพิ่ม Engagement ระหว่างลูกค้าของ Moshi และเพิ่มความสดใส
ในช่วงไตรมาส Second Half มีการเริ่มออกสินค้าใหม่ๆ ในช่วงไตรมาสที่ 3 เช่น Little Marine และ My Melody รวมถึงการเป็นสปอนเซอร์ให้กับบัตรคอนเสิร์ต มีการออก Collection ใหม่กับศิลปินวง Rice ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
Moshi ดำเนินกิจกรรมนอกเหนือจากธุรกิจ โดยมี Project Gift ที่เป็นการ Give Back สู่สังคม ในไตรมาสที่ 2 มีการทำกิจกรรม Gift a Future เป็น Project ที่มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรของพนักงานที่เรียนดี (16 ทุน) ซึ่งเป็น การให้ทุนมาอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายทั้งปี 2568 Moshi คาดการณ์การเติบโตของ Revenue อยู่ที่ 15-20% และ Same Store Sales Growth อยู่ที่ 4-5%
Strategy: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการขยายสาขา ให้ครอบคลุมในเขตพื้นที่ที่มีกำลังซื้อที่เหมาะสม ปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในการตกแต่งร้าน และผลิตสินค้าที่เป็น IP และ Non-IP ประมาณ 1,000 SKU ต่อเดือน รวมถึงศึกษา Potential ของ Business ต่างๆ ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตไป ไม่ว่าจะเป็น Domestic หรือ International บริษัทจะดำเนินงานให้ อยู่ภายใต้ Sustainability Strategy เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมๆ กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
บริษัทวางแผนที่จะเปิดการขยายสาขาอย่างน้อยประมาณ 30 สาขาในปี 2569
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
Platinum สาขา Wholesale ได้รับผลกระทบหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องการก่อสร้างสะพาน ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง และปัญหาชายแดนทำให้ลูกค้าค้าส่งหายไป
เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่นักลงทุนค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับ Same Store Sales
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทออกแบบ Collection ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสินค้า Trendy ต่างๆ ที่อยู่ในกระแส
บริษัทจะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือตัว Visual Merchandise
การรักษา Same Store Sales ให้ดีต่อเนื่อง ต้องมีการปรับ จับสินค้าตามเทรนด์
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 41:29]
-
Standalone Update:
- คำถาม: หลังจากที่บริษัทเปิด Stand Alone มาเป็นระยะหนึ่งแล้ว อยากให้บริษัทช่วยอัปเดตว่า ตอนนี้ทางบริษัทมองภาพ Stand Alone เป็นอย่างไร
- คำตอบ: มองว่ามหาวิทยาลัยที่เป็นไปได้มี 40-50 สาขา แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่อง Area รอบๆ มหาวิทยาลัยที่ต้องการไม่มีพื้นที่ว่าง ในปีนี้เพิ่งเปิด Non-University ไป 3 สาขา สาขาล่าสุดคือหลังสวน ชุมพร อยู่ในช่วงเก็บข้อมูลและประเมิน
-
Go International:
- คำถาม: มีการอัปเดตการไปต่างประเทศไหม มองว่าการไปต่างประเทศในระยะแรกๆ จะมีขาดทุนมากน้อยแค่ไหน
- คำตอบ: อยู่ในช่วงศึกษาข้อมูล สถานการณ์ทางตลาด และเศรษฐกิจภายในประเทศ บริษัทจะปรับโฟกัสมามุ่งการพัฒนาและขยายสาขาในประเทศไทยก่อน ส่วนการไปเปิดสาขาที่ต่างประเทศจะ Shift โฟกัสไปอยู่ที่แผนกลยุทธ์ระยะกลาง (1-3 ปีข้างหน้า)
-
Student Income:
- คำถาม: บริษัทมีตัวเลขไหมว่ารายได้มาจากกลุ่มนักเรียนประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ และในอนาคตอันใกล้จำนวนเด็กน่าจะร่อยหลอลงมาก บริษัทจะปรับตัวอย่างไร
- คำตอบ: ไม่ได้เก็บตัวเลขนักเรียนแบบ Exactly แต่เห็นว่าช่วงหลังๆ Expand ตัว Customer Base เป็นในอายุที่มากขึ้น มีลูกค้าจนถึง 50-60 ที่เป็น Member สินค้าช่วงหลังๆ ที่ออกมาก็ให้ครอบคลุมลูกค้าทั้งกลุ่มผู้ชาย กลุ่มแม่บ้าน สาวออฟฟิศ คนทำงาน
-
Collection Response:
- คำถาม: ผลตอบรับของ Collection Rice ของปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง 9 สาขาที่วางไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
- คำตอบ: Collection นี้ทำการศึกษาค่อนข้างนาน วางขายไปเมื่อช่วง Weekend ที่ผ่านมา ใน 9 สาขานี้ผลตอบรับเป็นไปอย่างที่ค่อนข้างพอใจ ในช่วง Weekend หน้าจะมีการวางเพิ่มในอีกประมาณ 20 สาขา
-
Q4 Growth:
- คำถาม: ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ Same Store Sales Growth จะเป็นอย่างไร เนื่องจากว่าปีที่แล้วมีฐานสูง จะส่งผลให้ SG&A to Sales เพิ่มขึ้นด้วยไหม
- คำตอบ: ถ้าดูในช่วง Half แรก ทั้ง Selling และ Admin Improve ขึ้นมา Percentage to Sale ลดลง (SG&A รวมกันลดลงไปแล้วประมาณ 1.4%) ในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถ Maintain ในตัวระดับที่ระดับนี้ไว้ได้
-
SG&A:
- คำถาม: SG&A ที่แจ้งว่าเกี่ยวกับการย้ายออฟฟิศถือเป็นรายการ One-time ไหม ประมาณกี่ล้านคะ และในไตรมาสไหนบ้าง
- คำตอบ: ไม่ใช่ One-time ลงเป็น Capex One-time ไป แต่ในส่วนของค่าเช่า และค่าเสื่อมราคาที่ไหลเข้ามาใน P&L ตั้งแต่ต้นเดือน (เริ่มมาอยู่ที่ออฟฟิศใหม่ตั้งแต่ 2 มกราคม) จะเข้าเพิ่มขึ้นมาประมาณเดือนละ 500,000 บาท
-
เริ่มปรับเฟอร์นิเจอร์:
- คำถาม: ปีที่แล้วเริ่มต้นปรับเฟอร์นิเจอร์คือช่วงไหน กีร้านในล็อตแรก แล้วตอนนี้ยังเหลือที่วางแผนจะปรับแต่ยังไม่ปรับอีกกี่ร้านคะ
- คำตอบ: เริ่มทยอยปรับกันมาเรื่อยๆ ในปีที่แล้ว (กลางปี) ไม่ได้มีปรับหลายเฟอร์ และหลายสาขา ค่อยๆ ทำมา ปีที่แล้วน่าจะทำไปซัก 70 สาขา ปีนี้มีแผนที่แผนไปตั้งแต่ต้นปีว่าจะปรับซักประมาณ 50 ก็ทำไปเรียบร้อยแล้ว
-
มองคู่แข่ง:
- คำถาม: มุมมองเกี่ยวกับคู่แข่งที่เข้ามาเรื่อยๆ Moshi มีแผนรับมืออย่างไรคะ
- คำตอบ: ทุกๆ Brand ที่เป็นข่าวอยู่ได้ Monitor Brand เหล่านั้นในต่างประเทศมาโดยตลอด ส่วนใหญ่ Brand จากจีนจะเน้นสินค้าที่เป็นกลุ่มลิขสิทธิ์ซะเยอะ
-
Target จังหวัด:
- คำถาม: ปีนี้บริษัทจะเปิดสาขาครบทุกจังหวัด กว่า 200 สาขา บริษัทคิดว่ายังมี Market Potential ในการเปิดสาขาในอนาคตอีกมากน้อยแค่ไหน
- คำตอบ: ไม่ได้มองว่าจะต้องไปในครบทุกจังหวัด บางจังหวัดอาจมีการไปเปิดในเขตพื้นที่ต่างอำเภอกัน ศึกษาในมุมของกำลังซื้อของแต่ละจังหวัดมากกว่า มีบางจังหวัดที่ไม่ได้ไปเนื่องจากว่ากำลังซื้อยังไม่พร้อม
-
Go Abroad Goal:
- คำถาม: มีแผนไปต่างประเทศหรือไม่