HENG Leasing and Capital: สรุป Oppday ไตรมาส 2/2568 - กลยุทธ์เน้นสินเชื่อเกษตร, ลดต้นทุน, เพิ่มประสิทธิภาพ

P/E 28.59 YIELD 5.36 ราคา 0.98 (0.00%)

HENG Leasing and Capital: สรุป Oppday ไตรมาส 2/2568 - กลยุทธ์เน้นสินเชื่อเกษตร, ลดต้นทุน, เพิ่มประสิทธิภาพ

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทุกท่านสู่งาน Opportunity Day ของบริษัท HENG Leasing and Capital ประจำไตรมาสที่ 2

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ภาพรวมธุรกิจของ HENG ยังคงเน้นการให้บริการสินเชื่อ โดยมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของสินเชื่อที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน

  1. สินเชื่อที่มีหลักประกันลดลงจาก 97% ในไตรมาส 1 เหลือ 96% ในไตรมาส 2
  2. สินเชื่อไม่มีหลักประกัน (นาโนไฟแนนซ์) เพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 4%

บริษัทมีเป้าหมายปรับสัดส่วนสินเชื่อที่มีหลักประกันให้เหลือ 95% และไม่มีหลักประกันเป็น 5% ภายในสิ้นปี 2568

ธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยมีตัวเลขลดลงตามสัดส่วนของสินเชื่อที่ปล่อยลดลง โดยมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น

จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นจาก 928 สาขาในไตรมาส 1 เป็น 960 สาขาในไตรมาส 2 โดยมีเป้าหมายย้ายที่ตั้งสาขาให้ใกล้ชิดกับกลุ่มเกษตรกรมากขึ้น

บริษัทได้รับการประเมินด้าน ESG ในระดับ 2A และ CG ในระดับ 5 ดาว (ดีเลิศ) รวมถึงรางวัล Green Office ในระดับดีมาก

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

HENG มองเห็นโอกาสในการขยายสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการที่ต้องการเงินกู้ในรูปของนาโนเพื่อซื้อเครื่องปรับอากาศ

บริษัทมีพันธมิตรเป็นร้านค้าเกษตรที่สามารถรองรับสินเชื่อได้ประมาณ 2,000 ล้านร้านค้า และร้านค้าเครื่องปรับอากาศประมาณ 1,000 ล้านร้านค้า

บริษัทผลักดันเรื่อง ESG สู่ผลิตภัณฑ์ โดยเน้นสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

บริษัทเผชิญความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่มีหนี้เสียในระบบค่อนข้างเยอะ

NPL และ SM มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เนื่องจากลูกหนี้ที่ปล่อยในปี 2565-2566 ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นตัว

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทใช้กลยุทธ์ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยการจัดกลุ่มสาขา มอบหมายงานให้บุคลากรที่มีความถนัดเฉพาะด้าน และลดจำนวนบุคลากร

มีการปรับปรุงราคาประเมินรถยนต์ (pricelist) ทุกเดือน เพื่อให้ตอบสนองต่อราคาที่อาจเปลี่ยนแปลงไป

มีการคัดกรองลูกค้าที่จะขอสินเชื่ออย่างเข้มงวด และให้ LTV ที่ต่ำลง

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

HENG คาดการณ์ว่าสินเชื่อรวมปี 2568 จะอยู่ที่ 1,030 ล้านบาท โดยเน้นสินเชื่อเกษตรและสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับ ESG

บริษัทเตรียมกระแสเงินสดเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤศจิกายนนี้ (614 ล้านบาท)

บริษัทคาดการณ์ว่า DE Ratio จะลดลงเหลือ 0.8 เท่าภายในสิ้นปีนี้

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 32:42

  1. **แผนการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง**
    • HENG ยังคงยึดนโยบายปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังสูง
    • ปรับเป้าหมายสินเชื่อรวมปี 2568 เป็น 1,030 ล้านบาท (เดิม 2,700 ล้านบาท)
    • เตรียมกระแสเงินสดเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ในเดือนพฤศจิกายน (614 ล้านบาท)
  2. **เป้าหมายสินเชื่อรวมปี 2568 ยังคงเดิมหรือไม่**
    • เป้าหมายใหม่คือ 1,030 ล้านบาท (ตอบซ้ำจากข้อ 1)
  3. **ผลกระทบจากการปิดสาขาช่วงต้นปีต่อการขยายสาขาใน Quarter 3-4**
    • การปิดสาขาเป็นการปิดเพื่อย้ายทำเลไปเปิดใหม่
    • ปิด 140 สาขา เปิดใหม่ 80 สาขา
    • Quarter 2 เพิ่มขึ้น 32 สาขา รวมเป็น 960 สาขา
    • ครึ่งปีหลัง: ปิดสาขาที่ไม่ให้ผลตอบแทนตามคาดหวัง (คาดว่าจะปิดอีก 60 สาขา)
    • สิ้นปีคาดว่าจะมี 930 สาขา
  4. **กลยุทธ์การขยายพอร์ตนาโนไฟแนนซ์ในช่วงครึ่งปีหลัง**
    • เน้นสินเชื่อเกษตรเป็นหลัก
    • ใช้เครือข่ายเดิมที่เคยสำเร็จในสินเชื่อรถยนต์มือสอง (Partner เป็นเต็นท์รถ)
    • Deal กับร้านค้าปุ๋ย ร้านเคมีภัณฑ์ ร้านค้าที่ใกล้ชิดเกษตรกร
    • ขยายพันธมิตรได้ถึง 2,000 ล้านร้านค้า
  5. **ภาพรวมราคารถยนต์มือสอง (โดยเฉพาะรถกระบะ) ใน Quarter 2 มีผลต่อมูลค่าหลักประกันหรือไม่**
    • ราคาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก
    • บริษัทปรับปรุง pricelist ทุกเดือน
    • คัดกรองลูกค้าเข้มงวด
    • ให้ LTV ต่ำลง
  6. **การแข่งขันจากผู้ให้บริการสินเชื่อ Non-Bank รายอื่นมีผลต่อ Yield และการรักษาฐานลูกค้าอย่างไร**
    • Yield ไม่มีการแข่งขันที่เข้มข้น
    • HENG รัดกุมตัวเอ
    • อาจทำให้พอร์ตเล็กลงในครึ่งปีหลัง
    • NPL อาจยังต้องเดินหน้าต่อ
    • HENG เน้นเก็บกระแสเงินสดเพื่อชำระหนี้
    • DE Ratio ลดลงเหลือ 1.2 (สิ้นปีคาดว่าจะเหลือ 0.8)
    • พอร์ตเล็กลงเหลือ 10,000 ล้านบาทเศษ (อาจเหลือ 9,600 ล้านบาท)
    • NPL จะสูงขึ้น
    • ปลายปี: ตัดหนี้สูญออกไปเพื่อลด NPL
  7. **นโยบายภาครัฐ (คุณสู้เราช่วย) มีผลต่อคุณภาพพอร์ตหรือไม่**
    • HENG ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วย
    • HENG มีโครงการช่วยเหลือลูกค้าเอง (ไม่เข้าโครงการรัฐ)
    • ลูกค้าตกชั้นเป็น SM: มีมาตรการช่วยเหลือ (TDR/DR)
  8. **แนวโน้ม NPL Ratio ใน Quarter 3 (เทียบกับปี 2567)**
    • NPL อาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากลูกหนี้สินเชื่อที่ปล่อยในปี 2565-2566
    • ประเมินการจัดการลูกหนี้เพื่อลด NPL
    • อาจมีการ Write-off ในช่วงปลายปี
    • ตัดจำหน่าย/ขายหนี้
  9. **อัตราการไหลจาก Stage 2 ไป Stage 3 ลดลงหรือไม่หลังใช้มาตรการควบคุมความเสี่ยงใหม่**
    • สินเชื่อเดิม (ปี 2565) ยังเป็นสัดส่วนที่ใหญ่
    • สินเชื่อใหม่: แนวโน้มลดลง ค่อนข้างดี
    • การไหลอาจยังเยอะ
    • เทียบกับปีที่แล้ว: ลดลง (ทํางการติดตามและดูแลลูกค้า
  10. **สัดส่วน Write-off ต่อ NPL ใน Quarter 2 เป็นเท่าไร และมีนโยบายจัดการหนี้เสียอย่างไร**
    • Write-off ในไตรมาส 2: ประมาณ 200-300 ล้านบาท
    • น้อยกว่าปีที่แล้ว
    • ต้องจัดการหนี้เสียโดยตัดจำหน่าย/ขายหนี้
    • พิจารณา Write-off มากขึ้น
    • ขายหนี้ให้ผู้รับซื้อ/นักลงทุน
  11. **เปอร์เซ็นต์ ECL Stage 1-3 มีการปรับลด/เพิ่มขึ้นอย่างไร เพราะอะไร**
    • Stage 1 และ 2: ค่อนข้างใกล้เคียงเดิม
    • Stage 1: ประมาณไม่ถึง 1%
    • Stage 2: ประมาณ 15%
    • Stage 3: แบ่งเป็น 2 ส่วน (ตั้งสำรองเต็ม 100% และยังตั้งไม่เต็ม)
    • ต่างที่ Stage 3: อาจเพิ่มขึ้น (จำเป็นต้องตั้งสำรอง 100% มากขึ้น)
    • ประเมินกลุ่มหนี้เสียเพื่อตัดจำหน่าย/ขายหนี้

โดยสรุป HENG Leasing and Capital กำลังเผชิญกับความท้าทายในการจัดการ NPL ที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์โดยเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการสร้างพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด