ช่าวหุ้น GCAP
เดือนนี้ / เดือนก่อน
ปีนี้ / ปีก่อน
-
thunhoon
GCAP GOLD จับตาเฟดลดดบ.หนุนราคาทอง ลุ้นแตะ 4,380 เหรียญ 04/12/68
#ทันหุ้น-บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวเชิงบวก รับความเชื่อมั่นตลาดสูงถึง 89% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านฝ่ายวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” บริเวณแนว $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทย ประมาณ 63,500 / 63,000 บาท โดยหากราคาอ่อนตัวแต่ไม่ต่ำกว่า $4,150 มีโอกาสลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $4,380 นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLDเปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ $4,155 ได้อย่างมั่นคง หากระดับดังกล่าวยังถูกประคองไว้และมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ราคาทองคำมีโอกาสขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $4,300 และ $4,380 ตามลำดับ ซึ่งเทียบเป็นราคาทองไทยประมาณ 64,800 และ 66,000 บาท ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับ $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทยประมาณ 63,500 / 63,000 บาท ทั้งนี้ หากราคาทองคำอ่อนตัวแต่ไม่หลุดต่ำกว่า $4,150 หรือราว 62,800 บาท ยังถือว่าโครงสร้างภาพรวมเป็นขาขึ้น ขณะเดียวกัน หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ย ก็จะยิ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับแรงหนุนที่สำคัญ ภายใต้ปัจจัยความคาดหวังต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยถึงการได้ตัดสินใจเลือกผู้ที่จะเสนอชื่อเป็นประธานเฟดคนใหม่แล้ว และคาดหวังว่าผู้ที่ถูกเลือกจะดำเนินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดทองคำ โดยมีชื่อของนาย Kevin Hassett ที่ปรึกษาเศรษฐกิจใกล้ชิดทรัมป์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเข้ารับตำแหน่ง ต่อจากนาย Jerome Powell ซึ่งปัจจัยดังกล่างจึงช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเชิงบวกต่อทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ
-
oppday
-
kaohoon
GCAP GOLD จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้ทิศทองคำ แนะรอย่อซื้อ แนวรับ 4,075–4,045 เหรียญ 27/11/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ 4,075 – 4,045 เหรียญ หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ 4,022 เหรียญ (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน 4,150 – 4,170 เหรียญ (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผันผวนของตลาด และการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมได้กลับมาเพิ่มขึ้นแถว 80% อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ลดลงไปที่ 29% และด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงช่วยพยุงความเชื่อมั่นฝั่งซื้อทองคำไว้ได้ในบางส่วน ขณะที่ราคาทองคำยังคงยืนอยู่ใกล้โซน $4,100 แม้ว่าจะยังไม่หลุดแนวโน้มสำคัญ แต่โมเมนตัมฝั่งซื้อยังคงไม่แข็งแรงมากพอ เนื่องจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงทรงตัวแข็งค่า ประกอบกับสัญญาณเชิงบวกเรื่องสันติภาพยูเครน–รัสเซีย ที่เริ่มลดความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง
-
mitihoon
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045 หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง
-
thunhoon
GCAP GOLD ชี้ทองคำอยู่โหมดรอ แนะซื้อช่วงย่อ $4,075/$4,045 27/11/68
#ทันหุ้น –บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง
-
set
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ทองรอจังหวะฟื้น แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 4,010–3,990 ดอลลาร์ 19/11/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ 4,010-3,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 4,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 4,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ ส่วนปัจจัยด้านมาตรการลดและยกเว้นภาษีนำเข้าอาหารกว่า 200 รายการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มองว่า เป็นตัวแปรสำคัญที่ตลาดต้องติดตาม เพราะสะท้อนแรงกดดันค่าครองชีพและเงินเฟ้อในประเทศ แม้ทรัมป์ระบุว่าสินค้าบางรายการอาจยังมีราคาเพิ่มขึ้น แต่เป้าหมายคือช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงราคาสินค้าอาหารยังปรับสูงขึ้น ตลาดจึงต้องรอดูว่ามาตรการนี้จะช่วยชะลอเงินเฟ้อได้จริง หรือเป็นเพียงเครื่องมือเชิงการเมืองที่ยังไม่เปลี่ยนทิศทางเงินเฟ้อและภารกิจของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ
-
mitihoon
“GCAP GOLD” ชี้แนวโน้มทองยังเป็นบวก จับตาท่าทีดอกเบี้ย Fed -เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอหลังชัตดาวน์ 19/11/68
มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำรอฟื้นตัว แนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับ $4,010–$3,990 (ทองไทยราว 61,800–61,500 บาท) จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หลังภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ และท่าทีธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต่อสัญญาณนโยบายการเงิน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ $4,010 และ $3,990 ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $4,110 (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ $4,185 (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ย เดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ
-
mitihoon
มิติหุ้น – บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคงในไตรมาส 3/2568 ลุยขยายธุรกิจใหม่ Non-Lending Business สร้าง New S-Curve อย่าง “โดรนโดยสารอัจฉริยะ (Passenger Drone) ไร้คนขับ” และ “โครงการ Koh Tao Lifestyle Complex” ซึ่งคาดว่าจะเห็น ความคืบหน้าในปี 69 และเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต แม้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาต้องตั้ง ECL เพื่อบริหารความเสี่ยงเชิงรุก สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน แต่ยังมองแนวโน้มธุรกิจ โดยรวม เป็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อเกษตรที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งพัฒนาธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งเป็น Core Business ที่มี ความเชี่ยวชาญ โดยตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายใน 3 ปี ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 พอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 628 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้า อาทิ “สินเชื่อรถเกี่ยวแลกเงิน” รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม “เกษตรแมทช์ชิ่ง” เพื่อเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม (Fee-based income) และสร้างระบบนิเวศธุรกิจแบบยั่งยืน ไฮไลท์สำคัญในปีนี้และต่อเนื่องในปี 2569 บริษัทฯ เร่งขยาย Non-Lending Business เข้ามา เสริมทัพ ล่าสุดได้เปิดตัวโดรนโดยสารอัจฉริยะ (Passenger Drone) ไร้คนขับ รุ่น EH216-S จากบริษัท Ehang ประเทศจีน อย่างเป็นทางการในไทยเมื่อเดือนตุลาคม 68 ที่ผ่านมา ผ่านบริษัทย่อย เต่า เอเอเอ็ม จำกัด (TAO AAM) โดยเริ่มเปิดช่วงบินทดสอบ และเตรียมนำร่องให้บริการใน 5 เส้นทาง ท่องเที่ยว ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต สมุย พะงัน และเกาะเต่า พร้อมแผนขยายเส้นทางเพิ่มเป็น 11 เส้นทาง ในระยะถัดไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนต่อยอดสู่การให้บริการโดรนขนส่งอุปกรณ์ / เวชภัณฑ์ ทางการแพทย์, พัสดุ, และอาหารในอนาคต เพื่อสร้างรายได้ที่หลากหลายและมั่นคง
-
set
-
thunhoon
GCAP GOLD จับตาเฟดลดดบ.หนุนราคาทอง ลุ้นแตะ 4,380 เหรียญ 04/12/68
#ทันหุ้น-บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวเชิงบวก รับความเชื่อมั่นตลาดสูงถึง 89% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านฝ่ายวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” บริเวณแนว $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทย ประมาณ 63,500 / 63,000 บาท โดยหากราคาอ่อนตัวแต่ไม่ต่ำกว่า $4,150 มีโอกาสลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $4,380 นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLDเปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ $4,155 ได้อย่างมั่นคง หากระดับดังกล่าวยังถูกประคองไว้และมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ราคาทองคำมีโอกาสขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $4,300 และ $4,380 ตามลำดับ ซึ่งเทียบเป็นราคาทองไทยประมาณ 64,800 และ 66,000 บาท ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับ $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทยประมาณ 63,500 / 63,000 บาท ทั้งนี้ หากราคาทองคำอ่อนตัวแต่ไม่หลุดต่ำกว่า $4,150 หรือราว 62,800 บาท ยังถือว่าโครงสร้างภาพรวมเป็นขาขึ้น ขณะเดียวกัน หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ย ก็จะยิ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับแรงหนุนที่สำคัญ ภายใต้ปัจจัยความคาดหวังต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยถึงการได้ตัดสินใจเลือกผู้ที่จะเสนอชื่อเป็นประธานเฟดคนใหม่แล้ว และคาดหวังว่าผู้ที่ถูกเลือกจะดำเนินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดทองคำ โดยมีชื่อของนาย Kevin Hassett ที่ปรึกษาเศรษฐกิจใกล้ชิดทรัมป์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเข้ารับตำแหน่ง ต่อจากนาย Jerome Powell ซึ่งปัจจัยดังกล่างจึงช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเชิงบวกต่อทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ
-
oppday
-
kaohoon
GCAP GOLD จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้ทิศทองคำ แนะรอย่อซื้อ แนวรับ 4,075–4,045 เหรียญ 27/11/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ 4,075 – 4,045 เหรียญ หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ 4,022 เหรียญ (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน 4,150 – 4,170 เหรียญ (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผันผวนของตลาด และการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมได้กลับมาเพิ่มขึ้นแถว 80% อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ลดลงไปที่ 29% และด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงช่วยพยุงความเชื่อมั่นฝั่งซื้อทองคำไว้ได้ในบางส่วน ขณะที่ราคาทองคำยังคงยืนอยู่ใกล้โซน $4,100 แม้ว่าจะยังไม่หลุดแนวโน้มสำคัญ แต่โมเมนตัมฝั่งซื้อยังคงไม่แข็งแรงมากพอ เนื่องจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงทรงตัวแข็งค่า ประกอบกับสัญญาณเชิงบวกเรื่องสันติภาพยูเครน–รัสเซีย ที่เริ่มลดความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง
-
mitihoon
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045 หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง
-
thunhoon
GCAP GOLD ชี้ทองคำอยู่โหมดรอ แนะซื้อช่วงย่อ $4,075/$4,045 27/11/68
#ทันหุ้น –บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำอยู่โหมดรอทิศทาง แนะนำกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” เคาะบริเวณแนวรับ $4,075 / $4,045 (ทองไทยราว 62,400–62,000 บาท) เตรียมเกาะติดเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตัวแปรสำคัญที่เตรียมพลิกเกมความผันผวน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในโหมดรอทิศทาง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยยังไม่ปรากฏสัญญาณการเบรกกรอบอย่างชัดเจน จึงแนะนำ กลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” ที่บริเวณแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,045หรือราคาทองไทยประมาณ 62,400–62,000 บาท โดยการปรับฐานในระยะสั้นยังควรยืนเหนือระดับ $4,022 (ราคาทองไทยประมาณ 61,500 บาท) เพื่อรักษาโครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นไว้ ขณะเดียวกันก็มีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับอยู่ที่โซน $4,150 – $4,170 (ราคาทองไทยราว 63,500 – 63,900 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่ตลาดจะต้องยืนเหนือให้ได้หากจะขึ้นต่ออย่างมั่นคง
-
set
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ทองรอจังหวะฟื้น แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 4,010–3,990 ดอลลาร์ 19/11/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ 4,010-3,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 4,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 4,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ ส่วนปัจจัยด้านมาตรการลดและยกเว้นภาษีนำเข้าอาหารกว่า 200 รายการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มองว่า เป็นตัวแปรสำคัญที่ตลาดต้องติดตาม เพราะสะท้อนแรงกดดันค่าครองชีพและเงินเฟ้อในประเทศ แม้ทรัมป์ระบุว่าสินค้าบางรายการอาจยังมีราคาเพิ่มขึ้น แต่เป้าหมายคือช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงราคาสินค้าอาหารยังปรับสูงขึ้น ตลาดจึงต้องรอดูว่ามาตรการนี้จะช่วยชะลอเงินเฟ้อได้จริง หรือเป็นเพียงเครื่องมือเชิงการเมืองที่ยังไม่เปลี่ยนทิศทางเงินเฟ้อและภารกิจของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ
-
mitihoon
“GCAP GOLD” ชี้แนวโน้มทองยังเป็นบวก จับตาท่าทีดอกเบี้ย Fed -เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอหลังชัตดาวน์ 19/11/68
มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำรอฟื้นตัว แนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับ $4,010–$3,990 (ทองไทยราว 61,800–61,500 บาท) จับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หลังภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ และท่าทีธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต่อสัญญาณนโยบายการเงิน นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ยังคงมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงแนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับสำคัญที่ $4,010 และ $3,990 ซึ่งเทียบเท่าราคาทองไทยราว 61,800–61,500 บาท และหากมีการปรับฐานไม่ควรหลุดระดับ $3,975 (ราคาทองไทยประมาณ 61,000 บาท) เนื่องจากหากหลุดต่ำกว่าจุดดังกล่าว อาจนำไปสู่การพักฐานที่ลึกขึ้น ขณะที่ฝ่ายวิจัยให้แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $4,110 (ราคาทองไทยราว 63,000 บาท) หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ $4,185 (ราคาทองไทยประมาณ 64,300 บาท) “ในระยะสั้นอาจจะมีแรงขายทอง แต่ระยะกลางยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ ซึ่งอาจเป็นแรงกดดัน GDP ลดลงราว 1.5%-2.0% แม้กระแสคาดหวังการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจะลดลง แต่ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ย เดือนมกราคมยังสูงถึง 75% สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย และเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะกลางที่ยังคงผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง ซึ่งในสัปดาห์นี้มีการทยอยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมา อาทิ ตัวเลขการจ้างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 20 พ.ย. หลังชัตดาวน์ 43 วัน ซึ่งสะท้อนการสิ้นสุดช่วงขาดข้อมูลสำคัญ
-
mitihoon
มิติหุ้น – บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคงในไตรมาส 3/2568 ลุยขยายธุรกิจใหม่ Non-Lending Business สร้าง New S-Curve อย่าง “โดรนโดยสารอัจฉริยะ (Passenger Drone) ไร้คนขับ” และ “โครงการ Koh Tao Lifestyle Complex” ซึ่งคาดว่าจะเห็น ความคืบหน้าในปี 69 และเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต แม้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาต้องตั้ง ECL เพื่อบริหารความเสี่ยงเชิงรุก สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน แต่ยังมองแนวโน้มธุรกิจ โดยรวม เป็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อเกษตรที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งพัฒนาธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งเป็น Core Business ที่มี ความเชี่ยวชาญ โดยตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายใน 3 ปี ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 พอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 628 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้า อาทิ “สินเชื่อรถเกี่ยวแลกเงิน” รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม “เกษตรแมทช์ชิ่ง” เพื่อเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม (Fee-based income) และสร้างระบบนิเวศธุรกิจแบบยั่งยืน ไฮไลท์สำคัญในปีนี้และต่อเนื่องในปี 2569 บริษัทฯ เร่งขยาย Non-Lending Business เข้ามา เสริมทัพ ล่าสุดได้เปิดตัวโดรนโดยสารอัจฉริยะ (Passenger Drone) ไร้คนขับ รุ่น EH216-S จากบริษัท Ehang ประเทศจีน อย่างเป็นทางการในไทยเมื่อเดือนตุลาคม 68 ที่ผ่านมา ผ่านบริษัทย่อย เต่า เอเอเอ็ม จำกัด (TAO AAM) โดยเริ่มเปิดช่วงบินทดสอบ และเตรียมนำร่องให้บริการใน 5 เส้นทาง ท่องเที่ยว ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต สมุย พะงัน และเกาะเต่า พร้อมแผนขยายเส้นทางเพิ่มเป็น 11 เส้นทาง ในระยะถัดไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนต่อยอดสู่การให้บริการโดรนขนส่งอุปกรณ์ / เวชภัณฑ์ ทางการแพทย์, พัสดุ, และอาหารในอนาคต เพื่อสร้างรายได้ที่หลากหลายและมั่นคง
-
set
-
set
-
set
-
set
-
fin
-
set
แจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทย่อย 14/11/68
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ทองคำโอกาสรีบาวด์ หลังเศรษฐกิจสหรัฐแผ่ว–เฟดส่งซิกขยายงบดุล 12/11/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวในกรอบจำกัด หลังจากปรับฐานต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากได้รับแรงหนุนจากความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงอย่างชัดเจน รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง และตัวเลขเลิกจ้างงานในเดือนตุลาคมที่เปิดเผยจาก Challenger, Gray & Christmas พุ่งสูงถึง 153,074 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี สะท้อนถึงแรงกดดันในตลาดแรงงานและความเปราะบางของเศรษฐกิจโดยรวม ขณะเดียวกัน ตลาดเริ่มจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาต่อจากนี้ อย่างใกล้ชิด หากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) ออกมาประกาศตัวเลขที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับภาคเอกชน จะถือเป็นสัญญาณยืนยันว่า ตลาดแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ กำลังอ่อนแรงอย่างชัดเจน ทำให้มีแนวโน้วว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยลงในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ราคาทองคำกลับมาเป็นที่น่าสนใจ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นผลมาจากการส่งสัญญาณจาก นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ที่ออกมาระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจต้องพิจารณากลับมาขยายงบดุล และหลายฝ่ายคาดว่าเฟดอาจจะเริ่มขยายงบดุลในไตรมาส 1/2569 เพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาดการเงิน ถึงแม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่ใช่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง แต่ตลาดกลับมองว่าเป็น “ท่าทีเชิงผ่อนคลาย” สนับสนุนให้ทองคำกลับมามีเสน่ห์และน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
-
mitihoon
“GCAP GOLD” ชี้ทองคำยังมีเสน่ห์ ลุ้นรีบาวด์ เศรษฐกิจสหรัฐฯ แผ่ว–เฟดส่งสัญญาณขยายงบดุล 12/11/68
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐฯพุ่ง และ Fed ส่งสัญญาณขยายงบดุล หนุนทองคำกลับมาน่าสนใจ และยังมีเสน่ห์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านนักลงทุนจับตาตัวเลขฝั่งแรงงานเพื่อตอกย้ำความอ่อนแรงของตลาด ฝ่ายวิเคราะห์แนะแนวรับสำคัญ $4,075 / $4,025 หากไม่หลุดมีโอกาสรีบาวด์ต่อ นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวในกรอบจำกัด หลังจากปรับฐานต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากได้รับแรงหนุนจากความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงอย่างชัดเจน รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง และตัวเลขเลิกจ้างงานในเดือนตุลาคมที่เปิดเผยจาก Challenger, Gray & Christmas พุ่งสูงถึง 153,074 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี สะท้อนถึงแรงกดดันในตลาดแรงงานและความเปราะบางของเศรษฐกิจโดยรวม ขณะเดียวกัน ตลาดเริ่มจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาต่อจากนี้ อย่างใกล้ชิด หากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) ออกมาประกาศตัวเลขที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับภาคเอกชน จะถือเป็นสัญญาณยืนยันว่า ตลาดแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ กำลังอ่อนแรงอย่างชัดเจน ทำให้มีแนวโน้วว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยลงในเดือนธันวาคม
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ทองคำเจอแรงกดดัน แนะสะสมหลังราคาย่อตัว 05/11/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ได้รับแรงกดดันรอบใหม่ หลังรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการ “อุ้มภาษีทองคำ” ที่ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยกฎใหม่ที่มีการบังคับใช้สำหรับผู้ค้าปลีกที่ซื้อทองผ่าน Shanghai Gold Exchange (SGE) จะไม่สามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาหักภาษีตอนขายทองได้อีก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนทองคำในประเทศจีนสูงขึ้นทันที อาทิ ทองคำแท่ง, เหรียญ และเครื่องประดับ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการทองคำในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดบริโภคทองที่ใหญ่ที่สุดของโลก ชะลอตัวลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตามราคาทองคำในตลาดโลกได้ผ่านช่วงเวลาของการ “เทขายหนักสุดในรอบกว่าทศวรรษ” หลังจากนักลงทุนพากันขายทำกำไรจากระดับสูงสุดที่ $4,380 รวมถึงการไหลออกของเม็ดเงินจากกองทุน ETF และความคลี่คลายจากการเจรจาทางการค้าสหรัฐฯ – จีน
-
thunhoon
GCAP GOLD เตือน! จีนเปลี่ยนเกมภาษีทอง แนะสะสมแถว 60,300/59,800 บ. 05/11/68
#ทันหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำยังเผชิญแรงกดดันหลังจีนยกเลิกมาตรการสนับสนุนภาษีทองคำ กระทบต้นทุนพุ่ง แนะจับตากองทุนรายใหญ่ กลับเข้าซื้อสุทธิในรอบ 10 วัน มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ หลังผ่านช่วง “เทขายหนักสุดในรอบทศวรรษ” ฝ่ายวิเคราะห์แนะกลยุทธ์ “ทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว” บริเวณ $3,950 – $3,915 หรือราคาทองคำไทยอยู่ประมาณ 60,300 / 59,800 บาท นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ได้รับแรงกดดันรอบใหม่ หลังรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการ“อุ้มภาษีทองคำ”ที่ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยกฎใหม่ที่มีการบังคับใช้สำหรับผู้ค้าปลีกที่ซื้อทองผ่าน Shanghai Gold Exchange (SGE) จะไม่สามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาหักภาษีตอนขายทองได้อีก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนทองคำในประเทศจีนสูงขึ้นทันที อาทิ ทองคำแท่ง, เหรียญ และเครื่องประดับ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการทองคำในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดบริโภคทองที่ใหญ่ที่สุดของโลก ชะลอตัวลงในระยะสั้น
-
mitihoon
“GCAP GOLD” เตือนแรง! จีนเปลี่ยนเกมภาษีทอง แนะทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัวแถว 60,300 / 59,800 บาท 05/11/68
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำยังเผชิญแรงกดดันหลังจีนยกเลิกมาตรการสนับสนุนภาษีทองคำ กระทบต้นทุนพุ่ง แนะจับตากองทุนรายใหญ่ กลับเข้าซื้อสุทธิในรอบ 10 วัน มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ หลังผ่านช่วง “เทขายหนักสุดในรอบทศวรรษ” ฝ่ายวิเคราะห์แนะกลยุทธ์ “ทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว” บริเวณ $3,950 – $3,915 หรือราคาทองคำไทยอยู่ประมาณ 60,300 / 59,800 บาท นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ได้รับแรงกดดันรอบใหม่ หลังรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการ “อุ้มภาษีทองคำ” ที่ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยกฎใหม่ที่มีการบังคับใช้สำหรับผู้ค้าปลีกที่ซื้อทองผ่าน Shanghai Gold Exchange (SGE) จะไม่สามารถ นำภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาหักภาษีตอนขายทองได้อีก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนทองคำในประเทศจีนสูงขึ้นทันที อาทิ ทองคำแท่ง, เหรียญ และเครื่องประดับ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการทองคำในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดบริโภคทองที่ใหญ่ที่สุดของโลก ชะลอตัวลงในระยะสั้น
-
kaohoon
GCAP GOLD แนะกลยุทธ์ย่อซื้อ “ทองคำ” แนวรับ 3,850–3,820 เหรียญ 30/10/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินว่า ภาพรวมทองคำยังอยู่ในภาวะการพักฐานที่ยังไม่จบ และด้วยสัปดาห์นี้มีปัจจัยข่าวสำคัญที่นักลงทุนรอความชัดเจนทั้งประชุมเฟดและการเจรจาการค้าสหรัฐและจีน ซึ่งอาจหนุนหรือกดดันราคาทองได้พร้อมกัน จึงควรใช้กลยุทธ์อย่างระมัดระวัง โดยล่าสุดราคาทองถูกกดดันให้ปรับตัวลงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ฝั่งขาซื้อเหลือแนวรับสำคัญที่บริเวณ 3,850–3,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อพิจารณาเข้าซื้อ (ราคาทองคำไทยประมาณ 59,000–58,500 บาท) ซึ่งเป็นโซนแนวรับสำคัญสุดท้ายของฝั่งขาซื้อ และราคาไม่ควรหลุดระดับดังกล่าว เพราะหากหลุด อาจส่งผลให้กราฟรายเดือนเสียรูปการขึ้นและเข้าสู่ช่วงพักตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากกราฟสามารถยืนระยะได้บริเวณฐานดังกล่าว ก็มีโอกาสที่จะเริ่มสร้างโครงสร้างขาขึ้นระยะสั้น เพื่อให้สามารถขึ้นไปทำกำไรได้บริเวณ 4,000–4,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเทียบเท่าราคาทองคำไทยราว 61,300–62,800 บาท
-
thunhoon
“GCAP GOLD” ชี้ 2 ปัจจัยใหญ่ กำหนดทิศทางทองคำโค้งสุดท้าย 30/10/68
#ทันหุ้น –บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD มองทองคำสัปดาห์นี้จับตา 2 ปัจจัยสำคัญ ประชุมเฟด-เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน กำหนดทิศทางราคาทองโค้งสุดท้าย พร้อมประเมิน หากเฟดลดดอกเบี้ย หนุนราคาทองพุ่ง ส่วนข้อตกลงการค้าหากมีความคืบหน้าอาจกดดันทอง ได้เป็นระยะ ด้านนักวิเคราะห์แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อโซนแนวรับสำคัญ” นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้กลับมาอยู่ในจุดที่ตลาดทั่วโลกให้ความสนใจอีกครั้ง โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองคำในช่วงโค้งสุดท้ายของเดือนตุลาคม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของทองคำ เนื่องจากอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนและกดดันทองคำได้ในเวลาเดียวกัน ขณะเดียวกันตลาดกำลังจับตาการประชุมเฟดในคืนวันพุธที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงถึง 98% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังจากล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด โดยมีดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว และสถานการณ์ดังกล่าวจะสนับสนุนความคาดหวังว่าเฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อประคองเศรษฐกิจ และหากเฟดลดดอกเบี้ยตามคาดการณ์ ส่งผลให้เป็นปัจจัยบวกโดยตรงและเป็นแรงพยุงสำคัญต่อราคาทองคำ
-
mitihoon
“GCAP GOLD” ชี้สองปัจจัยใหญ่ตัวกำหนดทิศทางทองคำโค้งสุดท้าย 30/10/68
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD มองทองคำสัปดาห์นี้จับตา 2 ปัจจัยสำคัญ ประชุมเฟด-เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน กำหนดทิศทางราคาทองโค้งสุดท้าย พร้อมประเมิน หากเฟดลดดอกเบี้ย หนุนราคาทองพุ่ง ส่วนข้อตกลงการค้าหากมีความคืบหน้าอาจกดดันทอง ได้เป็นระยะ ด้านนักวิเคราะห์แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อโซนแนวรับสำคัญ” นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้กลับมาอยู่ในจุดที่ตลาดทั่วโลกให้ความสนใจอีกครั้ง โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองคำในช่วงโค้งสุดท้ายของเดือนตุลาคม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของทองคำ เนื่องจากอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนและกดดันทองคำได้ในเวลาเดียวกัน ขณะเดียวกันตลาดกำลังจับตาการประชุมเฟดในคืนวันพุธที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงถึง 98% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังจากล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด โดยมีดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว และสถานการณ์ดังกล่าวจะสนับสนุนความคาดหวังว่าเฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อประคองเศรษฐกิจ และหากเฟดลดดอกเบี้ยตามคาดการณ์ ส่งผลให้เป็นปัจจัยบวกโดยตรงและเป็นแรงพยุงสำคัญต่อราคาทองคำ
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ “ทองคำ” พักฐานชั่วคราว แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” 22/10/68
บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 2% หลังจากทำสถิติสูงสุดใหม่บริเวณ 4,380 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก่อนปิดตลาดที่ราว 4,250 ดอลลาร์ โดยแรงเทขายส่วนหนึ่งมาจากถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ส่งสัญญาณผ่อนปรนต่อการจัดเก็บภาษีสินค้าจีน โดยระบุว่า “การเก็บภาษีเต็มรูปแบบต่อจีนอาจไม่ยั่งยืน” ทำให้ตลาดคาดหวังถึงโอกาสการกลับมาเจรจาทางการค้าระดับรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ที่ประเทศมาเลเซีย และอาจขยายสู่การหารือระดับผู้นำช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคำในระยะสั้น นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ของ GCAP GOLD กล่าวว่า แม้ราคาทองคำเผชิญแรงขายทำกำไรจากสัญญาณเชิงบวกด้านการค้า แต่สถานการณ์ตลาดการเงินสหรัฐฯ กลับเริ่มเปราะบาง หลังธนาคารภูมิภาคหลายแห่ง เช่น Zions Bancorp และ Western Alliance Bancorp เผชิญความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อที่ถูกฉ้อโกงในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงด้วยการขายหุ้นกลุ่มธนาคารและหันกลับมาถือทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะข้างหน้า GCAP GOLD ระบุว่า ได้แก่ (1) ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI) ซึ่งหากออกมาสูงกว่าคาดอาจกดดันทองคำระยะสั้น แต่หากต่ำกว่าคาดจะช่วยหนุนความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) (2) ผลประกอบการธนาคารภูมิภาคสหรัฐฯ รอบใหม่ เช่น East West Bancorp, Western Alliance และ Zions ซึ่งหากออกมาแย่กว่าคาดอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในระบบการเงิน และ (3) ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยหากการหารือระหว่างทรัมป์กับนายสี จิ้นผิง มีแนวโน้มเชิงบวก อาจทำให้แรงซื้อทองคำลดลงชั่วคราว แต่หากเกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นจะยิ่งหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น
-
thunhoon
GCAP GOLD ชี้ทองย่อไม่หลุด $3,970 มีแรงไปต่อ! 22/10/68
#ทันหุ้น –บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLD ประเมิน ทรัมป์ แสดงท่าทีผ่อนปรนต่อการเก็บภาษีจีน สร้างความหวังเปิดทางเจรจา ทำราคาทองคำร่วงกว่า $300 หลังทำสถิติสูงสุดใหม่ $4,380 และธนาคารภูมิภาคเผชิญปัญหาฉ้อโกงการปล่อยสินเชื่อ พาตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปราะบาง หนุนทองคำกลับมาโดดเด่น พร้อมเฝ้าจับตาปัจจัยสำคัญ ได้แก่ CPI สหรัฐฯ, ผลประกอบการธนาคารภูมิภาค, และความคืบหน้าเจรจาสหรัฐฯ–จีน แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” แนวรับ $4,070 – $4,000 แนวต้าน $4,200 – $4,300 โดยแนวโน้มระยะกลางยังอยู่โซนบวก นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือGCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำร่วงลงกว่า 2% หลังจากพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่บริเวณ $4,380 ก่อนจะปรับตัวลงมาปิดที่ประมาณ $4,250 โดยแรงเทขายหลักมีปัจจัยจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีท่าทีผ่อนปรนต่อการจัดเก็บภาษีสินค้าจีน ซึ่งระบุว่า“การเก็บภาษีเต็มรูปแบบต่อจีนอาจไม่ยั่งยืน”และจากถ้อยแถลงดังกล่าว ทำให้แนวโน้มผ่อนคลายความตึงเครียดลง พร้อมสร้างความคาดหวังสู่การเปิดการเจรจาในระดับรัฐมนตรี ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ในสัปดาห์นี้ รวมถึงการเจรจาระดับผู้นำที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะกดดันราคาทองคำในระยะสั้น ขณะเดียวกัน นอกจากประเด็นการเมืองระหว่างประเทศแล้ว ทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังเผชิญและเริ่มส่งสัญญาณเปราะบางจากภาคการเงิน หลังจากมีรายงานว่าธนาคารภูมิภาคบางแห่ง เช่น Zions Bancorp และ Western Alliance Bancorp เผชิญความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อที่ถูกฉ้อโกงในกองทุนอสังหาฯ ที่มีปัญหา ซึ่งสร้างความวิตกว่าปัญหานี้อาจลุกลามสู่ระบบสินเชื่อในวงกว้าง ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเทขายหุ้นกลุ่มการเงินภูมิภาค เพื่อลดความเสี่ยงและเข้าไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น และคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้ทองคำกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
-
mitihoon
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมิน ทรัมป์ แสดงท่าทีผ่อนปรนต่อการเก็บภาษีจีน สร้างความหวังเปิดทางเจรจา ทำราคาทองคำร่วงกว่า $300 หลังทำสถิติสูงสุดใหม่ $4,380 และธนาคารภูมิภาคเผชิญปัญหาฉ้อโกงการปล่อยสินเชื่อ พาตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปราะบาง หนุนทองคำกลับมาโดดเด่น พร้อมเฝ้าจับตาปัจจัยสำคัญ ได้แก่ CPI สหรัฐฯ, ผลประกอบการธนาคารภูมิภาค, และความคืบหน้าเจรจาสหรัฐฯ–จีน แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อ” แนวรับ $4,070 – $4,000 แนวต้าน $4,200 – $4,300 โดยแนวโน้มระยะกลางยังอยู่โซนบวก นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำร่วงลงกว่า 2% หลังจากพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่บริเวณ $4,380 ก่อนจะปรับตัวลงมาปิดที่ประมาณ $4,250 โดยแรงเทขายหลักมีปัจจัยจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีท่าทีผ่อนปรนต่อการจัดเก็บภาษีสินค้าจีน ซึ่งระบุว่า “การเก็บภาษีเต็มรูปแบบต่อจีนอาจไม่ยั่งยืน” และจากถ้อยแถลงดังกล่าว ทำให้แนวโน้มผ่อนคลายความตึงเครียดลง พร้อมสร้างความคาดหวังสู่การเปิดการเจรจาในระดับรัฐมนตรี ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ในสัปดาห์นี้ รวมถึงการเจรจาระดับผู้นำที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะกดดันราคาทองคำในระยะสั้น ขณะเดียวกัน นอกจากประเด็นการเมืองระหว่างประเทศแล้ว ทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังเผชิญ และเริ่มส่งสัญญาณเปราะบางจากภาคการเงิน หลังจากมีรายงานว่าธนาคารภูมิภาคบางแห่ง เช่น Zions Bancorp และ Western Alliance Bancorp เผชิญความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อที่ถูกฉ้อโกงในกองทุนอสังหาฯ ที่มีปัญหา ซึ่งสร้างความวิตกว่าปัญหานี้อาจลุกลามสู่ระบบสินเชื่อในวงกว้าง ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเทขายหุ้นกลุ่มการเงินภูมิภาค เพื่อลดความเสี่ยงและเข้าไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น และคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้ทองคำกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
-
mitihoon
“GCAP GOLD” ชี้ทองคำส่อแววทะยานต่อ 3 ปัจจัยบวก สงครามการค้า – Government Shutdown – เฟดลดดอกเบี้ย 16/10/68
มิติหุ้น – GCAP GOLD ชี้ทองคำยังอยู่โซนบวก เปิดสัปดาห์ทำนิวไฮ รับแรงหนุน 3 ปัจจัยหลัก สงครามค้า, Government Shutdown และเฟดลดดอกเบี้ย แนะนำกลยุทธ์ถือสถานะฝั่งซื้อมาเดินหน้า Run Profit ส่วนระยะสั้นรอซื้อเมื่อย่อตัว ชี้หากราคาไม่หลุด $4,000 เป้าหมายถัดไป $4,250 นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำเปิดสัปดาห์ด้วยทิศทางบวกอย่างแข็งแกร่ง และในช่วงต้นสัปดาห์ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ สะท้อนถึงกระแสความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงหนาแน่น โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงสนับสนุนขาขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์ GCAP GOLD ประเมินว่า ภาพรวมราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก เนื่องจากราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับสำคัญที่ $4,000 และสามารถรักษาทิศทางในกรอบขาขึ้นได้อย่างมั่นคง ดังนั้นนักลงทุนที่ถือสถานะฝั่งซื้อมาสามารถ Run Profit ต่อได้
-
kaohoon
GCAP GOLD เปิด 3 ปัจจัยดัน “ทองคำ” ทะยานต่อ ลุ้นแตะ 4,250 เหรียญ 16/10/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำเปิดสัปดาห์ด้วยทิศทางบวกอย่างแข็งแกร่ง และในช่วงต้นสัปดาห์ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ สะท้อนถึงกระแสความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงหนาแน่น โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงสนับสนุนขาขึ้น 1.ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง : โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่เก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 100% เป็น 130% จากเดิม 30% และประกาศควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ ซึ่งมีผลวันที่ 1 พ.ย. 2568 ขณะที่จีนได้ทำการตอบโต้ทันที และพร้อมใช้มาตรการสวนกลับ ทำให้ตลาดกังวลว่าสงครามการค้ารอบใหม่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะมีท่าที อ่อนลง แต่ตลาดก็ยังคงมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และถือเป็นความเสี่ยง 2.ปัญหาการเมืองในสหรัฐฯ : โดยเฉพาะวิกฤต Government Shutdown ที่เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 และยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องงบประมาณ ขณะที่การเลิกจ้างเริ่มเกิดขึ้น ส่งผลให้ตลาดลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น
-
thunhoon
“GCAP GOLD”ชี้ 3 ปัจจัยหนุนทองคำทะยานต่อ เป้าหมายใหม่ 4,250 เหรียญ 16/10/68
#ทันหุ้น-GCAP GOLD ชี้ทองคำยังอยู่โซนบวก เปิดสัปดาห์ทำนิวไฮ รับแรงหนุน 3 ปัจจัยหลัก สงครามค้า, Government Shutdown และเฟดลดดอกเบี้ย แนะนำกลยุทธ์ถือสถานะฝั่งซื้อมาเดินหน้า Run Profit ส่วนระยะสั้นรอซื้อเมื่อย่อตัว ชี้หากราคาไม่หลุด $4,000 เป้าหมายถัดไป $4,250 นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLDเปิดเผยว่า ราคาทองคำเปิดสัปดาห์ด้วยทิศทางบวกอย่างแข็งแกร่ง และในช่วงต้นสัปดาห์ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ สะท้อนถึงกระแสความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงหนาแน่น โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงสนับสนุนขาขึ้น 1.ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง: โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่เก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 100% เป็น 130% จากเดิม 30% และประกาศควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ ซึ่งมีผลวันที่ 1 พ.ย. 2568 ขณะที่จีนได้ทำการตอบโต้ทันที และพร้อมใช้มาตรการสวนกลับ ทำให้ตลาดกังวลว่าสงครามการค้ารอบใหม่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะมีท่าทีอ่อนลง แต่ตลาดก็ยังคงมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และถือเป็นความเสี่ยง
-
mitihoon
GCAP เปิดตัวโดรนโดยสารไร้คนขับครั้งแรกในไทย 15/10/68
มิติหุ้น – GCAP เปิดตัวโดรนโดยสารอัจฉริยะไร้คนขับ รุ่น EH216-S จาก EHang พร้อมสาธิตทดสอบการบินครั้งแรกในไทย ชูใบรับรองความปลอดภัยระดับโลกจาก นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า GCAP เปิดตัวครั้งแรก “โดรนโดยสารไร้คนขับ” ในไทย พร้อมสาธิตทดสอบ การบินของอากาศยานไร้คนขับเพื่อการโดยสาร (Passenger Drone) รุ่น EH216-S จาก EHang Intelligence Equipment บริษัทเทคโนโลยีด้านการบินจากประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ถือเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการพลิกโฉมระบบการคมนาคมทางอากาศในเมืองและแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัท เต่า เอเอเอ็ม จำกัด (TAO AAM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GCAP พร้อมเดินหน้า แผนการดำเนินงาน เตรียมให้บริการโดรนโดยสารใน 5 เส้นทางท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ พัทยา, ภูเก็ต, สมุย, เกาะพะงัน, เกาะเต่า และขยายการให้บริการไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีศักยภาพ ในอนาคต เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่รวดเร็ว ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
thunhoon
GCAP ผนึกพันธมิตร เปิดตัวโดรนโดยสารไร้คนขับ บุก 5 เส้นทางท่องเที่ยวสำคัญ 15/10/68
#ทันหุ้น –GCAP เปิดตัวโดรนโดยสารอัจฉริยะ (Passenger Drone)ไร้คนขับรุ่น EH216-S จาก EHang พร้อมสาธิตทดสอบการบินครั้งแรกในไทย ชูใบรับรองความปลอดภัยระดับโลกจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ด้านสำนักงานการบินพลเรือนแห่ง ประเทศไทย (CAAT) ขานรับ หนุนกฎหมายรองรับโดรนโดยสารไร้คนขับเชิงพาณิชย์ ชี้เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต พาร์ทเนอร์มั่นใจศักยภาพธุรกิจ เทคโนโลยีโดดเด่นระดับโลก พลิกโฉมการเดินทางทางอากาศเพื่อ การท่องเที่ยว นำร่องบริการ 5 เส้นทางท่องเที่ยวหลัก พัทยา, ภูเก็ต, สมุย, เกาะพะงัน และเกาะเต่า พร้อมขยายโดรนให้บริการขนส่งอื่นๆ รองรับการขนส่งแห่งอนาคต นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือGCAPเปิดเผยว่า GCAP สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของนวัตกรรม โดรนโดยสารไร้คนขับ ในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวและสาธิตทดสอบ การบินของอากาศยานไร้คนขับเพื่อการโดยสาร (Passenger Drone) รุ่น EH216-S จาก EHang Intelligence Equipment บริษัทเทคโนโลยีด้านการบินจากประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ถือเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการพลิกโฉมระบบการคมนาคมทางอากาศในเมืองและแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัท เต่า เอเอเอ็ม จำกัด (TAO AAM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GCAP พร้อมเดินหน้า แผนการดำเนินงาน เตรียมให้บริการโดรนโดยสารใน 5 เส้นทางท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ พัทยา, ภูเก็ต, สมุย, เกาะพะงัน, เกาะเต่า และขยายการให้บริการไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีศักยภาพ ในอนาคต เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่รวดเร็ว ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ มองแผนขยายสู่ธุรกิจการให้บริการโดรนเพื่อการขนส่งเพิ่มเติม เช่น การขนส่ง ทางการแพทย์ การขนส่งพัสดุ การขนส่งสินค้าอาหาร เป็นต้น เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาวอย่างมั่นคง
-
mitihoon
GCAP GOLD เปิดมุมมอง “การลงทุนทองคำ” 14/10/68
มิติหุ้น – นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ผู้นำด้านทองคำรายใหญ่ของไทย ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการนำเข้าส่งออกทองคำแท่งของไทยกว่า 80 ปี ร่วมบรรยายพิเศษและให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนทองคำเบื้องต้น แก่นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 3 ณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะสินทรัพย์ที่มีความสำคัญและมีบทบาทในระบบเศรษฐกิจการให้ความรู้นี้มีเป้าหมายหลักในการขยายมุมมองและเพิ่มทักษะด้านการบริหารจัดการทางการเงินส่วนบุคคลให้กับว่าที่บุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง Web : https://www.mitihoon.com/ Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770 Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ 3 ปัจจัยกระตุ้น “ราคาทอง” ลุ้นทะลุ 4 พันดอลลาร์/ออนซ์ 08/10/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า หลังจากราคาทองคำพุ่งแรงทะลุระดับ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ท่ามกลางความคาดหวังว่ากระแสเงินลงทุนจะยังคงไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยและหากมีแรงหนุนต่อเนื่องราคาทองคำก็มีโอกาสแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นแรงหนุนจาก 1.) วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยการที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่รอบการปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ต้นทุนการถือครองทองคำลดลง พร้อมกระตุ้นความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยให้เพิ่มขึ้น 2.) เงินเฟ้อยังทรงตัวสูงกว่ากรอบเป้าหมายของเฟด ต่อกรณีดังกล่าวส่งผลให้ทองคำยังโดดเด่นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากการด้อยค่าของสกุลเงิน
-
mitihoon
“GCAP GOLD” ชี้ 3 ปัจจัยหนุนทองคำ ลุ้นแตะ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 08/10/68
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ส่งสัญญาณบวกราคาทองยังไปต่อ ลุ้นแตะ4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงหนุนดอกเบี้ยขาลง – เงินเฟ้อสูง – ดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ กองทุน ETF – ธนาคารกลางแห่สะสมเพียบ หนุนทองคำทะยานต่อ ด้านนักวิเคราะห์ แนะระยะสั้น จับตา “ชัตดาวน์สหรัฐฯ” อย่างใกล้ชิด ส่วนระยะกลาง-ยาว แนะนำกลยุทธ์ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว แนวรับ $3,800 นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า หลังจากราคาทองคำพุ่งแรงทะลุระดับ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความคาดหวังว่ากระแสเงินลงทุนจะยังคงไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย และหากมีแรงหนุนต่อเนื่องราคาทองคำก็มีโอกาสแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นแรงหนุนจาก “นอกจากนี้ การมีแรงซื้อจากภาคเอกชน โดยเฉพาะกองทุน ETF ยังกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเพิ่มการถือครองทองคำกว่า 100 ตัน ซึ่งสูงที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ประกอบกับธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเดินหน้าสะสมทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของทุนสำรองระหว่างประเทศ ขณะที่ประเทศจีนยังคงเดินหน้าเร่งผลักดันบทบาทของเงินหยวนและสร้างเครือข่ายการจัดเก็บทองคำในภูมิภาคเอเชีย เพื่อตอกย้ำสถานะของตัวเองในตลาดโลก”
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ทองคำผันผวน จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แนะรอซื้อ 58,700-58,500 บาท 02/10/68
นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวตามกระแสการเมืองและเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยการเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลกลางครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง แต่ยังสร้างบรรยากาศการลงทุนที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง โดยนักลงทุนกังวลว่าหากการปิดทำการยืดเยื้อ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่างตัวเลขการจ้างงาน (Nonfarm Payrolls) หรือดัชนีอื่น ๆ อาจล่าช้า ซึ่งจะทำให้ทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟดยิ่งคลุมเครือ ความไม่แน่นอนดังกล่าวเป็นปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้ในระยะสั้น ขณะเดียวกัน หากสามารถตกลงเรื่องงบประมาณกันได้ ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะตามมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากสภาวะชัตดาวน์เกิดขึ้นเพียงในระยะเวลาสั้น ๆ และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานยังเป็นไปตามกำหนดเดิมในคืนวันศุกร์ คาดว่าตลาดจะยังจับตาข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวเลขนี้ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญต่อทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟด โดยมีการคาดการณ์ว่าการจ้างงานเดือนล่าสุดจะเพิ่มขึ้นเพียง 50,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานน่าจะทรงตัวที่ 4.3%
-
mitihoon
GCAP GOLD ชี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนราคาทองคำ 02/10/68
มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินว่าทองคำยังคงเคลื่อนไหวตามข่าวการเมือง–เศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ภาวะ Government Shutdown ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) อาจถูกเลื่อนประกาศหรือระงับ หากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถเปิดทำการได้ ด้านนักวิเคราะห์แนะกลยุทธ์เก็งกำไรระยะสั้น รอย่อซื้อ $3,835 – $3,815 นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวตามกระแสการเมืองและเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยการเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลกลางครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง แต่ยังสร้างบรรยากาศการลงทุนที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง นักลงทุนกังวลว่าหากการปิดทำการยืดเยื้อ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่างตัวเลขการจ้างงาน (Nonfarm Payrolls) หรือดัชนีอื่น ๆ อาจล่าช้า ซึ่งจะทำให้ทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟดยิ่งคลุมเครือ ความไม่แน่นอนดังกล่าวเป็นปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้ในระยะสั้น ขณะเดียวกัน หากสามารถตกลงเรื่องงบประมาณกันได้ ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะตามมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากสภาวะชัตดาวน์เกิดขึ้นเพียงในระยะเวลาสั้น ๆ และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานยังเป็นไปตามกำหนดเดิมในคืนวันศุกร์ คาดว่าตลาดจะยังจับตาข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวเลขนี้ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญต่อทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟด โดยมีการคาดการณ์ว่าการจ้างงานเดือนล่าสุดจะเพิ่มขึ้นเพียง 50,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานน่าจะทรงตัวที่ 4.3%
-
mitihoon
GCAP GOLD แนะนักลงทุนทยอยเเบ่งขายทำกำไรทองคำที่ 57,000–57,300 บาท 25/09/68
มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ ราคาทองคำมีแนวโน้มทรงตัวในแดนบวก จากสัญญาณการลดดอกเบี้ยของเฟด พร้อมจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ถ้อยแถลง เฟด ส่งผลให้ราคาทองคำผันผวน ด้านนักวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์แบ่งขายทำกำไรที่ $3,800-$3,820 นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางบวก ถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่การคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยประคองราคาไว้ และมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป หากไม่มีข่าวลบใหม่เข้ามากดดัน สำหรับการประชุมเฟด ครั้งล่าสุดที่มีมติปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และส่งสัญญาณอาจลดอีกสองครั้งในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญให้ทองคำยังคงน่าสนใจ ถึงแม้ว่าประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จะกล่าวอย่างระมัดระวังและไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะกลับไปขึ้นดอกเบี้ย แต่ตลาดยังคงเชื่อว่าทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะเข้าสู่ช่วงผ่อนคลาย และนักลงทุนยังให้น้ำหนักสูงว่าการประชุมปลายเดือนตุลาคมนี้ ที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.25% โดยหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นปัจจัยหนุนราคาในระยะต่อไป
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้ทองสัปดาห์นี้ขาขึ้น รับแรงหนุน “เฟด”จ่อลดดอกเบี้ย 17/09/68
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางเชิงบวก โดยนักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ในคืนวันที่ 17 กันยายน 2568 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าเฟดจะเริ่มต้นวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย สอดคล้องกับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่สะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแรงลงและการจ้างงานที่ชะลอตัว ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งภายในปีนี้ หรืออาจมากถึง 3 ครั้ง หากแรงกดดันทางเศรษฐกิจยังคงรุนแรง ทั้งนี้ ตลาดยังจับตาคำแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดอย่างใกล้ชิด หากส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินอย่างจริงจัง จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับลดลง ซึ่งถือเป็นแรงหนุนโดยตรงต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม หากพาวเวลล์เลือกสื่อสารด้วยท่าทีระมัดระวังและชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ก็อาจก่อให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองยังคงมีน้ำหนักต่อการเคลื่อนไหวของทองคำ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กดดันเฟดให้เร่งลดดอกเบี้ย พร้อมทั้งยกระดับแรงกดดันต่อเวทีโลก ทั้งการเรียกร้องให้องค์การนาโต้ (NATO) ใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่อรัสเซีย และการเสนอเก็บภาษีสินค้าจีนสูงถึง 100% ซึ่งยิ่งเพิ่มบรรยากาศความไม่แน่นอนในตลาดโลก และส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
-
mitihoon
มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ ราคาทองคำมีแนวโน้มเชิงบวกต่อเนื่อง ลุ้นเฟด เริ่มวงจรการปรับลดดอกเบี้ย พร้อมจับตาผลการประชุมเฟดและคำแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ จุดเปลี่ยนสำคัญในการกำหนดทองคำช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ด้านนักวิเคราะห์ แนะ กลยุทธ์รอย่อตัวเข้าซื้อที่ $3,630 / $3,600 นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางเชิงบวก เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันที่ 17 กันยายน 2568 โดยมีความเป็นไปได้สูง ว่าเฟดจะเริ่มวงจรการปรับลดดอกเบี้ย ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานอ่อนแรงลง และการจ้างงานชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดเชื่อว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งภายในปีนี้ หรืออาจมากถึง 3 ครั้ง หากแรงกดดันเศรษฐกิจยังรุนแรง ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับคำแถลงหลังการประชุมของเจอโรม พาวเวลล์ โดยหากส่งสัญญาณพร้อมผ่อนคลายอย่างจริงจัง ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลดลง ซึ่งเป็นแรงหนุนโดยตรงต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามหาก พาวเวลล์ เลือกสื่อสารอย่างระมัดระวังและเดินเกมชะลอการลดดอกเบี้ย ก็อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
-
kaohoon
GCAP GOLD ชี้เฟด–ทรัมป์ ตัวแปรสำคัญดัน “ราคาทอง” พุ่ง วางกรอบ 3,555 -3,525 เหรียญ 10/09/68
นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลังจากทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือระดับ 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนนี้ ซึ่งความคาดหวังดังกล่าวจะดึงดูดกระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ได้เปรียบในช่วงดอกเบี้ยขาลง ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตา โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ เรื่องการโจมตีและแรงกดดันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเฟด ซึ่งทำให้ตลาดกังวลถึงเสถียรภาพและความเป็นอิสระของธนาคารกลางมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนจับตาคำตัดสินสำคัญเกี่ยวกับการถอดถอนผู้ว่าการเฟด ลิซา คุก โดยหากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจะยิ่งเป็นการตอกย้ำแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้ประเมินว่า หากเฟดสูญเสียความเป็นอิสระ ราคาทองคำอาจพุ่งแตะเกือบ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกทั้งตลาดทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดลง และเมื่อบวกเข้ากับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และการค้าโลกที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ภาพรวมทองคำยังเป็นบวก โดยเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจทั้งในระยะกลางถึงระยะยาว
-
oppday
-
mitihoon
GCAP GOLD ชี้ 3 ปัจจัยในสหรัฐฯ ป่วน หนุนราคาทองเด้ง 02/09/68
มิติหุ้น – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งสูง จากความไม่แน่นอนรอบด้านในสหรัฐฯ จาก 3 ปัจจัยหลัก อาทิ ทรัมป์ ใช้อำนาจเกินขอบเขตด้านนโยบายการค้า – เฟดถูกแทรกแซงทางการเมือง – ตัวเลขแรงงานในสหรัฐฯ ชะลอตัว ส่งสัญญาณบวก ดันราคาทองทะยานต่อ พร้อมแนะกลยุทธ์รอจังหวะย่อตัวเข้าซื้อที่ $3,445 / $3,415 นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะพุ่งขึ้นต่อและผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนรอบด้าน ล่าสุดชี้ 3 ปัจจัยหลักให้นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงินและแนวโน้มของทองคำ ได้แก่ สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแรง ถึงแม้ว่าเฟดยังคงกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แต่ตลาดมองว่า ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มถดถอย ส่งผลให้เฟดอาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินในระยะต่อไป ซึ่งถือเป็นบวกต่อราคาทองคำ
-
kaohoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
fin
-
kaohoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
set
การจัดตั้งบริษัทย่อย 17/06/68
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
oppday
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
set
-
kaohoon
-
mitihoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
set
มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น 28/04/68
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
set
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
oppday
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
mitihoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
fin
-
set
งบการเงิน ประจำปี 2567 (ตรวจสอบแล้ว) 26/02/68
-
set
-
set
-
kaohoon
-
mitihoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
สำหรับงวดครึ่งปีแรก 2567 บริษัทฯ เผยผลงานควบคุม NPLs ของสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ อยู่ที่ 4.76% ตามเป้าหมาย ผลจากการควบคุมคุณภาพสินเชื่อและการติดตามและบริหารคุณภาพลูกหนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทฯ มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ ณ ครึ่งปีแรกของปี 2567 จำนวน 89.16 ล้านบาท มั่นใจภาพรวมยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งปี 2567 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% รับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างการเติบโตของรายได้สินเชื่อในภาคการเกษตร เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลเพาะปลูกและฤดูกาลเก็บเกี่ยว ทำให้เกษตรกรมีความต้องการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มสูงขึ้น
-
mitihoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
mitihoon
GCAP โชว์ผลงาน Q1/67 กำไรต่อเนื่องตามเป้า มั่นใจปี 67 ดันพอร์ตสินเชื่อใหม่โตทะลุ 30% 15/05/67
สำหรับไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ เผยผลงานควบคุม NPLs ของสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ได้ 4.17% ตามเป้า ผลจากการควบคุมคุณภาพสินเชื่อและการติดตามและบริหารคุณภาพลูกหนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทฯ มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่จำนวน 56.82 ล้านบาท มั่นใจภาพรวมยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งปี 2567 เติบโตไม่น้อยกว่า 30%
-
mitihoon
GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผ่านทุกวาระ 02/05/67
โดยในปี 2567 บริษัทพร้อมสานต่อกลยุทธ์ Lending & Non-Lending Business เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ แข็งแกร่ง และยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้เติบโตไม่น้อยกว่า 20%
-
thunhoon
-
mitihoon
มิติหุ้น – “บมจ.จี แคปปิตอล หรือ GCAP” บุ๊คงบงวดปี 2566 เติบโตตามเป้าหมาย เผยมีกำไรสุทธิ 14.82 ล้านบาท จากแนวโน้มความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มสูงขึ้น “อนุวัตร โกศล” ซีอีโอ เปิดแผนปี 2567 เตรียมขยายธุรกิจ พร้อมสานต่อกลยุทธ์ Lending & Non-Lending Business สร้างการเติบโตแข็งแกร่ง ตั้งธงปี 67 สินเชื่อใหม่โตเพิ่ม 30% พร้อมจัดทัพใหม่ ตั้งลูกหม้อ “นิธาน ชัยเนตร” นั่งรองกรรมการผู้จัดการ และ “พนิดา แจ้งกิจ” นั่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 14.82 ล้านบาท ผลจากการบริหารคุณภาพลูกหนี้อย่างใกล้ชิด และสามารถเก็บเงินค่างวดได้ตามเป้าหมาย ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จำนวน 181.76 ล้านบาท ลดลง 31.91 ล้านบาท หรือ 14.94% เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากบริษัทฯ มุ่งเน้นการคัดกรองคุณภาพลูกหนี้ใหม่อย่างใกล้ชิดและรัดกุม รวมถึงยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายต่อเนื่องต้นปี 2567 ขณะที่ต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 63.44 ล้านบาท ลดลง 22.81 ล้านบาท หรือ 26.45% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ 86.26 ล้านบาท จากการทยอยชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 98.54 ล้านบาท ลดลง 1.63 ล้านบาท หรือ 1.63% เมื่อเทียบกับงวดปี 2565 ที่ 100.18 ล้านบาท
-
mitihoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
GCA P พลิกกำไร ชี้สินเชื่อโต 2 เท่า 15/05/66
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
GCAP ปล่อยสินเชื่อโดรน รับไฮซีซันภาคเกษตร 20/09/65
ขณะที่เป้าหมายการขยายพอร์ตสินเชื่อ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตที่ 20% หรือมียอดปล่อยสินเชื่อปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มสินเชื่อคือภาคการเกษตร สำหรับทิศทางเกษตรกรรมในประเทศที่มีทิศทางที่ดี เพราะไตรมาส 2/2565 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการเกษตรมีแนวโน้มโดยรวมโตขึ้น 5.7% อีกทั้งประเทศอินเดียประกาศปรับขึ้นภาษีการนำเข้าข้าว ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวสูง และจะส่งผลต่อมาให้กับเกษตรกรมีผลผลิตที่ดีขึ้น
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
GCAP ขาย “สบายมันนี่” นำเงินใช้หนี้ 29/12/64
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
‘GCAP’เคาะแผนปี64 โฟกัสกลุ่มเกษตรกร 06/11/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
GCAP ร่วมงานจ้าวช้างรวมใจ 2020 12/02/63
-
kaohoon
GCAP ปักธงปี 63 สินเชื่อโต ลุยใช้เทคโนฯช่วยวิเคราะห์ลูกค้าคุม NPL 11/02/63
นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2563 คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2562 วางเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2563 ขยายตัว 20-30% โดยจะเน้นขยายฐานลูกค้าในสินเชื่อที่มีหลักประกันและสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลักเพราะยังมีโอกาสเติบโตสูง
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
GCAP ย้ำเป้ารายได้โต30% ลุยปล่อยสินเชื่อ 1.5 พันล. 13/05/62
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2562 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 20-30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 306.40 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อที่ 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ 75% สินเชื่อส่วนบุคคลและนิติบุคคลอีก 25% คาดการณ์สัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อจะเติบโตสูงขึ้นจากการขยายฐานลูกค้า
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
GCAP ใกล้จบดีลร่วมทุน เล็งกด NPL ลดต่ำกว่า 5% 22/04/62
ส่วนภาพรวมการเติบโตของรายได้จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2561 ที่มีรายได้ 306 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท ทั้งนี้คาดการเติบโตหากรวมทั้งบริษัทย่อย หรือบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ “สบายใจมันนี่” ร่วมกับ บริษัท 9F International Holding PTE. LTD (9F) เข้ามา คาดจะเติบโตเกิน 30% เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากบริษัทดังกล่าว โดยบริษัทถือสัดส่วน 51% ดังนั้นบริษัทจะรับรู้รายได้เข้ามาตามสัดส่วนการลงทุน
-
kaohoon
GCAP ร่วมงาน Opportunity Day 18/02/62
-
thunhoon
GCAPสินเชื่อเช่าซื้อโตสะพัด 12/02/62
ทั้งนี้บริษัทคาดทิศทางผลประกอบการปี 2562 จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2561 ที่มีรายได้ 306 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท ทั้งนี้คาดการเติบโตหากรวมทั้งบริษัทย่อย หรือบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ “สบายใจมันนี่” ร่วมกับ บริษัท 9F International Holding PTE. LTD (9F) เข้ามา คาดจะเติบโตเกิน 30% เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากบริษัทดังกล่าว โดยบริษัทถือสัดส่วน 51% ดังนั้นบริษัทจะรับรู้รายได้เข้ามาตามสัดส่วนการลงทุน
-
kaohoon
GCAP ฟื้นหรือยัง ? 09/02/62
-
thunhoon
GCAPเป้าสินเชื่อใหม่โต30% 07/02/62
นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรกลการเกษตร และให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงสินเชื่อประเภทอื่นๆกล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2562 คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2561 เบื้องต้นวางเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2562 ขยายตัว 25-30% โดยจะเน้นขยายฐานลูกค้าในสินเชื่อที่มีหลักประกันและสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก เช่น สินเชื่อสบายใจอันดามัน ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเรือท่องเที่ยว และสบายใจเกษตรกร สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตร เนื่องจากฐานลูกค้าปัจจุบันยังไม่มากทำให้มีโอกาสในการเติบโตสูง
-
thunhoon
GCAP ปี 62 ปักธงสินเชื่อใหม่โต 25-30% บอร์ดอนุมัติวันจอง-ชำระเงินหุ้นเพิ่มทุนเดือนนี้ 06/02/62
GCAP อวดผลงานปี 61 โกยกำไรสุทธิ 54.89 ลบ. หรือเติบโต 103.15 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 306.40 ลบ. เพิ่มขึ้น 54.28% ด้านบอร์ดไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังเพิ่ม 0.15 บาท/หุ้น ขึ้น Record Date วันที่ 14 ก.พ. 62 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 12 เม.ย. 62 ล่าสุดกำหนดเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนวันที่ 14-21 ก.พ.2562 พร้อมปักธงธุรกิจปี 62 สินเชื่อใหม่เติบโต 25-30% ลุยขยายฐานลูกค้าสินเชื่ออันดามัน-เกษตรกร อย่างต่อเนื่อง คุมเข้ม NPL ไม่เกิน 5% เผยความคืบหน้าตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ “สบายใจ มันนี่” ดีเดย์ผลิตภัณฑ์แรกไตรมาส 2 ปีนี้
-
kaohoon
GCAP ตั้งเป้าสินเชื่อปี 62 โต 30% รับแผนขยายฐานลูกค้า-คุมเข้ม NPL ต่ำกว่า 5% 06/02/62
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2562 นี้ คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2561 เบื้องต้นวางเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2562 ขยายตัว 25-30% โดยจะเน้นขยายฐานลูกค้าในสินเชื่อที่มีหลักประกันและสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก เช่น สินเชื่อสบายใจอันดามัน ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเรือท่องเที่ยว และสบายใจเกษตรกร สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตร เนื่องจากฐานลูกค้าปัจจุบันยังไม่มากทำให้มีโอกาสในการเติบโตสูง และคุมเข้ม NPL ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 5%
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
GCAPคุมเข้มNPL นำ AIประเมินสินเชื่อ ลดต้นทุนอัพรายได้ 25/12/61
นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2562 เติบโต 20% โดยจะเน้นขยายฐานลูกค้าในสินเชื่อที่มีหลักประกันและสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก เช่น สินเชื่อสบายใจอันดามันซึ่งเป็นบริการสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเรือท่องเที่ยว และสบายใจเกษตรกร สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตร เนื่องจากฐานลูกค้าปัจจุบันยังไม่มากทำให้มีโอกาสในการเติบโตสูง
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
GCAP ร่วมงาน Opportunity Day 24/05/61
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2561 18/04/61
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
GCAPดันสินเชื่อโตทะลุ60%โบรกอัพเป้ากำไรแตะ86ล้าน 13/03/61
ขณะที่ทิศทางผลประกอบการในปี 2561 คาดกำไร รายได้จะเติบโตสูงขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้ 198.60 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.02 ล้านบาท เนื่องจากภาคการเกษตรปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) คาดจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.1% จากสิ้นปี 2560 ที่ 3.5% จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และบริษัทจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพิจาณาเครดิตของลูกค้าอีกด้วย
-
kaohoon
GCAP ปักธงปีนี้ปล่อยสินเชื่อใหม่1.8 พันล้าน! กางแผนเพิ่มทุน RO ลดหนี้-แตกไลน์ธุรกิจใหม่ 12/03/61
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้ 1.80 พันล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 60% จากปีก่อนที่ 1.12 พันล้านบาท โดยสัดส่วนของพอร์ตสินเชื่อจะยังอยู่ระดับเดิม ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อรถเกี่ยวข้าวอยู่ที่ 60% และสินเชื่อส่วนบุคคล อยู่ที่ 40% ซึ่งในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะเปิดบริการใหม่ในตลาดคลองเตย
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
GCAP ร่วงกว่า 3% ฟากโบรกฯยังแนะซื้อ เคาะเป้า 10.80 บ. คาดกำไร Q4/60 โตแตะ 7.88 ลบ. 05/02/61
ด้าน บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (31 ม.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.80 บาท/หุ้น คาดไตรมาส 4/60 GCAP กำไรเติบโต 14% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 26% จากปีก่อน คาดกำไรไตรมาส 4/60 GCAP ที่ 7.88 ลบ. โดยปัจจัยหลักๆมาจากคาด New Loans ที่ 481 ลบ. เติบโต 53% จากปีก่อน จากการเข้าสู่ High Season ของรถเกี่ยวนวดข้าวและสินเชื่อสบายใจตลาดที่เริ่ม Launch ช่วงไตรมาส 3/60 จำนวน 4 ตลาด ได้แก่ ตลาดคลองเตย,ตลาดปัฐวิกรณ์,ตลาดบางพลี และตลาดพะเยา
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon