PQS
บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

เจาะลึก Oppday PQSt: สรุปผลประกอบการปี 67 และทิศทางอนาคตธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง

สวัสดีครับท่านนักลงทุนและผู้ที่สนใจทุกท่าน ผมนายรวิธร ชัยกิจถาวร CEO และคุณประวิน เรืองวรบูรณ์ CFO วันนี้เราจะมาแถลงผลประกอบการปี 2567 และไตรมาส 4 ปี 2567 โดยมีหัวข้อหลักดังนี้:

  1. ภาพรวมการประกอบธุรกิจและภาวะอุตสาหกรรม
  2. ผลประกอบการปี 2567 และไตรมาส 4
  3. มุมมองและแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต

สำหรับท่านที่เพิ่งรับชมเป็นครั้งแรก บริษัทของเราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีโครงสร้างบริษัทดังนี้:

  • บริษัท Premier Quality Starch จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทแม่
  • Premier Quality Starch 2012 จำกัด (โรงงานผลิตแป้งและกระแสไฟฟ้าที่สกลนคร)
  • Premier Modified Starch (นำแป้งมาต่อยอดในการดัดแปร)
  • Premier Bio Energy (ผลิตกระแสไฟฟ้าจากผลพลอยได้ของโรงงานผลิตแป้ง)

โรงงานผลิตแป้งของเราตั้งอยู่ที่จังหวัดมุกดาหาร (บริษัทแม่), สกลนคร, และล่าสุดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญในภาคอีสาน ผลิตภัณฑ์หลักของเราคือแป้งมันสำปะหลังชนิดพิเศษภายใต้แบรนด์ PQS และ Two Key (สำหรับตลาดจีน) นอกจากนี้ยังมีแป้งดัดแปรซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ต้องการขยายสู่กลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้น

กำลังการผลิตรวมของโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังทั้ง 3 แห่งอยู่ที่ 300,000 ตันต่อปี และโรงงานผลิตแป้งดัดแปรที่มุกดาหารมีกำลังการผลิต 45,000 ตันต่อปี

กำลังการผลิตติดตั้งของโรงงานที่มุกดาหารอยู่ที่ 132,000 ตัน, สกลนครและกาฬสินธุ์อยู่ที่ 120,000 ตัน แต่กำลังการผลิตโดยประมาณตามฤดูกาลอยู่ที่ 100,000 ตันต่อปี

กำลังการผลิตจริงในปี 2567 ของมุกดาหารอยู่ที่ 78,186 ตัน และสกลนครอยู่ที่ 76,677 ตัน กาฬสินธุ์เพิ่งเปิดดำเนินการในปี 2568

อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 66% เป็น 72% เมื่อเทียบกับปี 2566

ในส่วนของการผลิตกระแสไฟฟ้า เรามีกำลังการผลิตติดตั้งรวมจากก๊าซชีวภาพอยู่ที่ 11.8 MW และจากพลังงานแสงอาทิตย์ 0.44 MW มีการปรับปรุงบ่อบำบัดก๊าซชีวภาพในช่วงต้นปี 2567 ทำให้มีการใช้กำลังการผลิตต่ำลงบ้างเมื่อเทียบกับปี 2566 แต่โดยเฉลี่ยยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

กลุ่มลูกค้าของเราแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ อุตสาหกรรมอาหาร (สารปรับปรุงรสชาติ, เส้นก๋วยเตี๋ยว, สารให้ความหวาน, กลุ่มอุตสาหกรรมยา) และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง (กระดาษ, กาว, สิ่งทอ) โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตโดยตรงที่รับวัตถุดิบของเราไปเป็นวัตถุดิบตั้งต้น และอีกกลุ่มคือเทรดเดอร์ที่ส่งออกจำหน่ายไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนซึ่งซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง

ปีที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับการลดการปลดปล่อยคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง ตามเจตนารมณ์ที่จะเป็น Net Zero Carbon ในปี 2070 โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การเข้าร่วมโครงการ Premium T-VER, การลงทุนขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ, การปรับปรุงประสิทธิภาพ Solar Cell, และโครงการ Eco Park PQS ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูป่าและการสร้างแหล่งอาหารในชุมชน

กิจกรรมที่สำคัญคือการจัดตั้งโครงการธนาคารต้นไม้ ซึ่งไม่เพียงแต่กักเก็บคาร์บอน แต่ยังช่วยสร้างระบบนิเวศที่ดีและเป็นแหล่งอาหารตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีโครงการส่งเสริมการเรียนรู้อาชีพเยาวชนมันสำปะหลังรุ่นใหม่ เพื่อสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่และลดความเหลื่อมล้ำ

เรามีการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้เกษตรกรมีความพร้อมก่อนเข้าสู่ฤดูการผลิตใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน

นอกจากนี้ยังมีโครงการ PQS สารสัมพันธ์ชุมชน ที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกกับชุมชนเพื่อสร้างความยั่งยืนร่วมกัน

ด้านการกำกับดูแลกิจการ เราได้รับการจัดเรตติ้งที่ดีมาก (4 ดาว) จาก CGR และเข้าร่วมเป็นสมาชิก CAC เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการต่อต้านทุจริต

ปี 2566 เราจ่ายปันผล 40% ของกำไรสุทธิ (54.3 ล้านบาท) และปี 2567 จ่ายปันผลรวม 100.5 ล้านบาท (2 รอบ)

รายได้จากการขายปี 2567 อยู่ที่ 2,710.6 ล้านบาท (+17% YoY), อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น, กำไรสุทธิ 241.1 ล้านบาท (+78% YoY), และสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 19% เป็น 2,981.7 ล้านบาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 66.7% และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 7.4%

ความคืบหน้าของโรงงานใหม่ที่กาฬสินธุ์: เริ่มผลิตแล้วและเตรียมจัดจำหน่าย โดยพื้นที่ดังกล่าวมีวัตถุดิบคุณภาพดีและมีแนวโน้มการขยายพื้นที่ที่ดี

โรงงานผลิตแป้งดัดแปร: ผลิตต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าและยกระดับสินค้า

ภาวะอุตสาหกรรมปี 2567: ราคาแป้งมันสำปะหลังอยู่ในระดับสูง แต่เริ่มลดลงเนื่องจากจีนมีการสต็อกสินค้า ทำให้ชะลอการซื้อลงบ้าง อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกจากไทยยังคงเพิ่มขึ้น

สำหรับปี 2568 เราคาดการณ์ว่า:

  • โรงงานกาฬสินธุ์จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตรวมเป็น 360,000 ตันต่อปี
  • กำลังการผลิตไฟฟ้าจาก Bio Gas ที่กาฬสินธุ์รวม 3.68 MW, กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 15.57 MW

คุณประวิน เรืองวรบูรณ์ CFO ได้กล่าวถึงผลประกอบการโดยละเอียด โดยเน้นที่รายได้รวมที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณขายและราคาขายที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [59:42]

Q: ผู้บริหารมีแผนเรื่องรายได้และผลกำไรปี 68 อย่างไรบ้าง?

A: ปีนี้เป็นปีที่ราคาแป้งมันสำปะหลังอาจจะย่อลงมาบ้างเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ทีมฝ่าบริหารมีการ explore และค้นหาพื้นที่ใหม่ๆ สำหรับการขาย เพื่อรักษาในเรื่องของรายได้และผลกำไรให้ยังดีอยู่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว และปีนี้เริ่มที่จะมีการประสานไปยัง distributor ประสานไปยังคู่ค้าต่างๆ ในประเทศทางเลือกอื่นๆ ซึ่งก็จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตต่อเนื่อง และคงเป็นแนวทางหนึ่งที่เรามี mitigation เบื้องต้น

Q: โครงการโรงไฟฟ้า Bio Gas เริ่มดำเนินการแล้วหรือยัง?

A: อยู่ระหว่างการดำเนินงาน เพราะว่าตัวโรงแป้งเริ่มผลิตแล้วที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยปกติแล้ว Norm ของธุรกิจตัว Bio Gas จะรอสักประมาณให้หลังประมาณ 3-5 เดือน ก็จะเริ่มมีแก๊สและพร้อมที่จะทำการผลิตแก๊สได้ ซึ่ง ณ วันนี้ตัวเครื่องจักรก็เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว อยู่ที่อยู่ในขั้นตอนของการติดตั้ง

Q: ทำไมอัตรากำไร (EBITDA margin) ปี 67 ถึงลดลง? บริษัทมีนโยบายในการปรับปรุงอย่างไร?

A: EBITDA margin เกิดจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการใหม่ของเรา ที่เริ่มจะรับรู้ ในขณะเดียวกันที่รายได้ของโครงการใหม่อาจจะยังไม่เข้าเต็มที่ 100% ทางบริษัทเองก็มีความตระหนักในเรื่องนี้ก็มีการจัดการเกี่ยวกับการปรับตัวหรือการใช้จ่าย มีความรัดกุมเข้มงวดและก็ระมัดระวังอย่างต่อเนื่องและก็พยายามที่จะไม่ให้ต้นทุนบางประการที่ไม่ควรจะเกิดในเวลาที่เหมาะสม อาจจะไม่ให้เกิดเร็วเกินไปนะครับ การรับคนเองก็ดี การใช้จ่ายเองก็ดี ก็ทำให้เวลาเหมาะสมกับการที่จะทำงานจริง

Q: ถ้าโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังและแป้งดัดแปรที่สร้างใหม่เริ่มดำเนินการแล้ว บริษัทมีโครงการอื่นเพิ่มเติมหรือไม่?

A: เราก็มีการสํารวจแผนในการที่จะขยายตัวการดำเนินงานในทุกๆไซด์ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการผลิตกระแสไฟฟ้าเอง ที่เริ่มมีการสํารวจในเรื่องของการลงทุนเพิ่มเติม ในส่วนของโรงงานผลิตแป้งดัดแปรเอง ก็มีแผนที่จะอัพ value ให้กับตัวสินค้าเดิม ซึ่งอาจจะต้องมีการ upgrade ตัวอุปกรณ์ ระบบบําบัดน้ําให้ดีมากยิ่งขึ้น นั่นก็เป็นส่วนที่เรามีแผนอยู่

Q: นโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท

A: บริษัทยังคงนโยบายของการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ร้อยละ 40 ของกําไรสุทธิ การตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ก็ยังคงนโยบายการจ่ายปันผลไว้ อย่างเดิมนะครับ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่ประการใด

โดยสรุป, PQSt ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานปี 2567 ด้วยรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้น แม้จะมีปัจจัยท้าทายจากราคาวัตถุดิบที่ผันผวน และค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้น บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป