https://aio.panphol.com/assets/images/community/7624_24269B.png

GFPT กำไร Q2/68 โต YoY แต่แผ่ว QoQ จับตา High Season หนุน Q3

P/E 5.22 YIELD 2.02 ราคา 9.90 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ:

GFPT คาดกำไรปกติ Q2/68 ที่ 594 ล้านบาท โต 6% YoY จากมาร์จิ้นที่สูงขึ้น แต่ลดลง 5% QoQ เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง ASPS แนะนำ "Outperform" ราคาเป้าหมาย 11.80 บาท อิง PER 8 เท่า มองราคาหุ้นมี upside 26%

กำไร Q2/68:

ASPS คาดการณ์กำไรปกติ Q2/68 ของ GFPT ที่ 594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY แม้ปริมาณส่งออกไก่จะลดลงเล็กน้อย แต่ได้แรงหนุนจากกลยุทธ์เน้นขายสินค้ามูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรป (40% ของการส่งออกทั้งหมด) นอกจากนี้ธุรกิจอาหารสัตว์มีการเติบโต โดยเฉพาะอาหารสัตว์น้ำและอาหารกุ้ง ส่งผลให้รายได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 4.83 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้น 4% QoQ ประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้นจากราคาขายที่ดีขึ้นและต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง โดยเฉพาะกากถั่วเหลือง คาดว่าจะผลักดัน Gross Margin เพิ่มเป็น 15.9% จาก 14.2% ในปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอ่อนตัวลง 26% YoY และ 36% QoQ เหลือ 205 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากกำไรของบริษัทร่วม GFN ลดลง เนื่องจากราคาขายในประเทศลดลง โดยเฉพาะราคาโครงไก่ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตที่ลดลง

แนวโน้ม Q3/68:

ASPS คาดว่ากำไร Q3/68 จะยังคงเติบโต YoY และยืนในระดับสูงใกล้เคียงกับ Q2/68 เฉลี่ยอยู่ที่ +/- 600 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของการส่งออก คาดว่าปริมาณการส่งออกจะไม่ต่ำกว่า 8.5 พันตัน แม้ว่าจะลดลงจากฐานสูง 9.5 พันตันในปีก่อน แต่คาดว่าจะชดเชยได้ด้วยราคาขายที่ดีขึ้นจากการเน้นขายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงยังได้รับประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะกากถั่วเหลือง

นอกจากนี้ ราคาไก่เป็นในประเทศล่าสุดเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากเฉลี่ย 40 บาท/กก. ใน Q2/68 เป็น 41 บาท/กก.

สรุป:

ASPS คงคำแนะนำ "Outperform" สำหรับ GFPT โดยมีมูลค่าพื้นฐานปี 2568 ที่ 11.80 บาท ราคาหุ้นมี upside 26% และมี PER ซื้อขายเพียง 6-7 เท่า นอกจากนี้ ASPS มองว่าประเด็น US Tariff จะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ GFPT เนื่องจากไม่มีการส่งออกไก่ไปยังสหรัฐฯ แต่จะได้รับประโยชน์หากมีการเปิดตลาดนำเข้าข้าวโพด-กากถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนการเลี้ยงมีโอกาสต่ำลง

โพสต์ล่าสุด