3/22

เดือนนี้ / เดือนก่อน

137/23

ปีนี้ / ปีก่อน

  • mitihoon

    เด็กแนว (เช้า) ” GCAP ” พร้อมบิน 15/12/68

    » GCAP โครงสร้างใหม่ ใหญ่กว่าเก่า เห็น เงียบๆ แบบนี้ แต่ GCAP กลับซ่อนธุรกิจระดับใหญ่ที่อาจเปลี่ยน โครงสร้างรายได้ในปี 69 ให้กลับมาเติบโตในรอบหลายปี GCAP ซุ่มจับมือพันธมิตรต่างชาติจัดตั้งบริษัท TAO AAM ทำธุรกิจโดรนโดยสารไร้คนขับ แหล่งท่องเที่ยว 12 เส้นทาง เช่น ภูกระดึง พัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า ยกระดับการท่องเที่ยวและการขนส่งพัสดุ อาหารและทางการแพทย์ โดยจะเริ่มดำเนินการQ169 ซึ่งขณะนี้ได้รับใบอนุญาตด้านการขึ้นบินครบถ้วนแล้ว และนี่เป็นธุรกิจโดรนโดยสารเจ้าแรกของไทยเลยทีเดียว » ราคาหุ้นถูกกว่า Book ถึง 66%

  • thunhoon

    “GCAP GOLD” ลุ้นเฟดชี้ชะตาทองคำพุธนี้ เตือน!! ตั้ง Stop Loss ป้องกันเสี่ยง 09/12/68

    #ทันหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD จับตาผลประชุมเฟดคืนวันพุธนี้ ชี้ชะตาทองคำโลก พร้อมเตือนระวัง “เจอโรม พาวเวลล์” ส่งสัญญาณเข้มงวดทำราคาทองผันผวน ขณะที่กรณีภูมิรัฐศาสตร์เจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน หากสะดุดจะหนุนราคาทองคำพุ่ง ด้าน ฝ่ายวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ย้ำนักลงทุนตั้ง Stop Loss เพื่อป้องความเสี่ยงกับภาวะที่ ผันผวน โดยให้บริเวณแนวรับ $4,175-$4,150 และหากยืนเหนือ $4,150 มีโอกาสวิ่งทดสอบ แนวต้าน $4,300 นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังเคลื่อนไหวใกล้โซนสำคัญบริเวณ $4,200 โดยกำลังจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางราคาทองคำรอบใหญ่ ล่าสุดตลาดได้ประเมินออกมาว่ามีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นเกือบ 90% และหากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลาย ทั้งในแง่ของการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยและ Dot Plot ที่ยังคงคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า จะส่งผลให้กลายเป็นแรงหนุนสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาทองคำ ขณะเดียวกัน หากเฟดไม่ลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ จะส่งผลให้กลายเป็นปัจจัยลบ ที่กดดันราคาทองคำ และกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา โดยเฉพาะหาก“เจอโรม  พาวเวลล์”ประธานเฟด ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทำให้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงในกรอบกว้างตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิด false break ดังนั้นจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังและติดตามจังหวะอย่างรอบคอบ

  • thunhoon

    GCAP GOLD จับตาเฟดลดดบ.หนุนราคาทอง ลุ้นแตะ 4,380 เหรียญ 04/12/68

    #ทันหุ้น-บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวเชิงบวก รับความเชื่อมั่นตลาดสูงถึง 89% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านฝ่ายวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” บริเวณแนว $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทย ประมาณ 63,500 / 63,000 บาท โดยหากราคาอ่อนตัวแต่ไม่ต่ำกว่า $4,150 มีโอกาสลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $4,380 นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLDเปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ $4,155 ได้อย่างมั่นคง หากระดับดังกล่าวยังถูกประคองไว้และมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ราคาทองคำมีโอกาสขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $4,300 และ $4,380 ตามลำดับ ซึ่งเทียบเป็นราคาทองไทยประมาณ 64,800 และ 66,000 บาท ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับ $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทยประมาณ 63,500 / 63,000 บาท ทั้งนี้ หากราคาทองคำอ่อนตัวแต่ไม่หลุดต่ำกว่า $4,150 หรือราว 62,800 บาท ยังถือว่าโครงสร้างภาพรวมเป็นขาขึ้น ขณะเดียวกัน หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ย ก็จะยิ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับแรงหนุนที่สำคัญ ภายใต้ปัจจัยความคาดหวังต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยถึงการได้ตัดสินใจเลือกผู้ที่จะเสนอชื่อเป็นประธานเฟดคนใหม่แล้ว และคาดหวังว่าผู้ที่ถูกเลือกจะดำเนินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดทองคำ โดยมีชื่อของนาย Kevin Hassett ที่ปรึกษาเศรษฐกิจใกล้ชิดทรัมป์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเข้ารับตำแหน่ง ต่อจากนาย Jerome Powell ซึ่งปัจจัยดังกล่างจึงช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเชิงบวกต่อทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ

  • oppday
  • kaohoon

    GCAP GOLD จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้ทิศทองคำ แนะรอย่อซื้อ แนวรับ 4,075–4,045 เหรียญ 27/11/68

    นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ 4,075 – 4,045 เหรียญ หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ 4,022 เหรียญ (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน 4,150 – 4,170 เหรียญ (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผันผวนของตลาด และการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมได้กลับมาเพิ่มขึ้นแถว 80% อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ลดลงไปที่ 29% และด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงช่วยพยุงความเชื่อมั่นฝั่งซื้อทองคำไว้ได้ในบางส่วน ขณะที่ราคาทองคำยังคงยืนอยู่ใกล้โซน $4,100 แม้ว่าจะยังไม่หลุดแนวโน้มสำคัญ แต่โมเมนตัมฝั่งซื้อยังคงไม่แข็งแรงมากพอ เนื่องจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงทรงตัวแข็งค่า ประกอบกับสัญญาณเชิงบวกเรื่องสันติภาพยูเครน–รัสเซีย ที่เริ่มลดความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง

  • mitihoon

    “GCAP GOLD” จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กุญแจสำคัญกำหนดจุดพลิกผัน รอจังหวะ “ย่อซื้อ” ชี้แนวรับ $4,075 / $4,045 27/11/68

    มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045 หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง

  • thunhoon

    GCAP GOLD ชี้ทองคำอยู่โหมดรอ แนะซื้อช่วงย่อ $4,075/$4,045 27/11/68

    #ทันหุ้น –บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045หรือราคาทองไทยประมาณ  62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง

  • set
  • kaohoon

    GCAP GOLD ชี้ทองรอจังหวะฟื้น แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 4,010–3,990 ดอลลาร์ 19/11/68

    นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ 4,010-3,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 4,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 4,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ ส่วนปัจจัยด้านมาตรการลดและยกเว้นภาษีนำเข้าอาหารกว่า 200 รายการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มองว่า เป็นตัวแปรสำคัญที่ตลาดต้องติดตาม เพราะสะท้อนแรงกดดันค่าครองชีพและเงินเฟ้อในประเทศ แม้ทรัมป์ระบุว่าสินค้าบางรายการอาจยังมีราคาเพิ่มขึ้น แต่เป้าหมายคือช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงราคาสินค้าอาหารยังปรับสูงขึ้น ตลาดจึงต้องรอดูว่ามาตรการนี้จะช่วยชะลอเงินเฟ้อได้จริง หรือเป็นเพียงเครื่องมือเชิงการเมืองที่ยังไม่เปลี่ยนทิศทางเงินเฟ้อและภารกิจของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ

  • mitihoon

    “GCAP GOLD” ชี้แนวโน้มทองยังเป็นบวก จับตาท่าทีดอกเบี้ย Fed -เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอหลังชัตดาวน์ 19/11/68

    มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำรอฟื้นตัว แนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับ $4,010–$3,990 (ทองไทยราว 61,800–61,500 บาท) จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หลังภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ และท่าทีธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต่อสัญญาณนโยบายการเงิน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ $4,010 และ $3,990 ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $4,110 (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ $4,185 (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ย เดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ