บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
GFPT กำไร Q2/68 พุ่งเกินคาด! INVX ชี้เป้ามาร์จิ้นหนุน SOTP ที่ 11.5 บาท
P/E 5.22 YIELD 2.02 ราคา 9.90 (0.00%)
GFPT โชว์ผลงาน Q2/68 กำไรสุทธิสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย หนุนโดยอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ที่ดีขึ้น โบรกเกอร์ INVX ยังคงคำแนะนำ "NEUTRAL" พร้อมให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 11.5 บาท อิงตามวิธี SOTP (Sum of The Parts) โดยประเมินจาก PE ratio ที่ 5-7 เท่าสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และอาหาร
ผลประกอบการที่น่าจับตา
กำไรสุทธิ Q2/68 อยู่ที่ 642 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY (เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ 1% QoQ (เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า) สูงกว่าที่ INVX คาดการณ์ไว้ถึง 9% ปัจจัยหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายภาษีที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรปกติจะอยู่ที่ 664 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 6% QoQ
การเติบโตของกำไรปกติ YoY มาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A (ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร) ต่อรายได้ที่ลดลง และอัตราภาษีที่ลดลง (13% ใน Q2/68 เทียบกับ 18% ใน Q2/67) ซึ่งชดเชยส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ลดลง ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 1% YoY จากยอดขายธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ดีขึ้น (+14% YoY) หักล้างยอดขายธุรกิจอาหาร (-5% YoY) และอาหารสัตว์ที่ลดลง (+6% YoY)
ข้อสังเกตและประเด็นสำคัญ
INVX ระบุว่ากำไรใน Q3/68 มีแนวโน้มลดลง QoQ แต่ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY จากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้น เนื่องจากการต้นทุนอาหารสัตว์ที่ต่ำ และการส่งออกสินค้ามาร์จิ้นสูงไปยังญี่ปุ่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนแรงงานชาวกัมพูชา (ซึ่งคิดเป็น 10-12% ของแรงงานทั้งหมด) อาจส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตและมาร์จิ้น หากสถานการณ์ยืดเยื้อ
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้อนุมัติร่างข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการทยอยลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้าวโพด ซึ่งอาจเป็นผลบวกต่อต้นทุนการผลิตของ GFPT ในอนาคต แต่ INVX ยังไม่ได้รวมปัจจัยนี้ในการประมาณการ เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนเกี่ยวกับโควตานำเข้าและไทม์ไลน์ที่แน่นอน
สรุปและคำแนะนำ
โดยสรุป INVX มองว่า GFPT ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการขยายตลาดส่งออกไปยังญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ปัญหาแรงงานและนโยบายการค้าใหม่ๆ ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด INVX จึงยังคงคำแนะนำ "NEUTRAL" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 11.5 บาท อิงตามมูลค่าพื้นฐานของธุรกิจ