บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday TNP: กลยุทธ์ขยายสาขาและการเติบโตในครึ่งปีหลัง 2568
P/E 10.91 YIELD 3.49 ราคา 2.72 (0.00%)
สรุป Oppday TNP: กลยุทธ์ขยายสาขาและการเติบโตในครึ่งปีหลัง 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
บริษัท ธนพิริยะจำกัด (มหาชน) ได้อัปเดตข้อมูลผลประกอบการและการขยายสาขา โดยสรุปผลการดำเนินงานสิ้นสุดไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทมีการดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตมานานกว่า 30 ปี มีต้นกำเนิดจากจังหวัดเชียงราย และเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2558 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 52 สาขา
ช่องทางการจำหน่ายสินค้าของบริษัทมี 3 ส่วนหลัก: การจำหน่ายผ่านสาขา, การขายส่งผ่านสำนักงานใหญ่, และการขายผ่านออนไลน์ ณ สิ้นไตรมาส 2 มีสาขาทั้งหมด 51 สาขา ตั้งอยู่ใน 3 จังหวัด (เชียงราย, เชียงใหม่, พะเยา) พื้นที่การขายรวมประมาณ 18,000 ตารางเมตร
โครงสร้างรายได้หลักมาจากรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านสาขา (93.8%), ช่องทางการขายส่ง (5.7%), และรายได้อื่น ๆ (0.5%) รายได้รวมในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,473 ล้านบาท
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
บริษัทมีแผนการลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเปิด 5 สาขาในปี 2568 มีงบประมาณการลงทุน 125 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 1 สาขาที่อำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงราย และสาขาที่ 2 เปิดที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุง (renovate) สาขาเก่า และติดตั้งโซลาร์เซลล์ในสาขาใหญ่และศูนย์กระจายสินค้าหลัก
บริษัทมีสมาชิกสะสมแต้มมากกว่า 160,000 ราย ซึ่งแต้มสามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า และมีการทำโปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงการให้ส่วนลดสำหรับสมาชิก
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) ในไตรมาสที่ 1 ติดลบ 3.1% และไตรมาสที่ 2 ติดลบ 0.2% ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีการเติบโตเนื่องจากการขยายสาขาใหม่
ช่องทางการขายส่งผ่านสำนักงานใหญ่และตัวแทนจำหน่ายสินค้าติดลบประมาณ 10.7%
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทมีการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการและประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงการปรับปรุงการกระจายสินค้าและการจัดการบุคลากร บริษัทมีการทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่
บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและบริหาร โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมอยู่ที่ 10.4% ในไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรก
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้รวมทั้งปี 2568 จะเติบโตประมาณ 7-8% แม้ว่ายอดขายสาขาเดิมจะยังติดลบอยู่ แต่การขยายสาขาใหม่จะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายสาขาไปยังจังหวัดอื่น ๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและเงินปันผลสำหรับงวดสิ้นปี ปีละ 2 ครั้ง ในปีที่ผ่านมามีการจ่ายเงินปันผล 76 ล้านบาท สำหรับงวดครึ่งปี คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผล 40 ล้านบาท ซึ่งจะจ่ายในวันที่ 8 กันยายน 2568
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 33:49]
- พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าในจังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, พะเยา แตกต่างกันอย่างไร?
- ผู้บริหารตอบ: แม้แต่ในจังหวัดเชียงรายเอง ในอำเภอเดียวกัน คนละตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ก็ยังมีความต่างกัน ซึ่งตรงนี้มีทั้งความเหมือนและความต่าง บริษัทใช้ข้อมูลการขายในแต่ละทำเลมาบริหารจัดการ และดูแลรายสาขาอยู่แล้ว
- ผู้บริหารเสริมว่า ผู้จัดการสาขาแต่ละสาขาและ Supervisor จะช่วย Feedback เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละสาขากลับมายังสำนักงานใหญ่ เพื่อปรับแต่ละสาขาให้เหมาะสมกับผู้บริโภคในพื้นที่
- โมเดลความสำเร็จของเชียงราย สามารถ Copy-Paste ไปในจังหวัดที่เหลือในภาคเหนือได้หรือไม่? และมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ได้ปีละกี่สาขาใน 2-3 ปีข้างหน้า?
- ผู้บริหารตอบ: สิ่งที่จะ Copy-Paste ได้มีทั้งเรื่อง Store, Format Store, เรื่องของการบริการ, การบริหารสาขาพื้นฐาน คิดว่าไม่น่าจะติดอะไร แผนการเปิดสาขา มองว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า น่าจะไปได้ถึง 80 สาขา
- แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 จะเติบโตไหม? เพราะอะไร? ช่วงที่เหลือของปีจะเป็นอย่างไร? ปัจจัยบวก-ลบเป็นอะไรบ้าง? และภาพรวมปี 2568 มีการปรับเป้าหรือไม่?
- ผู้บริหารตอบ: ภาพรวมมองว่ายังโตได้อยู่ เพราะมีการเปิดสาขาใหม่ ช่วงครึ่งปีแรกเปิดไป 1 สาขา เดือน 7 เปิดไปแล้ว 1 สาขา และสิ้นเดือนนี้จะมีอีก 1 สาขาที่จะเปิดเพิ่มขึ้น
- สภาพเศรษฐกิจ คือยอดขายสาขาเดิมยังติดลบอยู่ แต่ปัจจัยที่จะทำให้เติบโตหลัก ๆ มาจากการขยายสาขาเป็นหลัก ปีนี้คาดว่าจะเปิดได้ 6 สาขา อาจจะผลักดันยอดขายให้โตขึ้นมาได้
- ภาพรวมรายได้ทั้งปี เดิมตั้งไว้ประมาณ 10-15% แต่ครึ่งปีแรกทำได้อยู่ที่ประมาณ 4-5% อาจจะปรับลดลงมาเหลือ 7-8% เพราะมองว่าในส่วนของครึ่งปีหลังจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีสาขาใหม่ที่เปิดเพิ่มเข้ามา
- Same Store ของ Q3 เป็นอย่างไร?
- ผู้บริหารตอบ: สาขาเก่า ๆ อาจจะยังติดลบอยู่ เพราะเรื่องกำลังซื้อเป็นหลัก แต่จะเติบโตด้วยการขยายสาขาใหม่เป็นหลัก
- ในส่วนของการทำกำไร ปัจจุบันเป็นอย่างไร?
- ผู้บริหารตอบ: ถ้าเทียบกับไตรมาสก่อน ๆ ไม่ได้ต่างกันมากนัก ปัจจัยในการทำกำไรยังคล้าย ๆ เดิม ไม่ได้มีอะไรที่จะมาดึงลงหรือปรับเปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก
- ผลการตอบรับสาขาแม่จันเป็นอย่างไรบ้าง?
- ผู้บริหารตอบ: สาขาแม่จันให้การตอบรับค่อนข้างดี ดีเลย ถือว่าดี
- สาขาเชียงใหม่ จะเปิดให้บริการเมื่อไหร่?
- ผู้บริหารตอบ: สาขาแม่เจดีย์ (เจดีย์แม่ครัว) จะเปิดสิ้นเดือนนี้ สาขาแรก และอีก 2 สาขาจะเปิดประมาณตุลาคม-พฤศจิกายน
- สินค้า Margin สูงและต่ำได้แก่อะไรบ้าง? และจากกลยุทธ์การโตของรายได้เปิดสาขา เป้า GP และ Net Profit อยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์?
- ผู้บริหารตอบ: แล้วแต่หมวด และพยายามบริหารร่วมกับ Supplier มองตลาดด้วย แข่งขันได้ ตัวไหนที่ทำ Margin ได้ก็ทำ ตัวไหนที่ต้องลดเพื่อแข่งขันก็ต้องลด ดู Market ด้วย
- ปีนี้เปิดเกินแผนไหม?
- ผู้บริหารตอบ: เดิมตั้งไว้ 5 สาขา คาดว่าน่าจะเปิดได้ 6 สาขา
- ปี 2569 คิดว่าจะยังเปิดที่เชียงใหม่เยอะเหมือนปีนี้ไหม?
- ผู้บริหารตอบ: ก็เป็นไปได้ เพราะจริง ๆ มองแผนไว้ว่า กำลังซื้อถ้าเทียบ คือมันเป็นพื้นที่ใหม่ที่เราน่าจะขยายได้เยอะ
- ปีนี้อีก 3 สาขาที่เหลือมีแผนเปิดช่วงไหน?
- ผู้บริหารตอบ: ตุลาคม พฤศจิกายน หรืออาจจะธันวาคม ต้นธันวาคม 1 สาขา
- ศูนย์กระจายสินค้ายังสามารถรองรับการขยายได้อีกมากแค่ไหน?
- ผู้บริหารตอบ: มากกว่า 60 สาขาแน่นอน ตอนนี้ยังไม่ได้ทำ OT หรือทำครบ 24 ชั่วโมง ก็ยังมี Capacity ที่สามารถรันได้อยู่
- ผู้บริหารเสริมว่า ยังมีพื้นที่ที่ยังเพิ่มคลังได้อยู่ด้วย และการก่อสร้างก็ไม่ได้ช้า ถ้าเกิดมันเป็นจริง ๆ แต่ปกติจะมี การประมาณการไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ถ้าเกิดเริ่มที่จะเต็ม เราก็จะเพิ่ม และคิดว่าใน ปีหน้าหรือปีถัด ๆ ไป จะมีเรื่องการปรับประสิทธิภาพ เรื่องให้สินค้ามันหมุนเร็วขึ้นด้วย
- อยากให้พิจารณาเพิ่มสัดส่วนการขายเครื่องสำอาง เห็นที่เชียงใหม่ขายดีมาก?
- ผู้บริหารตอบ: รับไว้พิจารณา เพราะจริง ๆ ตรงนี้ก็มองเห็นอยู่แล้ว และถึงแม้ว่าเราไม่ได้ไปที่เชียงใหม่หรืออะไร เราก็มอง มอง Trend การเติบโตของสินค้าอยู่แล้ว และก็ติดต่อเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- ราคาสินค้าในร้านเรากับราคาสินค้าคู่แข่งที่คล้าย ๆ กัน ใครถูกกว่ากัน?
- ผู้บริหารตอบ: แข่งขันกันได้ อาจจะมีถูกบ้างแพงบ้าง สลับกันไป หรืออาจจะเท่ากัน
- Q3 ฝนตก ลดลง อากาศร้อนขึ้น ยอดขายของบริษัทดีกว่าปีที่แล้วหรือไม่?
- ผู้บริหารตอบ: เมื่อคืนฝนกลับมาตกหนักอีกแล้ว ก็อาจจะมีตกอีก แต่ว่ามีความร้อนขึ้นก็เห็นเครื่องดื่มก็ดูดีขึ้น
- ปกติสาขาใหม่ใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ในการ Break Event? ถ้ามองว่าการทำกำไรจริง ๆ?
- ผู้บริหารตอบ: ค่อนข้างเร็ว ณ วันที่เปิดสาขา ถ้าเกิดอยู่ในทำเลที่ดี จำนวนคนที่เข้ามาซื้อตามที่คาดหวังไว้ ในเดือนแรก ๆ หรือเดือนถัด ๆ ไปก็จะแทบจะทำกำไรได้แล้ว
- ปกติโดยทั่วไปการทำกำไรก็ไม่เกิน 5 เดือน 4-5 เดือนก็จะเห็นแล้วว่าสาขาที่เปิดก็จะทำกำไรได้ หรืออาจจะมีบางสาขาที่อาจจะพื้นที่ที่อาจจะอยู่อำเภอไกล ๆ หน่อย ก็อันนี้ก็แล้วแต่พื้นที่เหมือนกัน ก็อาจจะช้าลงมา แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ยังไงก็กลับมาทำกำไรได้
- ส่วน Break Even นี่เคยทำได้สูงสุด เร็วที่สุดน่าจะประมาณ 18 เดือน ในการคืนทุน?
- ถ้า Distribution Center รองรับได้ 60 สาขา การขยายไปถึง 80 สาขาใน 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มศูนย์กระจายหรือไม่?
- ผู้บริหารตอบ: แผนยังใช้ศูนย์กระจายสินค้าที่นี่อยู่ แต่มองว่าถ้าเกิดในพื้นที่อย่างเช่น ตัวเมืองเชียงใหม่ที่ไกลขึ้น หรือว่าไปจังหวัดอื่น ๆ มากกว่า 3 จังหวัดที่ขยายอยู่ ณ ปัจจุบัน ก็อาจจะเป็นไปได้
- การลงทุนก็คงไม่ได้ลงทุนเยอะ เป็นคลังที่เก็บสินค้าแล้วก็กระจายสินค้าเป็นหลัก แต่ของย่อยเดี๋ยวอาจจะต้องพิจารณากันอีกทีนึงว่าจะกระจายจากศูนย์ปัจจุบัน เพราะว่าก็ดูความคุ้มทุนอีกทีนึง
- สาขาที่เหลือจะเปิดในปีนี้ จะเปิดที่จังหวัดใดบ้าง?
- ผู้บริหารตอบ: ทั้งหมด 6 สาขา เปิดไปแล้ว 2 สาขาอยู่ที่เชียงราย สาขาถัดไปอีก 3 สาขาจะเป็นเชียงใหม่ ส่วนสาขาสุดท้ายน่าจะอยู่ในเชียงราย
- อยากลอง อยากให้ลองดูโมเดลร้านขายเครื่องสำอาง มาเปิดที่เชียงราย ขายดีมาก?
- ผู้บริหารตอบ: จริง ๆ เราก็เหมือนมี Shop in Shop ที่อยู่ในสาขาค่อนข้างใหญ่ Shop in Shop ของเราก็ค่อนข้าง ไม่ได้เล็กมาก ยินดีรับมาพิจารณา
- จริง ๆ ก็มอง ของเราก็เป็นโมเดลที่ขยายตรงเครื่องสำอางนี้มากอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้แบบเป็นคอสเมติกแบบจ๋ามาก ทำ Shop in Shop อยู่แล้ว
โดยสรุปแล้ว TNP ยังคงมุ่งเน้นการขยายสาขาและการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในเพื่อรักษาการเติบโต แม้จะมีความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว