1/22

เดือนนี้ / เดือนก่อน

135/23

ปีนี้ / ปีก่อน

  • thunhoon

    GCAP GOLD จับตาเฟดลดดบ.หนุนราคาทอง ลุ้นแตะ 4,380 เหรียญ 04/12/68

    #ทันหุ้น-บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวเชิงบวก รับความเชื่อมั่นตลาดสูงถึง 89% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านฝ่ายวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” บริเวณแนว $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทย ประมาณ 63,500 / 63,000 บาท โดยหากราคาอ่อนตัวแต่ไม่ต่ำกว่า $4,150 มีโอกาสลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $4,380 นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLDเปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ $4,155 ได้อย่างมั่นคง หากระดับดังกล่าวยังถูกประคองไว้และมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ราคาทองคำมีโอกาสขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $4,300 และ $4,380 ตามลำดับ ซึ่งเทียบเป็นราคาทองไทยประมาณ 64,800 และ 66,000 บาท ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับ $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทยประมาณ 63,500 / 63,000 บาท ทั้งนี้ หากราคาทองคำอ่อนตัวแต่ไม่หลุดต่ำกว่า $4,150 หรือราว 62,800 บาท ยังถือว่าโครงสร้างภาพรวมเป็นขาขึ้น ขณะเดียวกัน หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ย ก็จะยิ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับแรงหนุนที่สำคัญ ภายใต้ปัจจัยความคาดหวังต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยถึงการได้ตัดสินใจเลือกผู้ที่จะเสนอชื่อเป็นประธานเฟดคนใหม่แล้ว และคาดหวังว่าผู้ที่ถูกเลือกจะดำเนินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดทองคำ โดยมีชื่อของนาย Kevin Hassett ที่ปรึกษาเศรษฐกิจใกล้ชิดทรัมป์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเข้ารับตำแหน่ง ต่อจากนาย Jerome Powell ซึ่งปัจจัยดังกล่างจึงช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเชิงบวกต่อทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ

  • oppday
  • kaohoon

    GCAP GOLD จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้ทิศทองคำ แนะรอย่อซื้อ แนวรับ 4,075–4,045 เหรียญ 27/11/68

    นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ 4,075 – 4,045 เหรียญ หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ 4,022 เหรียญ (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน 4,150 – 4,170 เหรียญ (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผันผวนของตลาด และการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมได้กลับมาเพิ่มขึ้นแถว 80% อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ลดลงไปที่ 29% และด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงช่วยพยุงความเชื่อมั่นฝั่งซื้อทองคำไว้ได้ในบางส่วน ขณะที่ราคาทองคำยังคงยืนอยู่ใกล้โซน $4,100 แม้ว่าจะยังไม่หลุดแนวโน้มสำคัญ แต่โมเมนตัมฝั่งซื้อยังคงไม่แข็งแรงมากพอ เนื่องจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงทรงตัวแข็งค่า ประกอบกับสัญญาณเชิงบวกเรื่องสันติภาพยูเครน–รัสเซีย ที่เริ่มลดความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง

  • mitihoon

    “GCAP GOLD” จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กุญแจสำคัญกำหนดจุดพลิกผัน รอจังหวะ “ย่อซื้อ” ชี้แนวรับ $4,075 / $4,045 27/11/68

    มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045 หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง

  • thunhoon

    GCAP GOLD ชี้ทองคำอยู่โหมดรอ แนะซื้อช่วงย่อ $4,075/$4,045 27/11/68

    #ทันหุ้น –บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045หรือราคาทองไทยประมาณ  62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง

  • set
  • kaohoon

    GCAP GOLD ชี้ทองรอจังหวะฟื้น แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 4,010–3,990 ดอลลาร์ 19/11/68

    นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ 4,010-3,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 4,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 4,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ ส่วนปัจจัยด้านมาตรการลดและยกเว้นภาษีนำเข้าอาหารกว่า 200 รายการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มองว่า เป็นตัวแปรสำคัญที่ตลาดต้องติดตาม เพราะสะท้อนแรงกดดันค่าครองชีพและเงินเฟ้อในประเทศ แม้ทรัมป์ระบุว่าสินค้าบางรายการอาจยังมีราคาเพิ่มขึ้น แต่เป้าหมายคือช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงราคาสินค้าอาหารยังปรับสูงขึ้น ตลาดจึงต้องรอดูว่ามาตรการนี้จะช่วยชะลอเงินเฟ้อได้จริง หรือเป็นเพียงเครื่องมือเชิงการเมืองที่ยังไม่เปลี่ยนทิศทางเงินเฟ้อและภารกิจของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ

  • mitihoon

    “GCAP GOLD” ชี้แนวโน้มทองยังเป็นบวก จับตาท่าทีดอกเบี้ย Fed -เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอหลังชัตดาวน์ 19/11/68

    มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำรอฟื้นตัว แนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับ $4,010–$3,990 (ทองไทยราว 61,800–61,500 บาท) จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หลังภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ และท่าทีธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต่อสัญญาณนโยบายการเงิน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ $4,010 และ $3,990 ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $4,110 (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ $4,185 (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ย เดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ

  • mitihoon

    GCAP เปิดเกมรุก Q3/68 เร่งเครื่องธุรกิจ Non-Lending หัวหอกรายได้ใหม่ คาดโดรนโดยสารเปิดบินเชิงพาณิชย์กลางปี 69 14/11/68

    มิติหุ้น – บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคงในไตรมาส 3/2568 ลุยขยายธุรกิจใหม่ Non-Lending Business สร้าง New S-Curve อย่าง “โดรนโดยสารอัจฉริยะ (Passenger Drone) ไร้คนขับ” และ “โครงการ Koh Tao Lifestyle Complex” ซึ่งคาดว่าจะเห็น ความคืบหน้าในปี 69 และเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต แม้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาต้องตั้ง ECL เพื่อบริหารความเสี่ยงเชิงรุก สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน แต่ยังมองแนวโน้มธุรกิจ โดยรวม เป็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อเกษตรที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งพัฒนาธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งเป็น Core Business ที่มี ความเชี่ยวชาญ โดยตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายใน 3 ปี ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 พอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 628 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้า อาทิ “สินเชื่อรถเกี่ยวแลกเงิน” รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม “เกษตรแมทช์ชิ่ง” เพื่อเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม (Fee-based income) และสร้างระบบนิเวศธุรกิจแบบยั่งยืน ไฮไลท์สำคัญในปีนี้และต่อเนื่องในปี 2569 บริษัทฯ เร่งขยาย Non-Lending Business เข้ามา เสริมทัพ ล่าสุดได้เปิดตัวโดรนโดยสารอัจฉริยะ (Passenger Drone) ไร้คนขับ รุ่น EH216-S จากบริษัท Ehang ประเทศจีน อย่างเป็นทางการในไทยเมื่อเดือนตุลาคม 68 ที่ผ่านมา ผ่านบริษัทย่อย เต่า เอเอเอ็ม จำกัด (TAO AAM) โดยเริ่มเปิดช่วงบินทดสอบ และเตรียมนำร่องให้บริการใน 5 เส้นทาง ท่องเที่ยว ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต สมุย พะงัน และเกาะเต่า พร้อมแผนขยายเส้นทางเพิ่มเป็น 11 เส้นทาง ในระยะถัดไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนต่อยอดสู่การให้บริการโดรนขนส่งอุปกรณ์ / เวชภัณฑ์ ทางการแพทย์, พัสดุ, และอาหารในอนาคต เพื่อสร้างรายได้ที่หลากหลายและมั่นคง

  • set