บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
BANPU: หยวนต้าคาด Q2/2568 ฟื้นตัวจากธุรกิจไฟฟ้า คงคำแนะนำ "TRADING"
P/E -100.00 YIELD 6.05 ราคา 4.96 (0.00%)
บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์หุ้นบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU โดยคาดการณ์ผลประกอบการ Q2/2568 จะฟื้นตัวจากธุรกิจไฟฟ้า พร้อมคงคำแนะนำ "TRADING" ที่ราคาเหมาะสม 4.70 บาท
ไฮไลท์สำคัญ:
- คาดผลประกอบการ 2Q25 ขาดทุนสุทธิ 179 ล้านบาท พลิกจากกำไรใน 2Q24 แต่ขาดทุนลดลง QoQ
- ธุรกิจไฟฟ้าหนุนผลประกอบการฟื้นตัว QoQ จากแผนหยุดซ่อมบำรุงลดลง อุปสงค์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล กำไร Hedging และปริมาณผลิตเหมืองในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น
- แนวโน้ม 3Q25 ทยอยดีขึ้น QoQ จากธุรกิจไฟฟ้าที่แข็งแกร่ง เหมืองในอินโดนีเซียฟื้นตัว และขาดทุน FX ลดลง
ผลประกอบการ Q2/2568:
หยวนต้าคาดการณ์ว่า BANPU จะขาดทุนสุทธิ 179 ล้านบาทใน 2Q25 พลิกจากกำไร 937 ล้านบาทใน 2Q24 สาเหตุหลักมาจากราคาถ่านหินนิวคาสเซิลในตลาดโลกชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับ 1Q25 โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจไฟฟ้าที่ฟื้นตัว รวมถึงคาดว่าจะมีกำไร Hedging และการกลับรายการ Deferred Tax เข้ามาชดเชยผลกระทบจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ต่ำลง
- ธุรกิจถ่านหิน: คาดประคองตัว QoQ โดยเหมืองถ่านหินในออสเตรเลีย (CEY) มีปริมาณผลิตเร่งตัวขึ้น แต่ถูกชดเชยด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำลงและผลการดำเนินงานของเหมืองอินโดนีเซีย (ITM) ที่อ่อนแอลง
- ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ: คาดอ่อนแอลง QoQ ตามราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่ลดลง
- ธุรกิจไฟฟ้า: คาดผลการดำเนินงานดีขึ้นโดดเด่น QoQ จากโรงไฟฟ้าหงสา, BLCP, Temple I&II ที่มีการผลิตราบรื่นหลังผ่านช่วงหยุดซ่อมบำรุง
ข้อสังเกตและแนวโน้ม:
สำหรับแนวโน้ม 3Q25 หยวนต้าคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัว QoQ อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยหนุนจาก:
- ธุรกิจไฟฟ้ายังแข็งแกร่ง หนุนด้วยอุปสงค์ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อน
- การฟื้นตัวของธุรกิจเหมืองในอินโดนีเซียจากสภาพอากาศเอื้อต่อการผลิตมากขึ้น
- การเร่งตัวของราคาถ่านหิน
- ขาดทุน FX จำนวนมากไม่เกิดขึ้นจากค่าเงินบาทเริ่มประคองตัว
นอกจากนี้ คาดว่าผลประกอบการ 4Q25 จะเร่งตัวขึ้นตามทิศทางราคาพลังงานช่วง High Season ของความต้องการใช้ในฤดูหนาว
คำแนะนำและราคาเป้าหมาย:
หยวนต้าคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ที่ 3.5 พันล้านบาท และคงคำแนะนำ "TRADING" ราคาเหมาะสม 4.70 บาท โดยใช้ Valuation Methodology PBV @ 0.4x (Discount -1.75 SD) เชิงกลยุทธ์มองว่ายังไม่ต้องรีบซื้อ โดยอาจรอจังหวะทยอยสะสมเพื่อลุ้นการฟื้นตัวช่วง 4Q25 อีกครั้งหลังรายงานผลประกอบการวันที่ 13 ส.ค.