บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
AMATA Oppday Q2/2568: เจาะลึกผลประกอบการและทิศทางธุรกิจ
P/E 5.99 YIELD 4.91 ราคา 16.30 (0.00%)
AMATA Oppday Q2/2568: เจาะลึกผลประกอบการและทิศทางธุรกิจ
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**AMATA ได้นำเสนอผลประกอบการสำหรับงวด 6 เดือนของปี 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้
- รายได้รวม 5,765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม 470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%
- กำไรสุทธิ (ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) 969 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40%
- มีการโอนที่ดินให้ลูกค้า 450 ไร่
- Backlog (ลูกค้าเซ็นสัญญาและรับเงินบางส่วนแล้ว) 25,034 ล้านบาท (รวมส่วนที่เป็นเวียดนาม 1,800-1,900 ล้านบาท)
การโอนที่ดินให้ลูกค้ามีสัดส่วน 41% ของรายได้รวม Utility & Service ปรับตัวลดลงเนื่องจากลูกค้าหลักในเวียดนามมีประเด็นเรื่องการนำเข้าในประเทศอเมริกา ทำให้การผลิตและการใช้ไฟลดลง
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**AMATA มองเห็นโอกาสในการเป็น Perfect City โดยมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์แก่ทุกฝ่าย (All Win) มีการลงทุนในหลายประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ลาว และพม่า
บริษัทแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 4 ส่วนหลัก:
- นิคมอุตสาหกรรม (ในไทย ลาว เวียดนาม และพม่า)
- Urban ที่อยู่อาศัยต่างๆ
- Utility (น้ำ ไฟ น้ำเสีย แก๊ส Fiber Optic)
- บริการและการลงทุน (ทั้งในและต่างประเทศ)
มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นใน AMATA City ชลบุรี เช่น โรงไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย สนามกอล์ฟ และบ่อน้ำเพื่อให้บริการลูกค้า
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**ความเสี่ยงหลักที่ AMATA เผชิญคือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ US Tariff ที่ส่งผลต่อลูกค้าในเวียดนาม ทำให้กำลังการผลิตและการใช้ไฟลดลง
ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลกก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**AMATA พยายามแก้ไขปัญหาโดยการหาตลาดใหม่ๆ ให้ลูกค้าในเวียดนาม และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อลดต้นทุน
บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มีการนำกลยุทธ์ ABCD มาใช้ในการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจ:
- A: การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน
- B: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2583)
- C: การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ
- D: การเพิ่มคุณค่าและกระจายความเจริญสู่สังคมและชุมชน
AMATA ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการสร้างเมืองอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์แบบ (Perfect City) ที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนและผู้อยู่อาศัย
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 45:27 ]**- **ภาษีศุลกากร (US Tariff) และผลกระทบต่อลูกค้าจีน:**
- **คำถาม:** ภาษีศุลกากรจาก 36% ลดลงมาอยู่ที่ 19% มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างไร และรับรู้เรื่อง Backlog อย่างไรบ้าง
- **คำตอบ:** การลดภาษีเป็นผลบวกและเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าพิจารณาการลงทุนในไทยและเวียดนามมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ และลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงอยู่ในช่วง wait-and-see บริษัทจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงสิ้นไตรมาส 3 ส่วนลูกค้าใน Backlog ยังคงดำเนินการตามกระบวนการ ไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจาก US Tariff
- **ทิศทางการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง:**
- **คำถาม:** ทิศทางการดำเนินงานช่วงหลังของปี 2568 จะเป็นอย่างไร จะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกหรือไม่
- **คำตอบ:** ปัญหา US Tariff เริ่มตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ดังนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่โดยปกติผลการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 บริษัทเชื่อว่าครึ่งปีหลังรวมถึงไตรมาส 4 จะมีผลการดำเนินงานที่สูงขึ้น
- **เป้าหมายยอดขายที่ดินปี 2568:**
- **คำถาม:** ยังคงเป้าขายที่ดิน 3,500 ไร่ หรือไม่ ครึ่งปีแรกขายได้เท่าไหร่
- **คำตอบ:** บริษัทวิเคราะห์อย่างระมัดระวังและเข้าใจโครงการที่ชะลอออกไป คาดว่า 500 ไร่จะถูกยกไปปีหน้า ดังนั้นเป้าหมายยังคงอยู่ที่ 3,000 ไร่
- **แผนการลงทุน (CAPEX) ในการซื้อที่ดิน:**
- **คำถาม:** บริษัทมีแผนลงทุน (CAPEX) ประมาณปีละเท่าไร มีแผนซื้อที่ดินเพิ่มหรือไม่ หรือพัฒนาที่เดิม
- **คำตอบ:** ในประเทศไทยตั้งเป้าหมายซื้อและพัฒนาที่ดิน 7,000 ล้านบาท ปัจจุบันซื้อไปแล้วประมาณ 50% หากลูกค้าเพิ่มขึ้นอาจมีการขยับการลงทุนเพิ่ม แต่หลักๆ ได้ซื้อและพัฒนาไปในช่วง 6 เดือนแรกมากกว่า 80% แล้ว
- **สัดส่วนลูกค้า (Customer Breakdown) และแนวโน้มลูกค้าเวียดนาม:**
- **คำถาม:** ลูกค้าหลักมาจากประเทศไหน สัดส่วนลูกค้าที่ส่งออกไป US ประมาณเท่าไหร่ แนวโน้มลูกค้าที่เวียดนามเป็นอย่างไร
- **คำตอบ:** ในไทย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีน (มากกว่า 80%) รองลงมาคือฮ่องกง ญี่ปุ่น และสวิส อุตสาหกรรมหลักคืออิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์อุตสาหกรรม ในเวียดนามมีสิงคโปร์ เกาหลี และไต้หวัน สิงคโปร์และเกาหลีเน้น logistics/warehouse ส่วนไต้หวันเน้นอิเล็กทรอนิกส์
- **ผลกระทบจากความล่าช้าในการลงทุนของลูกค้าจีน:**
- **คำถาม:** ลูกค้าจีนมีการชะลอการลงทุนหรือไม่
- **คำตอบ:** มีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจาก Tariff แต่โดยรวมแล้ว AMATA ยังคงได้รับการสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรม electronics ถึงแม้ตลาด automotive จะชะลอตัว แต่ไทยยังคงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจ ดังนั้น AMATA จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
- **การคาดการณ์ยอดขายที่ดินและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย:**
- **คำถาม:** มั่นใจหรือไม่ว่าจะทำได้ตามเป้า 3,000 ไร่ ดีมานด์มาจากกลุ่มไหน
- **คำตอบ:** บริษัทยังคงเป้า 3,000 ไร่ แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงทุกวัน ต้องดูการตัดสินใจของลูกค้าจีนว่าจะตัดสินใจอย่างไร และจะดำเนินการภายในปีนี้หรือปีหน้า อุตสาหกรรมหลักคือ electronics นอกจากนี้ Data Center ก็มีความต้องการสูง AMATA จะเน้น Data Center ที่มีการจัดการน้ำและพลังงานที่ดี เพื่อความยั่งยืน
- **จำนวนลูกค้าศักยภาพสูงและยอดขายที่ดิน:**
- **คำถาม:** มีลูกค้าศักยภาพสูง (high potential customers) กี่ราย และมียอดขายที่ดินเท่าไร
- **คำตอบ:** มีลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการที่ดินมากกว่า 100 ไร่ และมีลูกค้ารายย่อยที่ต้องการ 10-20 ไร่ จำนวนมาก AMATA มีที่ดินพร้อมขายในระยองจำนวนมาก และเชื่อว่าจะมีลูกค้าศักยภาพสูงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ลูกค้าไต้หวันก็สนใจตลาดชลบุรี AMATA จะดึงดูดลูกค้าเหล่านี้ด้วยราคาและทำเลที่แข่งขันได้
- **ตัวเลขยอดขายที่ดิน (Land Sales) ณ ปัจจุบัน:**
- **คำถาม:** ยอดขายที่ดิน (land sales) สะสมถึงปัจจุบันเป็นเท่าไร
- **คำตอบ:** รวมเวียดนาม มียอดขาย 800 ไร่ แต่เนื่องจาก US Tariff ยังมีความไม่แน่นอน จึงต้องติดตามการตัดสินใจอีกครั้ง แต่เชื่อว่าไตรมาส 4 จะเป็นโอกาสที่ดี
- **จำนวน Data Center ที่สอบถามเข้ามา:**
- **คำถาม:** มี Data Center ที่สอบถามเข้ามา (inquiries) กี่ราย
- **คำตอบ:** มีมากกว่า 30 ราย แต่ AMATA จะเลือกเฉพาะลูกค้าที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการดำเนินงาน โดยมีโครงการ Data Center ศักยภาพสูง 3-5 รายที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
- **ปัจจัยบวกในครึ่งปีหลัง:**
- **คำถาม:** ปัจจัยบวกในครึ่งปีหลังมีอะไรบ้าง
- **คำตอบ:** การสอบถาม (inquiries) ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และกระแส China Plus One ยังคงดำเนินต่อไป นอกจากนี้ยังมีการลงทุนใหม่ๆ ในอุตสาหกรรม semiconductor ซึ่งจะทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ semiconductor เพิ่มขึ้น AMATA จะศึกษาแนวโน้มเหล่านี้อย่างรอบคอบ เพื่อวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม
- **ขนาดที่ดินที่ Data Center ต้องการ:**
- **คำถาม:** Data Center ต้องการที่ดินขนาดเท่าไร
- **คำตอบ:** โครงการขนาดใหญ่มีความต้องการที่ดิน 50-200 ไร่ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100 ไร่ หาก AMATA สามารถดึงดูดลูกค้าได้หลายราย ยอดขายที่ดินก็จะอยู่ที่ 200-300 ไร่
- **ความเพียงพอของ Utility และ Power:**
- **คำถาม:** มี Utility และ Power เพียงพอหรือไม่
- **คำตอบ:** ปัจจุบันยังมีเพียงพอ แต่ AMATA จะวางแผนระยะยาวเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต และให้ความสำคัญกับความมั่นคงของการดำเนินงาน
โดยสรุป AMATA ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตในอนาคต แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอก แต่บริษัทก็มีแผนการรับมือและปรับตัวอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ AMATA ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนและเป็นผู้นำด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม