CPALL สรุปผลประกอบการ Q2/2568 และกลยุทธ์การเติบโต พร้อมตอบทุกข้อสงสัยนักลงทุน

P/E 13.62 YIELD 3.16 ราคา 43.00 (0.00%)

CPALL สรุปผลประกอบการ Q2/2568 และกลยุทธ์การเติบโต พร้อมตอบทุกข้อสงสัยนักลงทุน

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568, CPALL มีการปรับตัวดีขึ้นในทุกมุมมอง ทั้งในงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ เนื่องจากการดำเนินกลยุทธ์และกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

รายได้รวมโตขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มาจากทุกกลุ่มธุรกิจ ปิดอยู่ที่ 256,000 ล้านบาทในไตรมาสนี้

กำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในแง่เม็ดเงินและ margin กำไรจากการดำเนินงานก็ปรับตัวดีขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว

กำไรสุทธิในงบการเงินรวมปิดที่ 6,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

ในงบการเงินเฉพาะกิจการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ รายได้รวมปิดที่ 130,000 ล้านบาท โตขึ้นประมาณ 7% จากปีที่แล้ว อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวมาอยู่ที่ 29.3% ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว มีการขยายตัวประมาณ 30 basis points ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลยุทธ์ด้านสินค้าของเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เน้นเพิ่มสัดส่วนของสินค้าที่มี margin สูง

กำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะกิจการปิดที่ 9.2 พันล้านบาท โตขึ้นประมาณ 36% เทียบกับปีที่แล้ว

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

CPALL มุ่งเน้นที่จะเป็น Food and Drink Destination ของลูกค้า โดยการเพิ่มสัดส่วนของสินค้ากลุ่มอาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) ที่มี margin สูง

การขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเพิ่มสาขาในทำเลที่มีศักยภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่

การเติบโตของช่องทาง O2O (Online to Offline) หรือ Seven Delivery และ All Online ซึ่งยังคงเติบโตดีอย่างต่อเนื่องและรักษาสัดส่วนยอดขายไว้ได้ที่ 11% ของยอดขายทั้งหมด

การเลือกพรีเซนเตอร์ที่ตรงใจลูกค้า และการจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการบริโภคภายในประเทศ

การแข่งขันที่สูงในตลาดร้านสะดวกซื้อ และการขยายสาขาของคู่แข่ง

ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

การควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบคอบ

การปรับปรุงกลยุทธ์ด้านสินค้าและการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและสถานการณ์ตลาด

การพัฒนาช่องทาง O2O และการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ Delivery

การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

CPALL ตั้งเป้าที่จะ maintain ยอดขายต่อร้านต่อวันให้อยู่ในระดับปัจจุบัน และพยายามที่จะ deliver การเติบโตของยอดขายให้กับนักลงทุน

บริษัทฯ คาดหวังว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกต่างๆ จะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะส่งผลให้การบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย

CPALL ยังคงมุ่งเน้นที่จะนำเสนอสินค้าที่ตรงใจลูกค้า และรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดร้านสะดวกซื้อ

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม 00:16:44]**
  1. เป้าหมายยอดขายและแนวโน้มครึ่งปีหลัง

    บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายเดิม แม้ว่าไตรมาส 2 จะมีความท้าทายจากเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนต่างๆ แต่ยังคงพยายามที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของลูกค้าในเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม โดยนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

  2. งบลงทุน

    งบลงทุนยังคงใกล้เคียงเดิมทุกปี ประมาณ 12,000 - 13,000 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งเป็นการเปิดสาขาและ renovation ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็น IT และ maintenance ต่างๆ

  3. แผนการออกหุ้นกู้

    ปีนี้ได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม และได้รับผลตอบรับที่ดีมาก หุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้ไม่มีแล้ว จะมีในส่วนของปีหน้าประมาณ 10-15% ของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่จะ roll over

  4. ผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยของกนง.

    ต้องมาดูว่าหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีหน้ามีอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ ถ้าอัตราดอกเบี้ยสูงก็จะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน แต่บริษัทฯ พยายาม maintain cost of debt ให้อยู่ที่ประมาณ 4% และอายุของหุ้นกู้อยู่ที่ประมาณ 5 ปี

  5. แนวทางการเพิ่ม GP Margin

    บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมี strategy หลักในเรื่องของสินค้าที่บริษัทฯ ตั้งใจทำ โดยนำเสนอสินค้าให้ตรงจุด และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเน้นสินค้า ready-to-eat

  6. แผนการขยายสาขา

    เป้าหมายปัจจุบันอยู่ที่ 20,000 สาขา ปัจจุบันมีเกือบ 16,000 สาขา คาดว่าในอีก 3-5 ปี จะยังคงเปิด 700 สาขาต่อปี และพยายามที่จะเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด

    ปัจจุบันเน้นเปิดสาขาใหญ่ขึ้น มีที่จอดรถ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า และสาขาใหญ่จะช่วยให้การวางระบบและการ maintenance ง่ายขึ้น และยังสามารถใส่ SKU ได้มากขึ้น

  7. GP Margin ของ Delivery

    สินค้าที่ขายผ่าน Delivery จะเป็นสินค้าที่เหมือนกับในร้าน และราคาไม่ต่างกัน ส่วนต่างจะอยู่ที่ incentive ที่ให้กับพนักงานในร้านที่ไปส่งสินค้า แต่โดยรวมแล้ว margin ไม่ได้แตกต่างกันมาก

  8. ผลกระทบจากคู่แข่งที่มาเปิดข้างๆ

    Positioning ของ CPALL ค่อนข้างชัดเจน โดยเน้นสินค้า ready-to-eat และ ready-to-drink และพยายามที่จะ serve ลูกค้าในทุกๆ มื้อ ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างจากร้านอื่นๆ แต่บริษัทฯ ก็มีการ study และศึกษาอยู่ตลอดเวลา

  9. ค่าไฟที่ลดลง

    เป็นเรื่องของหน่วยไฟต่อบาทที่ปรับลดลง และการบริหารจัดการหน่วยไฟที่ใช้ในร้าน แต่ในครึ่งปีหลังจะเน้นการบริหารจัดการหน่วยไฟที่ใช้ในร้านมากขึ้น

    ภาพรวมค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ พยายามบริหารจัดการให้การเติบโตของค่าใช้จ่ายไม่สูงไปกว่าการเติบโตของรายได้รวม และ maintain เปอร์เซ็นต์ค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมให้อยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม

  10. เป้าหมายยอดขายทั้งปี

    พยายามนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นที่หลากหลาย และ deliver การเติบโตของยอดขายให้กับนักลงทุน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอกด้วย

  11. Traffic ในครึ่งปีหลัง

    โดยปกติไตรมาส 4 จะเป็น high season ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และต้องมาดูว่าในไตรมาส 4 จะมีนักท่องเที่ยวปรับเพิ่มขึ้นมาได้ไหม แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวจีนอาจจะปรับลดลง แต่ฝั่งยุโรป รัสเซีย หรืออเมริกา มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และถ้าทำได้ตามเป้าหมาย 35 ล้านคน ก็คาดว่า traffic จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น

  12. อาหารพร้อมทานและของหวานได้รับผลกระทบไหม

    จากตัวเลขครึ่งปีแรก อาหารพร้อมทาน อาหารของหวาน ขนมหวาน ขนมหวานไทย และผลไม้ตัดแต่ง ยังเป็นสินค้าขายดี

  13. Timeline การซื้อหุ้นคืน

    ประกาศการซื้อหุ้นคืนไปช่วงกลางเดือนพฤษภาคม และทยอยซื้อคืน คิดเป็นประมาณ 0.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่

โดยสรุป, CPALL ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการนำเสนอสินค้าที่ตรงใจลูกค้า, การขยายสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ, และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด