ALT โชว์ผลงาน Q2/66 กำไรโตต่อเนื่อง พร้อมลุยแผนซื้อหุ้นคืน

P/E 11.84 YIELD 0.00 ราคา 0.98 (0.00%)

ALT โชว์ผลงาน Q2/66 กำไรโตต่อเนื่อง พร้อมลุยแผนซื้อหุ้นคืน

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาพบกันในการประชุม Oppday ของบริษัท ALT Telecom จำกัด มหาชน ในไตรมาสที่ 2 ดิฉันปิยาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการค่ะ

วันนี้เรามีเนื้อหาเยอะแยะมากมาย อยากขอท่านนักลงทุนติดตามกัน วันนี้เราจะมีประเด็น 3 เรื่องหลักๆ เรื่องแรกจะเป็นเรื่องของแผนยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตเป็นยังไงบ้าง อันที่ 2 ก็จะเป็นผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 และผลประกอบการครึ่งปีแรก ส่วนประการสุดท้ายจะเป็นในเรื่องของตัว Treasury Stock ที่บริษัทจะมีการรับซื้อหุ้นคืนนะคะ หลังจากนั้นเนี่ยเราจะเป็นการตอบคำถามในแต่ละคำถามค่ะ ก็อยากจะขอท่านนักลงทุนเนี่ยสามารถจะส่งคำถามมาในช่องแชทได้นะคะ รวมไปถึง LINE IR ของบริษัทด้วยค่ะ แล้วเดี๋ยวเราจะทยอยไล่ตอบคำถามกันนะฮะ แต่เนื่องจากวันนี้เนื้อหาค่อนข้างเยอะ อันไหนที่เราตอบไม่ทันนะคะ เราจะขอตอบหลังจากจบรายการนี้ค่ะ เราจะไล่ตอบในแต่ละคำถามเลยนะคะ

อย่างแรกนะคะ ก็คือในส่วนของตัวแผนยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตนะคะ มันจะมีทั้งหมด 4 ข้อนะคะ ก็คือข้อแรกจะเป็นในเรื่องของการปรับโครงสร้างฐานทุนเพื่อพร้อมให้เราเติบโตอย่างไรได้บ้างนะคะ ข้อประการที่ 2 ก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สินที่เรามีอยู่ค่ะ อันที่ 3 ก็คือจะเป็นการเสริมสร้างความไว้ วางใจในเรื่องของคุณภาพของงานของเราเป็นอย่างไรบ้างนะคะ สุดท้ายก็คือการดูแลผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสมนะคะ

ในรายละเอียดนะคะก็คือการปรับฐานทุนในเรื่องของการพร้อมต่อการเติบโตเนื่องจากในงบของบริษัทที่ผ่านมาค่ะ เราจะมีเรื่องของผลของการขาดทุนสะสมครั้งหนึ่งนะคะ มันเลยกลายเป็นอุปสรรคในเรื่องของการจ่ายเงินปันผลค่ะ ดังนั้นเนี่ยวันที่ 25 ที่ผ่านมานะคะในการประชุม ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เรามีมติการอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายนะคะ แล้วก็ส่วนเกินมูลค่าหุ้นไปชดเชยในส่วนของการขาดทุนสะสมนะคะ จะมีจำนวน 62,500,000 บาท และ 225 ล้านบาทนะคะ เพื่อจะทำให้ เมื่อควบรวมในยอดยอดของกำไรในช่วง 6 เดือนเนี้ยค่ะ ณ ไตรมาสที่ 2 เนี่ย งบการเงินรวมของบริษัทจะมีจำนวนขาดทุนเหลือเพียง 1.9 ล้านนะคะ แต่ในงบของ เอ่อ ในงบ ในงบเฉพาะ ในงบเดี่ยวอะค่ะ ของ ALT เราจะมีกำไรสะสมนะคะ เป็น 22,500,000 บาทนะคะ

ต่อมาข้อที่ 2 นะคะก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่ผ่านมาเนื่องจากว่าที่ผ่านมาพอเรามีการปรับโครงสร้างทั้งกลุ่มอะค่ะ เราก็ค้นพบว่าในทรัพย์สินบางส่วนเนี่ยอาจจะไม่ได้มีการ realize เรื่องของมูลค่าต่างๆ เราก็มีการตัดจำหน่ายบางส่วนนะคะ หรือบางส่วนมีการมาจัดโครงสร้างใหม่ ทำให้ส่งผลสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงขององค์กร ทั้งในเชิงของบัญชีแล้วก็ในเชิงกลยุทธ์นะคะ

ส่วนข้อที่ 3 ก็คือจะเป็นในเรื่องของการเสริมสร้างความไว้ วางใจด้วยคุณภาพแห่งผลงานนะคะ ซึ่งในส่วนตรงนี้เนี่ยจากมติของการประชุมบอร์ดในไตรมาส 2 ที่ผ่านมานะคะ บอร์ดมีการอนุมัติค่ะ 2 โครงการหลักๆ นะคะ ก็คือโครงการแรกจะเป็นโครงการสร้างโครงข่ายใยแก้วนำแสงเส้นทางความปลอดภัยสูงนะคะ กรุงเทพ EEC ระยะทาง 270 กม. ค่ะ ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 15 เดือนนะคะ คาดว่าเราสามารถจะให้บริการในครึ่งปีหน้าราปี 70 นะคะ

ส่วนโครงการที่ 2 ค่ะ จะเป็นโครงการเคเบิลภาคพื้นน้ำเส้นใหม่นะคะ เชื่อมสถานีชายฝั่งสตูล ในระยะทาง 12 ไมล์ทะเลค่ะ นอกจากนั้นจะมีในเรื่องของตัวโครงข่ายใยแก้วนำแสงด้วยนะคะ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 21 เดือนค่ะ คาดว่าโครงการนี้จะให้บริการในครึ่งปีแรกของปี 71 นะคะ 2 โครงการดังกล่าวใช้เงินลงทุนประมาณ 1,600 ล้านบาทค่ะ คาดว่าจะรับรู้รายได้หลังจากนั้นเนี่ยปีละประมาณ 150-190 ล้านบาทตลอดอายุสัญญา 20 ปีนะคะ

ท่านผู้ถือหุ้นหรือผู้รับฟังการบรรยายวันนี้อาจจะสงสัยว่า ไอ้การขยาย 2 โครงการใหม่มันไปเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของคุณภาพ ความไว้ วางใจของลูกค้า กำลังจะบอกว่าโครงการใหม่ที่เรากำลังจะดำเนินการเนี่ยเป็นผลจากผลงานของเราในอดีตที่สามารถสร้างความไว้ วางใจของลูกค้าได้นะครับ ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ ลูกค้า และท่านอาจจะมีความสงสัยว่าแล้วบริษัทจะเอาเงินมาจากไหนในการลงทุน เงินทุนส่วนใหญ่ที่ใช้ในการลงทุนเนี่ยจะมาจากเงินที่ลูกค้าชำระมาล่วงหน้าตลอดอายุสัญญานะครับ ซึ่งอาจจะมีการใช้ working cap ในระหว่างก่อสร้างบางส่วน แต่เงินหลักๆ ลูกค้าจะ advance ให้ ซึ่งอันนี้เป็นผลโดยตรงจากผลงานและความไว้ วางใจของลูกค้าที่เราได้สร้างไว้ในผลงานก่อนหน้านี้นะครับ แล้วรวมไปถึงการมาของ Data Center ด้วย มันเลยทำให้ตรงส่วนเนี้ยพอเราเปิดให้บริการไปแล้วอะ ลูกค้าก็ไว้ วางใจเลยเป็นที่มาของการขยายผลต่อเนื่องนะคะ

ส่วนที่ 4 พอทุกสิ่งทุกอย่างสะท้อนกลับมาผลประกอบการบริษัทดีขึ้นสิ่งหนึ่งก็คือ สิ่งแรกเลยเราจะต้องคำนึงถึงในเรื่องของผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นนะคะ ดังนั้นเราเลยมีมติ จากประชุมกันบอร์ดที่ผ่านมาเราเลยมีมติในเรื่องของโครงการการซื้อหุ้นคืนนะคะ ซึ่งคาดว่าผลประโยชน์ที่ได้รับนะคะ เราแบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ ก็คือส่วนแรกก็คือจะเป็นในส่วนของบริษัท จะเป็นในเรื่องของการเพิ่มอุปสงค์ของหุ้นนะคะ ซึ่งตรงนี้เนี่ยพอมีการดีมานด์เพิ่มขึ้นมีการซื้อหุ้นกลับ ราคาหุ้นก็จะสะท้อนปรับตัวสูงขึ้นนะคะ ประการที่ 2 ก็คือจะเป็นการลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดค่ะ ตรงนี้จะทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มสูงขึ้นด้วยนะคะ นอกจากนั้นจะใช้เป็นเครื่องมือในด้านของการบริหารทางการเงิน หากมีสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทเราก็สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพผลนะคะ นอกจากนั้นจะเป็นในเรื่องของการสร้างผลตอบแทนก็คือ พอเรามีการมาคำนวณแล้วเนี่ย ราคาในตลาดอะค่ะ มันตกอยู่ที่ ณ วันที่มีการอนุมัตินะคะ จะอยู่ที่ 0.91 บาทนะคะ หรือ 91 สตางค์ แต่ในมูลค่าบริษัทที่แท้จริงเนี่ยอยู่ที่ 1.51 สตางค์นะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ย กลไกการบริหารทางการเงินตรงเนี้ยจะทำให้หุ้นที่มูลค่าต่ำกว่าพื้นฐานของบริษัทเนี่ยอย่างมีนัยยะสำคัญนะคะ สามารถที่จะสะท้อนตรงนี้ให้เพิ่มสูงขึ้นได้นะคะ ในขณะเดียวกันทางด้านของผู้ถือหุ้นค่ะ เนื่อง จากในเรื่องของหุ้นที่เราซื้อคืนมาเนี่ยทำให้กำไรต่อหุ้นเนี่ยมีอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นนะคะ เนื่อง จากหุ้นที่ซื้อคืนเนี่ยจะไม่ถูกนำมาคำนวณในกำไรต่อหุ้นนะคะ ประการต่อมาก็คือโอกาสที่จะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นเนี่ยก็จะสูงขึ้นเช่นกันนะคะ อีกประการนึงก็คือเรื่องโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นเนี่ยในระดับ P/E เท่าเดิมนะคะ เพราะฉะนั้นก็จะสะท้อนข้อดีต่างๆ มากมายนะคะ

ต่อมาจะเป็นในเรื่องของผลประกอบการในช่วงของไตรมาสที่ผ่านมานะคะ ขออนุญาตเชิญคุณฟ้าค่ะ

อันนั้นเป็นภาพใหญ่นะครับ ที่เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ของบริษัทนะครับ ซึ่งเราได้ดำเนินการมาในทิศทางนี้นะครับ ใน session ถัดมานะครับ จะเป็นเรื่องของในส่วนของรายละเอียดที่เป็นการขยายความในส่วนที่คุณปิยาภรณ์ได้รายงานไปเมื่อสักครู่นะครับ ในพาร์ทแรกเนี่ยผมจะเริ่มต้นจากการอธิบายเรื่องตัวเลขนะครับ ในงบการเงินของไตรมาส 2 นะครับ จะเห็นว่าในไตรมาส 2 เนี่ยเรามีรายได้รวมนะครับ เพิ่มขึ้นจาก 295 มาเป็น 389 เพิ่มขึ้นไป 31% หรือ 93 ล้านนะครับ มีผลให้กำไรขั้นต้นนะครับ เพิ่มขึ้นจาก 57 ล้านมาเป็น 70 ล้านนะครับ หรือประมาณ 24% นะครับ รายการถัดมาในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการขายอันนี้ก็เพิ่มขึ้นนะครับ แต่ก็เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนกับรายได้นะครับ จากสัดส่วน 6.7% ในไตรมาส 2 ปี ก่อนหน้านะครับ มาเป็น 6.2% นะครับ ส่วนรายได้บริหารอันนี้ลดลงประมาณ 18% เนื่อง จากปี ก่อนหน้าเรามีรายจ่ายในการจ้างที่ปรึกษาเกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องการ spin off บริษัทลูกในการเข้าตลาดนะครับ ซึ่งปีนี้ไม่มีครับ ส่วนเรื่อง spin off นี่เราพักไว้ก่อนเนื่อง จากสภาพตลาดเนี่ยอาจจะไม่เอื้ออำนวยนะครับ รายการที่เป็นรายการใหญ่และมีนัยยะสำคัญก็คือ กำไรอื่นนะครับ มีจำนวน 67 ล้าน อันนี้เนี่ยก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ 4 ข้อที่ได้รายงานไปคือเรื่องการบริหารทรัพย์สินให้ให้เกิดประโยชน์กับบริษัทสูงสุดนะครับ เนื่อง จากทรัพย์สินเนี่ยมันจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมันถูกคนถูกที่ถูกเวลา ทรัพย์สินบางตัวที่อยู่ในมือเราในขณะนี้เนี่ยมันอาจจะไม่สามารถสะท้อนมูลค่าตลาด สะท้อนมูลค่าตลาดที่แท้จริงของมันได้นะครับ ฉะนั้นเราจึงหานักลงทุนที่จะสามารถใช้ประโยชน์ในในเวลาปัจจุบันได้ ได้ดีกว่าเรานะครับ เราก็มีการบริหารแล้วก็มีการจำหน่ายทรัพย์สินบางรายการออกไป ได้ทำให้เกิดการรับรู้ราคาตลาดที่แท้จริงนะครับ ทำให้เกิดผลกำไรประมาณ 67 ล้านนะครับ อันนี้ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดนะครับ เนื่อง จากมันมีเรื่องการสัญญารักษาความลับกับลูกค้านะครับ ถัดมาก็จะมีเรื่องของต้นทุนทางการเงินนะครับ อันนี้เปรียบเทียบแล้วสูงขึ้นประมาณ 6 ล้าน แต่ว่า ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นเนี่ยไม่ได้เป็นต้นทุนการเงินจาก อ่า จากเงินกู้ธนาคารครับแต่เป็นต้นทุนการเงินที่อยู่ใน อ่า หนี้สินสัญญาเช่านะครับ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับสิทธิ อ่า สินทรัพย์สิทธิการใช้นะครับ เป็นเรื่องของสัญญาเช่า Operating lease นะครับที่เราต้องรับรู้ทางบัญชี มีผลให้บทั สุดท้ายเรามีกำไรอยู่ 84 ล้านนะครับเทียบกับปี ก่อนหน้าที่มีกำไร 5.2 ล้าน ภาพนี้จะเป็นภาพ 6 เดือนนะครับก็เป็นยอดสะสมเรามีรายได้รวมสะสม 6 เดือนนะครับ 713 ล้าน มีกำไรขั้นต้น 136 ล้าน แล้วก็มีกำไรสุทธิที่ 93 ล้าน ถัดมาหน้านี้เราจะเทียบให้ดูนะครับเป็นค่าเฉลี่ยเป็นภาพรวมค่าเฉลี่ยรายไตรมาสนะครับ ของ 18 ไตรมาสย้อนหลังนะครับ จะเห็นว่ารายได้เฉลี่ยใน 18 ไตรมาสย้อนหลังเนี่ยจะอยู่ที่ไตรมาสละ 315 ล้านนะครับ จะเห็นว่าไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ปีนี้เราก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยนะครับ ไตรมาส 1 มีรายได้รวมอยู่ที่ 325 ไตรมาส 2 อยู่ที่ 389 นะครับ กำไรขั้นต้นก็มีลักษณะเดียวกัน ค่าเฉลี่ย 18 ไตรมาสย้อนหลังเนี่ยเรามีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 50 ล้าน ซึ่งไตรมาส 1 ปี นี้เราทำได้ 66 ล้านนะครับ ไตรมาส 2 ทำได้ 71 ล้าน ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้ง 2 รายการ ในส่วนของงบแสดงฐานะการเงินนะครับ เรามีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 98 ล้าน หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 5 ล้าน ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 93 ล้านนะครับ โดยรายการหลักๆ ของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเนี่ยก็เป็นเรื่องของเงินฝาก เรื่องของสินทรัพย์ทางการเงิน สินค้าคงเหลือ ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ สิทธิการใช้นะครับ ซึ่งเห็นว่าสิทธิการใช้เพิ่มขึ้น 11 ล้านคู่กับหนี้สินสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น 12 ล้านอันนี้ เนื่อง จากมันมีการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อวางโครงข่ายนะครับ หรือมีการเช่าโครงข่ายของพันธมิตรเพิ่มขึ้น สัญญาเหล่านั้นต้องถูกนำมาบันทึกในงบ ฐานะการเงินนะครับ จะเห็นว่าสินทรัพย์หลักของเราที่เป็นสินทรัพย์ที่ในงานสร้างรายได้เนี่ยคือตัวโครงข่ายของเราเนี่ยไม่ได้ลดลงนะครับ เพราะนั้นท่านผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวลว่าเรามีการจำหน่ายทรัพย์สินออกไปแล้วทำให้ทรัพย์สินของบริษัทเนี่ยลดลง ไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะครับ ทรัพย์สินเรายังคงเพิ่มขึ้นอยู่นะครับ โครงข่ายเคเบิลก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ 60 ล้าน ส่วนรายการสินทรัพย์ที่ลดลงก็เป็นรายการปกติครับเรื่องของลูกหนี้การค้าลูกหนี้ตามสัญญาทุกหนี้อันวิวอะครับ 67 ล้านเนื่อง จากเรามีการเก็บเงินมานะครับ แล้วก็เงินฝาก หลักประกันลดลง 25 ล้าน เงินฝากประกันก็คือเรามีวงเงินสินเชื่อบางตัวซึ่งต้องใช้เงินฝากเป็นหลักประกันบางส่วน และเมื่อเรามีการใช้หนี้จนครบวงเงินแล้วเนี่ยเราก็สามารถไถ่ถอนเงินฝากประกันนั้นกลับเข้าสู่บัญชีงบดุลตามค่าปกติ อันนี้ก็เป็นรายการปกติเพียงแต่ว่าเรามีการชำระผิดหนี้บาง บางวงเงินไปนะครับ ส่วนหนี้สินที่เพิ่มขึ้นก็มีเรื่องของเจ้าหนี้การค้านะครับ แล้วก็หนี้สินสัญญาเช่าที่คู่กับสินทรัพย์สิทธิการใช้เบื้องต้นนะครับ รายการหนี้สินที่ลดลงก็มีเงินกู้ยืมจากธนาคาร เรามีการย่อ สุทธิลดลงไป 12 ล้าน และมีรายการที่ลดลงรายการคือเงินรับล่วงหน้าจากลูกค้าเนื่อง จากเรามีการรับเงินล่วงหน้าจากลูกค้านะในแต่ละเดือนเราก็ค่อยๆ ทยอยโอนสถานะจากหนี้สิน รับล่วงหน้าจากลูกค้ามาเป็นรายได้ครับ ซึ่งก็จะเกิดขึ้นเป็นปกติ ยอดนี้จะเพิ่มขึ้นต่อเมื่อเรามีการรับเงินล่วงหน้ารายการใหม่เข้ามาก็เลยว่าเนี่ยเป็นยอดที่รับเข้ามาใหม่มันน้อยกว่ายอดที่รับรู้เป็นรายได้นะครับ เมื่อดูสัดส่วนทางการเงินนะครับ หนี้สินต่อทุน หนี้สินต่อทุนจะลดลงจาก 1.6 มาเป็น 1.5 นะครับ ส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนนะครับอันนี้ก็เอาหนี้แล้วก็หักด้วยเงินสดไปก่อน แล้วค่อยมาเทียบกับคุณ จะอยู่ที่ 0.05 ซึ่งลดลงกว่า 0.07 ว่าอัตราส่วนที่บานมากนะครับ สำหรับอัตราส่วนถัดมา คือ หนี้ อัตราส่วนทุนหมุนเวียนซึ่งเราก็ยังคงมากกว่า 1 อยู่นะครับ อยู่ที่ 1.24 อ่า อันนี้จะเป็นการฉายภาพผลประกอบการรวมๆ หน่อยนะครับ เป็นการฉายภาพขยายความเรื่องของการโอนทุนสำรองมาชดเชยขาดทุนสะสมนะครับ ตารางบนจะเป็นเป็นส่วนของงบการเงินรวมนะครับ ส่วนตารางล่างจะเป็นงบเฉพาะกิจการ ถ้าถ้าท่านผู้ลงทุนดูบรรทัดกำไรขาดทุนของงบ ทะเลาะขาดทุนสะสมนะครับ ของงบเฉพาะกิจการเนี่ยตอนสิ้นเดือน 6 เนี่ยเรามียอด 22.5 ตอนที่เราปิดงบมาเนี่ยเราก็คิดว่าเอ๊ะเราจะทำ ทำยังไงให้ผู้ได้ประโยชน์จากยอดกำไรสะสมในส่วนนี้ ก็มีทางเลือก 2 ทางคือ จ่ายเป็นเงินปันผลออกไป หรือมีทางอื่นที่ดีกว่า ไอเดียเริ่มแรกก็จะจ่ายเงินปันผลออกไปแล้วพอเฉลี่ยมาต่อหุ้นจะได้ประมาณหุ้นละ 1 สตางค์ ซึ่งมันน้อยมากครับ มันไม่ มีความหมายอะไร ไม่น่าจะไม่ต้องช่วยประโยชน์อะไรครับก็เลยว่าถ้าอย่างนั้นเนี่ยเราใช้ประโยชน์อย่างอื่นดี ไว้ อย่างเช่น มาใช้ในการ ออก ซึ่ง จะอยู่ในหัวข้อถัดไปนะครับ จากรายการนี้นะครับ อธิบายขยายความต่อว่าเรามีการ ในงบ ในงบที่ มี ไอ้ตัว ขาดทุนสะสมตอนต้นงวดนะครับ ในงบเดี่ยวเนี่ยเรามียอดยกมา เอ่อ 287.57 ล้านนะครับ เมื่อเราโอน ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 225 ล้าน โอน ต่ำ ตาม กฎ หมาย 62.5 ล้าน มา กลบ ยอด รวมกันคือ 287.5 ครับมากลบ ขาดทุนสะสมทำให้ ขาดทุนสะสมเนี่ยมันก็ มี ขาดทุนสะสมเหลืออยู่ 70,000 เมื่อรวมกับ กำไร ที่ เกิด ขึ้น ใน รอบ 6 เดือน 22 ล้าน มี กำไร สะสม สิ้น เดือน 6 อยู่ ที่ 22.5 ซึ่ง ไม่ ได้ ทํา ให้ ส่วน ของ ยอด รวม ของ ส่วน ของ ผู้ ถือ หุ้น เปลี่ยน แปลง นะ ครับ ต้อง รวม เท่า เดิม เพียง แต่ มี การ สลับ บรรทัด ไส้ ใน ของ ของ ราย การ น เท่า นั้น นะ ครับ ยอด รวม เท่า เดิม ส่วน ส่วน ใน งบ การ เงิน รวม ยอด โอน ลักษณะ เดียว กัน นะ ครับ เพียง แต่ ว่า ยอด ตั้ง ต้น ของ สถานะ ขาด ทุน สะสม ใน งบ งบ รวม เนี่ย มัน สูง กว่า มัน มี ยอด ตั้ง ต้น ที่ 3 8 383 นะ ครับ เมื่อ 6 287 บวก กับ กําไร 9.3 ล้าน ใน เหลือ ขาด ทุน บาง ๆ อยู่ ที่ 1.93 ล้าน ถัด มา เป็น เรื่อง ของ ตัว งบ กระแส เงิน สด นะ ครับ เรา มี กําไร เรา มี เงิน สด สุทธิ จาก การ ดําเนิน งาน เป็น บวก อยู่ ที่ 201 ล้าน แล้ว ก็ ได้ ใช้ ไป ใน กิจกรรม ลง ทุน 102 ล้าน นะ ใช้ ไป ใน กิจกรรม ท่าน จะ ถาน เงิน 68 ล้าน เหลือ เงิน สด สุทธิ สํารับ ข้อ 6 เดือน อยู่ ที่ 30.5 ล้าน มี เงิน สด ต้น งวด ยก มา 246.31 ล้าน นะ ครับ แล้ว ก็ เรา มี เงิน ฝาก ที่ เป็น อยู่ ใน รูป สกุล เงิน ต่าง ประเทศ ทํา ให้ มี ขาด ทุน จาก อัตรา แลก เปลี่ยน อยู่ ส่วน นั้น ประมาณ 3 ล้าน รวม แล้ว เรา มี เงิน สด คง เหลือ ณ สิ้น เดือน 6 ที่ 273 ล้าน ใน ส่วน ของ งาน ใน มือ นะ ครับ Blacklog เนี่ย นะ สิ้น เดือน 6 เรา มี งาน ใน มือ อยู่ ที่ 4,362 ล้าน เทียบ กับ ณ สิ้น เดือน 3 เนี่ย มี 4,107 ล้าน ก็ เพิ่ม ขึ้น ประมาณ 260 ล้าน ถ้า ดู ราย บริษัท จะ เห็น ว่า ยอด หลัก ๆ อยู่ ที่ บริษัท แม่ ก็ คือ ALT เนี่ย 1,926 ล้าน นะ ครับ แล้ว ก็ อยู่ ที่ ITC 2,40 ล้าน เนื่อง จาก ทั้ง 2 บริษัท เนี่ย เรา มี สัญญา ให้ บริการ ระยะ ยาว ที่ มี การ รับ เงิน ล่วง หน้า จาก ลูก ค้า มา แล้ว นะ ครับ ซึ่ง ราย การ เนี้ย ถือ ว่า ใน อนาคต ก็ จะ ถูก ทยอย รับ รู้ ว่า เป็น ราย ได้ ก็ เลย มี ตัว เลข สูง นะ ครับ อยู่ ที่ 3,600 หัวข้อ สุด ท้าย นะ ครับ จุด เรื่อง ของ รี นะ ครับ โดย ผล ที่ ผล เสีย ผล ดี ที่ จะ เกิด ขึ้น กับ ทั้ง ตัว บริษัท และ ทั้ง กับ ผู้ ถือ หุ้น นะ ครับ ได้ ปิยาพร ได้ อธิบาย ไป เมื่อ สัก ครู่ นะ ครับ ต่อ ไป จะ เป็น การ อธิบาย ใน เชิง ของ ราย ละเอียด นะ ครับ ก็ กลับ มา ท้าว ความ ว่า โครง การ ซื้อ หุ้น คืน เนี่ย หรือ เนี่ย มัน มี อยู่ 2 ลักษณะ ลักษณะ แรก เนี่ย จะ เกิด ขึ้น ใน กรณี ที่ มี การ ประชุม ผู้ ถูก พูด นะ ครับ แล้ว ก็ มี มี ผู้ ถูก พูด บาง ส่วน โหวต ไม่ เห็น ด้วย อัน เนี้ย สิทธิ์ สามารถ ใช้ เข้า สู่ โครง การ ซื้อ หุ้น คืน จาก ผู้ จะ ไม่ เห็น ด้วย ได้ นะ ครับ แต่ ของ เรา ไม่ ได้ เป็น กรณี นั้น น่ะ ของ เรา เป็น กรณี ที่ เรา มี เงิน สด เพียง พอ และ น่า จะ สามารถ ทํา โครง การ นี้ เพื่อ บริหาร สภาพ คล่อง และ เพื่อ ประโยชน์ ของ พฤติ ใน การ ดู แล รักษา ราคา คุ้ม ด้วย ใน เรื่อง ของ การ ทาง เลือก ที่ เรา ที่ เรา เลือก เนี่ย มัน ก็ จะ มี เกณฑ์ ของ ตลาด ทรัพย์ บอก ว่า เรา จะ ต้อง ผ่าน เกณฑ์ ทั้ง 4 ข้อ นะ ครับ ข้อ แรก เนี่ย ก็ คือ ใน ข้อ บังคับ ของ บริษัท ต้อง มี กําหนด ไว้ ว่า ถ้า เกิด มี การ ซื้อ ซื้อ หุ้น คืน น้อย กว่า 10 น้อย กว่า หรือ เท่า กับ 10% เนี่ย กรรมการ มี อํานาจ มัด ตัด สิน ใจ แทน ได้ ซึ่ง อัน นี้ เรา มี เขียน ไว้ ใน ข้อ บังคับ อยู่ แล้ว ข้อ นี้ เรา ผ่าน นะ ครับ ข้อ ที่ 2 วง เงิน ที่ จะ ใช้ ใน การ ทํา รี เนี่ย ต้อง ไม่ เกิน กําไร สะสม ซึ่ง อัน นี้ เรา มี กําไร สะสม อยู่ 22 ล้าน เรา ตั้ง โครง การ สําหรับ การ ซื้อ ขึ้น คือ อยู่ ที่ 20 ล้าน นี้ เรา ก็ ไม่ เกิน เรา ก็ ผ่าน ครับ ข้อ ถัด มา เรื่อง สภาพ คล่อง ว่า บริษัท ต้อง มี เงิน สด เพียง พอ ใน การ ขึ้น ซึ่ง อัน นี้ เรา ก็ ดู แล้ว ใน อยู่ ใน เกณฑ์ ที่ น่า จะ บริหาร บริหาร จัด การ ได้ นะ ครับ ข้อ สุด ท้าย เรื่อง ของ นะ ครับ ก็ คือ ผู้ รู้ ราย ย่อย ที่ ถือ อยู่ เนี่ย จะ ต้อง มี สัด ส่วน ไม่ ต่ํา กว่า 15% และ มี จํานวน ลาย ไม่ น้อย กว่า 150 ราย อัน นี้ เรา ก็ ผ่าน เช่น กัน นะ ครับ ซึ่ง เรา มี ฟรี ปัจจุบัน อยู่ ที่ 35% และ จํานวน พูด พูด ราย ย่อย เรา มี มาก กว่า 4,000 ราย ถัด มา เนื่อง จาก ใน เรื่อง ของ กฎ เกณฑ์ นะ ครับ ใน เรื่อง ของ ความ เหมาะ สม ใน เย ของ ราคา หุ้น นะ ครับ จะ เห็น ว่า อัตรา ส่วน ของ เรา เนี่ย อยู่ ที่ 0.6 เท่า นั้น เอง ซึ่ง ค่อน ข้าง จะ ต่ํา ฉะนั้น ถ้า เรา มี โอกาส หรือ มี ทาง เลือก ที่ จะ ทํา ให้ ราคา หุ้น เรา ดี ดี ขึ้น เนี่ย ก็ คิด ว่า น่า น่า จะ ต้อง ทํา อย่าง ยิ่ง นะ ครับ อัน นี้ เรา ก็ พิจารณา แล้ว เห็น ว่า สม ควร ที่ จะ ดําเนิน การ โครง การ นี้ ถัด มา เป็น เรื่อง ของ วิธี การ นะ ครับ อัน นี้ ก็ เป็น ไป ตาม กฎ เกณฑ์ ที่ ตลาด กําหนด นะ ครับ ว่า วิธี การ ที่ เรา จะ เข้า ไป ซื้อ หุ้น ใน เกณฑ์ ที่ ไม่ เกิน 10% เนี่ย เรา ก็ ใช้ วิธี จะ พูด อัตโนมัติ ครับ คือ เข้า ไป เคาะ ซื้อ ใน ตลาด นะ ครับ ใน ส่วน ของ การ จําหน่าย เนี่ย คือ เมื่อ เมื่อ ครบ หนวด โครง การ ใน อายุ เวลา 6 เดือน นะ ครับ หลังจาก นั้น เนี่ย เรา สามารถ ที่ จะ ขาย คืน เข้า ไป ใน ตลาด ใน ระยะ เวลา 3 ปี วิธี การ ขาย ก็ เช่น กัน ครับ ก็ ใช้ วิธี เคาะ เข้า ไป ใน กระดาน นะ ครับ โดย ทาง เลือก จริง ๆ ใน การ ขาย มี อยู่ 4 ทาง นะ ครับ คือ จะ เป็น การ เคาะ ขาย ใน กระดาน ก็ ได้ หรือ ว่า เสนอ ขาย ให้ กับ ผู้ ถือ หุ้น แบบ 30 ก็ ได้ หรือ จัด สรร ให้ กับ พนักงาน ตาม โครง การ ก็ ได้ หรือ เสนอ ขาย กับ ประชา ชน ทั่ว ไป ก็ ได้ เนื่อง จาก น้อย มาก นะ ครับ ประมาณ 20 ล้าน ก็ คง จะ เคาะ ขาย หุ้น ตลาด มาก กว่า เงื่อน ไข เวลา ใน การ ขาย หุ้น คืน นะ ครับ ก็ คือ เมื่อ พ้น กําหนด สิ้น สุด โครง การ ใน 3 เดือน ถัด มาเนี่ยต้อง ไว้ ก่อนนะครับหลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงเวลาในการขายหุ้นออกไปครับในเวลา3ปีและถ้าหากว่าพ้นกำหนด3ปีแล้วขายหุ้นไม่หมดเนี่ยหุ้นจำนวนที่เหลือนั้นต้องลดทุนนะครับ เป็นกฎเกณฑ์ทั่วไป โดยสรุปนะครับ โครงการรทรีทของเราเนี่ยวงเงินเราก็คือไม่เกิน20ล้านบาทนะครับภายใต้กฎเกณฑ์ว่าเราจะไม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่องกับการดำเนินธุรกิจปกตินะครับจำนวนหุ้นที่ซื้อคืน อันนี้คำนวณจากราคาหุ้น ณ วันนั้นนะครับก็คือไม่เกิน22ล้านหุ้นหรือรเกิน2%ของหุ้นที่ได้ชำระแล้วกำหนดระยะเวลา6เดือนนะครับเริ่มตั้งแต่วันที่1กันยายนไปสิ้นสุดสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีปีหน้าครับ

ก็อันนี้เป็นในรายละเอียดนะคะ ระหว่างนี้ท่านนักลงทุนใครมีคำถามใดๆ ก็สามารถที่จะส่งเข้ามาในช่องทางของตลาดหลักทรัพย์หรือจะเป็นช่องทางของ LINE IR ของบริษัทก็ได้นะคะ ค่ะ ดังนั้นเดี๋ยวเรามาตอบคำถามกันนะคะ ก็คือในเรื่องของ บางอันอาจจะมี การชี้แจงไปแล้วตอบไปแล้วนะคะ แต่ว่าถ้าเกิดอันไหนไม่เคลียร์เนี่ยอาจจะมีการชี้แจงเพิ่มเติมนะคะ อย่างเช่นในเรื่องของ ปกติรายได้และกำไรขั้นต้นของบริการโครงข่ายจะเติบโตทุกไตรมาสนะคะ แต่ไตรมาสนี้ดูเสมือนกำไรขั้นต้นจะลดลง สาเหตุเป็นเพราะอะไร ก็ขออนุญาตคุณพิชิตช่วยตอบคำถามตรงนี้ให้กับนักลงทุนนะคะ

ถ้าถ้าสังเกตดูจริงๆเนี่ยรายได้มันไอ้ตัวกำไรลดลงนิดหน่อยเพราะว่ามันจะมีเทรดเวลาระหว่างชายแดนซึ่งเราไปเกิดขึ้นนะครับเรามีการขยายทรัพย์สินบางส่วนมีการโอนไปเตรียมลักษณะการทำงานของฝั่งชายแดนที่รัฐเราไปก่อนนะครับปัจจุบันนี้ถ้าเกิดสถานการณ์เศรษฐกิจขึ้นมาเนี่ยเรามีดินไหวในการจัดลูกค้าซึ่งเป็นเวียดนามเตรียมย้ายสิทธิ์ทั้งหมดซึ่งที่เกิดที่นาเมกไปสิงคโปร์เนี่ยไปที่ลาวนะครับ ซึ่งปกติงานที่เราทำเนี่ยจะใช้เวลาประมาณเป็นเดือนแต่กรณีนี้เนี่ยต้องเจ็ดวันนั้นคอสทุกอย่างต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าทั้งหมดทุกคนคิดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นนะครับเตรียมพร้อมทั้งหมดใน Q2แต่อะรายได้ยังไม่ได้เข้ามาซึ่งเป็นที่เกิดขึ้นก็คงผลตอบแทนมากว่ารายได้ที่หายไปก็จะกลับมา+เลยด้วยครับโอเคเป็นการรีดจากทางด้านของชายแดนกัมพูชาไปที่ชายแดนลาวนะคะโอเคตอนนี้ก็จัดในเรื่องของตัวตั้งแต่แรกจะเป็นเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยเราให้ความร่วมมือกับกับอันที่สองก็คือปัญหาชายแดนก็เลยแก้ปัญหาไป นะคะ ทีนี้จะเป็นในเรื่องของการกลับรายการคำถามต่อไปนะคะการกลับรายการจากผลขาดทุน12,600,000 บาทอันนั้นคือรายการอะไรคะในงบ6เดือนครับ เวลาปัจจุบันนี้ ณ ทุกสิ้นไตรมาสจะต้องมีการประเมินตัวเครดิตของลูกค้าก็คือไอ้ภาษาก่อนเราจะเรียกว่ายอดสำรองหนี้สงสัยจะสูงอ่ะครับแต่สมัยนี้เราเรียกว่า การตั้งสำรองจากเครดิต ในงานเก็บเงินลูกค้าซึ่งอันนี้เป็นรายการปกติครับถ้าเกิดในไตรมาสไหนเราเก็บเงินมาได้หนี้เก่าๆถูกเคลียร์ออกนะตรงนี้ก็จะถูกกลับรายการมาให้แบบ เป็นเป็นภาษาติดลบกลับเป็นรายได้อยู่ที่ในการเก็บเงินของลูกค้าโอเคค่ะขอบคุณค่ะก็ดีนะค่ะเก็บเงินได้เพิ่มเกือบ13ล้านบาทครับโอเคครับ ข้อต่อมานะคะการโอนส่วนเกินมูลค่าหุ้น จะมีผลกระทบใดกับงบการเงินหรือไม่ เท่าที่ฟังจะมีข้อดีมากเลยครับแต่อยากจะรู้ว่ามีผลกระทบใดบ้างหรือไม่มี อันนี้ยืนยันอีกทีครับว่าไม่มีผลกระทบใดๆในเชิงลบนะครับเพราะว่าการโอนเนี่ยมันเป็นการสลับบรรทัดเท่านั้นเองนะครับจัดสวนจากบรรทัดส่วนเกินมูลค่าหุ้นกับตัวสำรองตามกฎหมายมากลบที่บรรทัดขาดทุนสะสมแต่ยอดยรวมของมันน่ะเท่าเดิมเป็นการนะครับสำครับสลับบรรทัดเฉยๆเราเท่าเดิมซึ่งสลับบรรทัดเพื่อทำให้ขจัดอุปสรรคของสะสมเนี่ยครับซึ่งจะเป็นตัวอุปสรรคในการที่จะจ่ายเงินก้ได้ครับ อันนี้ก็คือเป็นผลดีล้วนๆครับไม่มีข้อเสียเลยในการโอค่ะขอบคุณค่ะคุณฟ้าคำถามต่อไปนะคะเงินลงทุน1,600ล้านบาทลูกค้าช่วยลงทุนเท่าไหร่ครับและที่จ่ายล่วงหน้ารวมไปถึงโครงการเริ่มเมื่อไหร่ครับ คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการรวมถึงก่อสร้างเป็นการก่อสร้างเองหรือไม่หรือจ้างคนอื่นทำด้วยนะคะงั้นอันนี้ขออนุญาตให้พี่ๆช่วยตอบคำถามนี้ด้วยนะครับค่ะ ครับปกติการลงทุนก่อสร้างพวกนี้ซึ่งยาวประมาณ16เดือนถึง20เดือนลูกค้าจะเข้ามาไฟแนทเบื้องต้นว่าเป น Initial project initial project ให้อย่างนี้ก็คือ30%แต่ที่ผ่านมาลูกค้าเราเองค่อนข้างจะจ่ายได้สูงกว่านั้นนะครับ คือไม่เคยต่ำกว่า50%ของเงินลงทุนที่ผ่านมา เป็นการ invest upfront มาจากลูกค้าทั้งหมดนะครับแล้วโครงการพวกเนี้ยมันจะมี project managerให้ลูกค้ามาประกบด้วยการก่อสร้างควบคุคุณภาพแล้วก็ต่างๆ ครับแล้วก็ผ่านpointแต่ละจุดก็จะมีการจ่ายเพิ่มมาตามส่วนที่กำหนดไว้ เราคงเริ่มโครงการก่อสร้างจากภาค เอ่อ ภาค ใต้ ก่อน เนี่ย วัน นี้ เอง ก็ จะ มี การ ประชุม กัน อยู่ ใน ศาล แล้ว เข้า ใจ ว่า เริ่ม ก่อ สร้าง จริง ๆ น่า จะ อยู่ ใน ต้น คิว 4 ตอน เนี้ย ครับ เริ่ม แล้ว ครับ ที่ จะ เข้า มา เริ่ม มี การ สํารวจ ต่อ แบ จาก ด้าน ของ ภาคพื้น น้ํา และ นะ ครับ ซึ่ง ซึ่ง ใน ทาง ฝั่ง ของ อี เอง วัน นี้ เอง ก็ เริ่ม มี การ เซอร์เวย์ แนว รู้ ที่ จะ ทํา เอ่อ องค์ ข่าย ให้ ความ ปลอด ภัย สูง นี้ ด้วย นะ ครับ ผ่าน แล้ว พร้อม กัน เรา สร้าง เอง ทั้ง หมด หรือ ไม่ อื อัน นี้ ก็ มี กระบวน การ จัด ซื้อ จัด จ้าง นะ ครับ ต้อง ว่า ต้อง ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา ปรึกษา กับ ลูก ค้า ด้วย นะ ครับ อัน นี้ เป็น เรื่อง ของ ตัว ตัว Transparency ของ บริษัท ว่า มี การ เรียก ประมูล ครับ อัน นี้ นะ ครับ ครับ ผม งั้นขออนุญาตพี่ขยายความนิดนึงนะคะในเรื่องของตัวโครงการ ตรงส่วนเนี้ยในแง่ของสถานีเคเบิลใต้น้ำปัจจุบันเรามีอยู่กี่ที่บ้างคะ ต้องบอกว่าที่สร้างแล้วจริงๆนะครับเรามี1ที่ที่เปิดบริการนั้นแล้วนะครับแต่เรามีที่ดินที่พร้อมให้บริการแล้วอีกทางฝั่งตะวันตกมีอีก2ที่ และเส้นเหนือตกของประเทศไทยในการพัตนาช่วงของเบเวสโพกอีกแล้วครับรวม3ที่เป็นที่ดินของเราอยู่แล้วฝั่งตะวันออกทางฝั่งของสงขลามีอีก1ที่นะครับซึ่งพร้อมให้บริการ ถ้าลูกค้าต้องการจะขึ้นเคเบิลขึ้นฝั่งตะวันออกเราพร้อมไปซื้อที่ดินนะครับก็จะมาเลือแพ็กตอนก็12เมตรถ้ามีหลายเส้นก็จะมีอีก1ที่ระยองซึ่งกำลังดูอยู่ว่าจะหลบเส้นทางการติดต่อทางเรือได้ดีสุดตรงไหนบ้างครับ ขอบคุณค่ะขอบคุณมากค่ะ

โพสต์ล่าสุด