UREKA: มองหาโอกาสในวิกฤต เศรษฐกิจผันผวน สร้างรายได้ 300 ล้าน ปี 2568

P/E 25.90 YIELD 0.00 ราคา 0.38 (0.00%)

UREKA: มองหาโอกาสในวิกฤต เศรษฐกิจผันผวน สร้างรายได้ 300 ล้าน ปี 2568

สวัสดีครับ ผมนายปิยพจน์ ใกล้จำลอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ขอเล่าถึงความเป็นมาของบริษัทให้ผู้ถือหุ้นรับทราบก่อนนะครับ

วิสัยทัศน์ของบริษัทคือ ยูเรก้าจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยใช้กลยุทธ์การเจริญเติบโตแบบมุ่งกระจายธุรกิจ เพื่อมุ่งเน้นการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่บริษัทมีพอร์ตการลงทุนกระจายในกลุ่มธุรกิจที่มีความหลากหลาย ความสำเร็จจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ การบริหารจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ผ่านการจัดตั้ง การกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารความเสี่ยง เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการสร้างรายได้ สร้างกำไร และเสริมสร้างการเติบโตของกลุ่มบริษัท พร้อมทั้งพัฒนาปรับปรุงด้านต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

เพื่อให้ผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น และการเจริญเติบโตควบคู่กับสิ่งแวดล้อม สังคม และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท สำหรับเป้าหมายในการเพิ่มรายได้และความสามารถในการทำกำไรสำหรับปี 2568 บริษัทมุ่งเน้นในการสร้างความสามารถในการสร้างรายได้ ความสามารถในการทำกำไร รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยกำหนดดัชนี การวัดประสิทธิภาพให้กับกลุ่มบริษัทและหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ทุกหน่วยงานของกลุ่มบริษัทดำเนินงานด้วยเป้าหมายเดียวกัน และจะใช้ดัชนีวัดประสิทธิภาพดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการประเมินผลงานของแต่ละกลุ่ม

และกลุ่มบริษัท ยังดำเนินการวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงทางธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มบริษัทจะสามารถสร้างรายได้และกำไรอย่างยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ บริษัท ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น และสร้างประสิทธิภาพในการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต เพื่อเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการสร้างรายได้ และกำไร และเสริมสร้างการเติบโตของกลุ่มบริษัท

เป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ผู้บริหารและพนักงานทุกคนของบริษัท ได้ยึดมั่นและตระหนักดีถึงนโยบายเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกระดับ สร้างมูลค่าเชิงบวกให้เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงด้านเศรษฐกิจ แต่เป็น 3 องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลดผลกระทบเชิงลบ ที่มีต่อทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเงินธุรกิจ ของกลุ่มบริษัท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงได้ส่งเสริมให้บริษัทดำเนินกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อส่วนต่อผู้ที่มีส่วนได้เสียและสังคมในทุกๆ มิติที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมายในการตอบแทนของผู้ถือหุ้น บริษัทมีนโยบาย ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ในรูปของการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ในแต่ละงวดบัญชีหลังจากหักสำรองตามกฎหมาย และขาดทุนสะสมยกมาแล้ว ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสด แผนการลงทุนในโครงการต่างๆ รวมถึงความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคต ตามผลประกอบการในแต่ละปี โดยยึดแนวทางและเป้าหมายธุรกิจระยะยาว เพื่อให้กลุ่มธุรกิจภายใต้บริษัท สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนและมั่นคงให้กับผู้ถือหุ้น

เป้าหมายในการเพิ่มการตอบแทนต่อสังคม บริษัทมีนโยบายการเงินธุรกิจ เคียงคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม และขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีระบบการควบคุมกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ คู่กับการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายในการร่วมเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนสังคมไทย ให้เกิดการพัฒนาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนต่อไป

บริษัทมีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยการปรับเปลี่ยนแผนการ ในการเลือกใช้วัตถุดิบ วัสดุอุปกรณ์ ในการปฏิบัติงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดำเนินการในการปรับตัว แลกเปลี่ยนทัศนคติของ บุคลากร และบุคคลใน ในบริษัทในการลด และการใช้พลังงาน และใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด และคุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เป้าหมายในการพัฒนาบุคลากร บริษัทจะเติบโตได้ด้วยการมีบุคลากรที่มีคุณภาพ บริษัทให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอย่างมาก บุคลากรของบริษัทจะต้องมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนบริษัทไปสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างกระบวนการที่จะมุ่งเปลี่ยนแปลงและพัฒนาวิธีการทำงาน ความรู้ ความสามารถ การจัดการ รวมทั้งทักษะและทัศนคติของบุคลากร

จากการวิเคราะห์ยอดขายและรายได้ที่ผ่านมา พบว่ารายได้หลักของบริษัท ได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2563 จากเดิมบริษัท มีรายได้หลักจากงานสินค้าเครื่องจักร เพื่อตอบสนองกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดภาวะซบเซาในภาพรวมของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่ปี 2560 โครงสร้างรายได้ของบริษัทจึงมีการเปลี่ยนแปลง โดยผ่านกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และการมุ่งเน้นแหล่งที่มาของรายได้ที่ยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง

โดยในปัจจุบัน บริษัท ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มั่นคง ได้แก่ ธุรกิจสัมปทานน้ำประปาระยะยาว 10 ปี ให้กับการประปาส่วนภูมิภาค ที่ได้เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจน้ำประปามีความเสถียร จากปริมาณขั้นต่ำที่ระบุในสัญญา นอกจากนี้ บริษัท ดำเนินธุรกิจ โดยการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง มีตลาดการเติบโตอย่างชัดเจน ได้แก่ ธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิล

บริษัทจึงดำเนินการวิเคราะห์จากสภาพ รวมของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมรวมของไทย และภาพรวมอุตสาหกรรมพลาสติก ที่แสดงให้เห็นถึงด้าน ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน ของธุรกิจพลาสติกรีไซเคิล สำหรับรายละเอียดของธุรกิจที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท ในกลุ่มบริษัท มีรายละเอียดดังนี้

  1. ธุรกิจผลิตและก็จำหน่ายน้ำดื่ม กลุ่มบริษัทได้เข้ามา ครับ กลุ่มบริษัทได้เข้าลงนามผูกพันสัญญากับการประปาส่วนภูมิภาค จำนวน 2 สัญญา คือสัญญาซื้อขายประปา เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ณ สถานีจ่ายน้ำหนองคา การประปาส่วนภูมิภาค สาขานิคม มูลค่าโครงการ 521 ล้าน 220,000 บาท และสัญญาซื้อขายน้ำประปา เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ณ สถานี จ่ายน้ำพันทอง การประปาสูภูมิภาค สาขานิคม มูลค่าโครงการ 520,344,000 บาท โดยทางบริษัทดำเนินการผลิต และจำหน่ายน้ำประปาให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลนน้ำประปา เป็นการทำสัญญาจำหน่ายน้ำประปากับการประปาสูภูมิภาค และมีปริมาณ การรับซื้อขั้นต่ำที่กำหนดไว้ในสัญญา
  2. สำหรับธุรกิจที่ 2 นะครับ จะเป็น ธุรกิจผลิตและก็จำหน่ายเม็ดพลาสติก รีไซเคิล กลุ่มบริษัท ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกรีไซเคิล โดยจุดเริ่มต้นของธุรกิจเกิดจากการตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่มีต่อที่เกิดจากขยะที่มี ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และการตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจรีไซเคิล การนำพลาสติกที่ใช้แล้ว มาก่อให้เกิดประโยชน์ อย่างคุ้มค่าอีกครั้ง โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียน สำหรับการใช้พลาสติกที่ดี และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อสังคม และเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตไป ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมไม่พลาสติก มาตลอดระยะเวลา กว่า 21 ปี ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI เลขที่ 2536 วงเล็บ 5/2554 บริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการ เลือกสรรวัตถุดิบ ทำให้สามารถจัดคัดสรรและก็จัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพที่ดีในราคาที่เหมาะสมจากคู่ค้าทั่วโลก

ต่อไปจะเป็นการรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1/2568 สำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  1. สรุปผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน ไตรมาสที่ 1/2568
  2. รายได้แยกตามประเภทธุรกิจ รายได้จากการจำหน่ายพลาสติก
  3. รายได้แยกตามประเภทธุรกิจ รายได้จากการจำหน่ายน้ำประปา
  4. งบแสดงฐานะการเงิน ณ 31 มีนาคม 2568 และ 31 ธันวาคม 2567

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 3 เดือน ในไตรมาสที่ 1/2568 และไตรมาสที่ 1/2567 โดยสำหรับไตรมาสที่ 1/2568 มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสจำนวน 2.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 4% โดยเมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานโดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นตัวเงิน จะทำให้ EBITDA ของบริษัทอยู่ที่ 7.28 ล้านบาท สำหรับไตรมาสที่ 1/2567 มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสจำนวน 20.14 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 28% โดยเมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานโดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นตัวเงิน จะทำให้ EBITDA ของบริษัทอยู่ที่ 25.40 ล้านบาท โดยมีสาระสำคัญดังนี้

  1. บริษัทมีรายได้สำหรับไตรมาส 1/2568 จำนวน 56.12 ล้านบาท ลดลง 15.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 71.33 ล้านบาท รายได้หลักของธุรกิจในปัจจุบันประกอบด้วยธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิลและธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา โดยรายได้จากการผลิตและจำหน่ายพลาสติกรีไซเคิลเป็นจำนวนเงิน 28.98 ล้านบาท และรายได้จากการผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค ตามสัญญาซื้อขายน้ำประปา เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ณ สถานีจ่ายน้ำพันทองและสถานีจ่ายน้ำหนองคา รวมเป็นจำนวนเงิน 25.25 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่รายได้จากการขายและการให้บริการลดลง เกิดจากยอดขายพลาสติกรีไซเคิลชะลอตัว เมื่อเทียบเทียบกับปริมาณการสั่งซื้อของปีที่แล้ว และการชะลอตัวของการเติบโตของ เศรษฐกิจในภาพรวม อีกทั้งปริมาณการขายและราคาขายค่อนข้างผันผวน ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต และก็รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากนโยบายเรื่องของสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับ อ่า นโยบาย เกี่ยวกับเรื่องของการห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ ทำให้ปริมาณการผลิตภายในประเทศลดลง จึงส่งผลกระทบกับตัวของรายได้ของปริมาณการขาย แล้วก็เรื่องส่วนของต้นทุนในการขาย
  2. บริษัทมีต้นทุนขายและการให้บริการสำหรับไตรมาส 1 ที่ 1/58 เป็นจำนวนเงิน 40.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.38 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีต้นทุนขายและการให้บริการจำนวน 36.87 ล้านบาท สาเหตุจากต้นทุนขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายพลาสติกที่ลดลง ในขณะที่ต้นทุนการขายเพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการวัตถุดิบ การคัดสรรวัตถุดิบที่ดีส่งผลให้สามารถ ลดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าราคาต้นทุนด้านพลังงานต่อหน่วยจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท ยังคงรักษาระดับอัตราต้นทุนขายต่อรายได้ และมีแผนจะปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการควบคุมต้นทุนขายและการให้บริการต่อไป ถึงแม้ว่าในปี 2568 เนี่ยจะมีผลกระทบเรื่องของนโยบาย เรื่องของการห้ามนำเข้าพลาสติกไซเคิล ตัวนี้จะเป็นตัวเหตุผลหลักที่จะกระทบกับต้นทุน ทำ ให้ต้นทุน การผลิตในประเทศเนี่ย ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากปริมาณของพลาสติกรีไซเคิลเนี่ย ภายในประเทศเนี่ยมีปริมาณจำกัด แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็พยายามวางแผนที่จะ อ่า หาต้น หาแหล่งวัตถุดิบใหม่เพื่อลดต้นทุน ทำให้บริษัทมีกำไรกลับมาเพิ่มมากขึ้น
  3. บริษัทมีต้นทุนในการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหาร สำหรับไตรมาสที่ 1/2568 จำนวนเงิน 8.59 ล้านบาท ลดลง 0.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 5 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีต้นทุนขายและการให้บริการจำนวน 9.06 ล้านบาท การลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญเกิดจากค่าใช้จ่ายในการส่งออกลดลง และเนื่องจากบริษัท มีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารได้ดียิ่งขึ้น จากการบริหารโครงการและพัฒนา ในส่วนของบุคลากรและทรัพยากรต่างๆ และอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามนโยบายของบริษัท
  4. บริษัทมีต้นทุนทางการเงินสำหรับไตรมาสที่ 1/2568 จำนวน 4.87 ล้านบาท ลดลง 0.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 12 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีต้นทุนทางการเงิน 5.09 ล้านบาท สาเหตุที่ต้นทุนทางการ เงิน ลดลง มาจากการปรับลดลงของต้นทุนเงินที่กู้ยืมจากธนาคาร ซึ่งในปีที่ผ่านมาเรามีการชำระคืน เงินกู้ยืมกับธนาคารเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ต้นทุนทางการเงินของเรามีการปรับตัวลดลง แล้วก็ในปีนี้เราก็จะมีแผนที่จะ ชำระคืนตัวของเงินต้นมากขึ้น จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินสำหรับปี 68 เนี่ย มีอัตราส่วนที่ลดลงไปอีกก็จะทำให้ตัวของงบกำไรขาดทุนเรามีกำไรสุทธิเพิ่มมากขึ้น

ในส่วนของวิเคราะห์รายได้แล้วก็ต้นทุนขาย สำหรับรายได้จากการขายเม็ดพลาสติก สำหรับปริมาณการขายพลาสติกในไตรมาสที่ 1/2568 มีจำนวน 28.98 ล้านบาท ลดลง 16.65 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาดูใน ในช่วงที่ผ่านมา 3 ปี จะเห็นว่าปริมาณการขายค่อนข้างผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ โดยในปี 2568 อุตสาหกรรมพลาสติกไทยครับ เผชิญกับทั้งโอกาสและความท้าทาย โดยมีปัจจัยด้านที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน ในอุตสาหกรรมนี้ในเชิง เศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและข้อกำหนดทางสิ่งแวดล้อมที่ เข้มงวดมากขึ้น ในปี 2568 อ่า สำหรับในกลุ่มของธุรกิจผลิตแล้วก็จำหน่ายพลาสติก สำหรับในปี 2568 ครับ เราอาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ค่อนข้างสำคัญ ก็คือเรื่องของนโยบายสิ่งแวดล้อม ที่จะเนื่องจากว่านโยบายสิ่งแวดล้อมตัวเนี้ย เป็นการห้ามนำเข้า อ่า เศษพลาสติกสำหรับ อ่า ภายในประเทศอีก ซึ่งเศษพลาสติกรีไซเคิลพวกนี้ครับ เป็นวัตถุดิบหลัก ในการนำมาผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลเพื่อนำขายส่งออกไปต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเมื่อมีการห้ามนำเข้า เท่ากับ เมื่อมีการห้ามนำเข้า ทำให้ปริมาณเนี่ย ซึ่งในประเทศไทยครับปริมาณ พลาสติกรีไซเคิลในประเทศไทย เรามีปริมาณไม่เพียงพอกับการผลิตอยู่แล้ว จึงทำให้ต้องมีการนำเข้าแต่พอมี มีเรื่องของนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ออกมา ทำให้ตัวของวัตถุดิบในประเทศเนี่ย ที่เรามีอยู่ไม่เพียงพอ แล้วก็ปรับมีการปรับตัว เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทอาจจะมีผลกระทบเรื่องของต้นทุนขาย ที่ต้องปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามปริมาณความต้องการเศษพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งในปัจจุบันทางบริษัทก็กำลังวางแผนแล้วก็ปรับ ตัว ปรับกลยุทธ์ เพื่อที่จะทำให้ ต้นทุนขายของเราไม่มีการกระทบมากขึ้น ก็ในส่วนตรงนี้ก็มีการวางแผนแล้วก็ประชุม ค่อยๆ ปรับเพราะว่าเนื่องจากตรงนี้อาจจะเป็น ต้องรอดูผล กระทบอาจจะเป็นวงกว้างขนาดไหนแล้วก็ ปริมาณหมุนเวียนภายในประเทศมีปริมาณขนาดไหนในส่วนของ Second

สำหรับรายได้ แล้วก็ต้นทุนขายสำหรับรายได้จากการผลิตแล้วก็จำหน่ายน้ำประปา สำหรับรายได้จากการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในไตรมาสที่ 1/2568 มีจำนวน 25.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.06 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการ ปรับปรุงกระบวนการผลิต จึงทำให้สามารถ ผลิต จึงทำให้สามารถ ผลิตและผลิตน้ำปลาได้มากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการวัตถุดิบ การคัดสรรวัตถุดิบที่ดี ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการผลิตสินค้าได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าราคาต้นทุนด้านพลังงานต่อหน่วยจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท ยังคงรักษาระดับอัตราต้นทุนขายได้เป็นอย่างดี และมีแผนที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการควบคุมต้นทุนขายและการบริการต่อไป จากการบริหารจัดการต้นทุน จึงส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้น อ่า ถ้าเราดูในส่วนของธุรกิจ อ่า ผลิตและข้อสูนย์น้ำประปา จะเห็นว่ากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 1/2568 เนี่ย เรามีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 47.51 ครับ ถึงแม้ว่าในการผลิตน้ำประปาเลยครับต้นทุนอย่างเราเราเนี่ยจะเป็นเรื่องของค่าไฟฟ้ากับค่าสารเคมี ครับ ในส่วนในปีที่ผ่านๆ มา เราอาจจะศพบ ประสบปัญหา กับเรื่องของปัญหาน้ำดิบคุณภาพน้ำ ที่เราต้องทำให้เราต้องใช้สารเคมี หรือใช้ ไฟฟ้าในการผลิตเพิ่มมากขึ้น ครับ ซึ่งปัญหาต่างๆ เนี่ยถ้าเราดูจากที่เราผ่านมาจากในปี 2566 67 โอเค เรามีปัญหาที่กระทบ GP เราค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อ ณ ปัจจุบันเนี้ย ตั้งแต่ช่วงในช่วงของ อ่า ปลายปี 2567 เราได้แก้ปัญหาต่างๆ ว่าจะเป็นของปริมาณน้ำ ปัญหาคุณภาพน้ำ หรือ ปัญหาในเรื่องของกระบวนการผลิต ตอนเนี้ยเราควบคุมสารเคมีได้ดีขึ้น อ่า เราใช้ ไฟฟ้าในการผลิต และควบคุมปริมาณให้ดีขึ้นลดทำให้ต้นทุนในการผลิตเราอ่ะครับ ลดต่ำลง จึงส่งผลให้ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 257 เนี่ย GP เราอยู่ที่ 40.47 พอมาไตรมาสที่ 1/2568 นะครับ GP เราอยู่ที่ 47.51 จะเห็นว่าในกลุ่มของ ธุรกิจผลิตและข้อต้นน้ำประปาเนี่ย เรา เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วก็คาดว่าในปี 2568 เนี่ยครับ ในกลุ่มของเราประปาเนี่ยเราอาจจะมี GP ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ แล้วก็จะ มี กำไรขั้นต้นสูงขึ้นอย่างชัดเจน ครับ

ต่อไปนะครับจะเป็นเรื่องของ งบแสดงฐานะการเงิน และงบการเงินรวมของบริษัท โดยมีรายการที่มีสาระสำคัญดังนี้

  1. บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ 31 มีนาคม 2568 จำนวน 1,859.47 ล้านบาท แบ่งเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 184.98 ล้านบาท ซึ่งส่วนประกอบหลักได้แก่ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 16.70 ล้านบาท และลูกหนี้ค้างรับ รายได้ค้างรับ สินทรัพย์หุนเวียนอื่นๆ รวม 168.28 ล้านบาท และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นๆ จำนวน 1,674.49 ล้านบาท ซึ่งส่วนประกอบหลักของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นๆ ได้แก่ ที่ดินราคารูปกรณจำนวน 1,338.23 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมลดลงจำนวน 9.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 0.51 ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและสินค้าคงเหลือปรับตัวลดลง
  2. บริษัทมีหนี้สิน ณ 31 มีนาคม 2568 จำนวน 358.04 ล้านบาท ลดลงจำนวน 11.64 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3 จากหนี้สิน ณ 30 มีนาคม 2567 จำนวน 369.68 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน ที่ปรับตัวลดลง จากการจ่ายชำระหนี้เงินต้นให้กับธนาคุมของสถาบันการเงิน
  3. ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น มาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเนื่องจากผลการดำเนินงาน มีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีกำไรสะสม ณ 30 มีนาคม 2568 จำนวน 136.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.08 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสะสม ณ 31 ธันวาคม 2567 ที่มีกำไรสะสม 136.14 ล้านบาท

สำหรับส่วนของ ผลการดำเนินงาน แล้วก็ทัศนวิสัยของทางบริษัท ครับ ก็คือจะเป็น ชี้แจงไปจบถ้วนแล้ว ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของ เอ่อ คำถามนะครับ ตอนนี้มีคำถามเข้ามา 1 คำถามนะครับ ก็คือถามว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2568 จะดีกว่าไตรมาสที่ 2/2567 หรือไม่ มาจากสาเหตุใดครับ ตอนนี้อย่างที่ นะ ชี้แจงให้ทราบในส่วนของผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2568 เทียบกับไตรมาสที่ 1/2567 ครับ สำหรับในไตรมาสที่ 1 2 เนี่ย 2568 เนี่ยครับ อ่า ความท้าทายที่สำคัญของเรา ก็คือเรื่องของ นโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เรื่องของห้ามนำเข้าพลาสติกรีไซเคิลจากต่างประเทศ ซึ่งตัวนี้อย่างที่เคยเรียนแจ้งให้ทราบว่าเป็นเหตุผลหลัก เนื่องจากว่าตัวเนี้ย อ่า พลาสติกรีไซเคิลเนี่ย เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลของเรา มีองค์ประกอบหลักควบคู่กับตัวของน้ำมันดิบ ซึ่งปัจจุบันน้ำมันดิบก็โอเคราคาก็ปรับตัวตามราคาตลาด มีปรับขึ้นปรับลง จึงทำให้ยอดขายเราเนี่ย มีผลกระทบบ้าง แล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็คือ ในไตรมาส 1 มีผลกระทบจากนโยบายเรื่องของ นโยบายภาษีของทางสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับทางของจีน เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของเราเนี่ยจะเป็นลูกค้าที่เราส่งออกที่ประเทศจีน อ่า พอมีเรื่องของนโยบายเข้ามาเนี่ย อ่าทำให้ทางจีนเนี่ยมีการชะลอคำสั่งการผลิต พอทางจีนมีการชะลอกำลังการผลิต จึงส่งผลกระทบกับ ตัวของผลการดำเนินงาน เพราะว่าพอชะลอการผลิตการเรียกนำเข้าจากเราก็เลยมีปริมาณที่ลดลง พอ ลดลงปุ๊บมันจะส่งผลมันจะทำให้ในไตรมาสที่ 1 เนี่ยครับ ยอดขายเรามีการปรับตัวลดลงประกอบกับส่วนกระทบส่วนที่ 2 เรื่องของต้นทุน ต้นทุนในส่วนของราคาน้ำมันและต้นทุนในส่วนของ อ่า พลาสติกรีไซเคิลที่เป็นส่วนประกอบหลัก จึงทำให้ตัวของกำไร กำไร ของเราเนี่ยในไตรมาส 1 เนี่ยในส่วนของพลาสติกลดลง ครับ ในส่วนของธุรกิจที่เป็นเกี่ยวกับผลิต ปลาอย่างที่แจ้งทราบว่า เราตอนนี้เราแก้ปัญหาต่างๆ ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพน้ำ เรื่องของปริมาณน้ำ เรื่องของกระบวนการผลิต รวมถึง การบริหารจัดการระบบ น้ำทั้งหมด การจัดส่ง การจัดเก็บ การวางแผนเนี่ย อ่า ในช่วงปีที่ผ่านมาเนี่ยเรามีการแก้ไขปัญหา ต่างๆ เรื่องของกระบวนการจัดเก็บหรือกระบวนการ อ่า ขนส่งถ่ายเทน้ำต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วก็เป็นไปตามที่เราได้วางแผนไว้ จึงทำให้ตัวธุรกิจน้ำเนี่ยครับเรามีกำไร มีกำไรเติบโตมากขึ้น สามารถจำหน่ายน้ำได้มากขึ้น อ่า แต่โอเคในส่วนที่ถ้าถามว่าในไตรมาสที่ 2 เนี่ยจะมีผลประกอบการ ดีกว่าไตรมาสที่ 1 หรือไม่ เอ้ย ไตรมาสที่ 2 หรือไม่ ตรงเนี้ย อ่า เบื้องต้นในทางบริษัทต้องชี้แจง บอกว่าเราก็ตั้งเป้ารายได้แล้วก็ อ่า ผลประกอบการเนี่ยไม่น้อยกว่าไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 แต่อย่างที่เรียนให้แจ้งให้ทราบว่าในปีนี้ ในปีนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ ค่อนข้างยากลำบากเป็นความท้าทาย ถือว่าเป็นความท้าทายของบริษัท ที่ต้องเจอ ในเรื่องของ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ครับ ซึ่งถึงแม้ว่านโยบายตรงนี้เราพอจะทราบล่วงหน้าเรามีการวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว ในการเตรียมตัวที่จะรับมือกับตัวของนโยบายในส่วนนี้ ที่จะมีผลกับต้นทุน แล้วก็อาจจะกระทบกับยอดขายแล้วก็รวมถึงกำไรของบริษัท แต่เราก็ยังมีความมั่น คาดหวังว่าในปีเนี้ยเราจะทำกำร ทำยอดขายให้ ใกล้เคียงกับ อ่า ของไตรมาส 2 ปี 67 ให้ได้ แต่ว่าอาจจะมีในส่วนของต้นทุนเพราะว่าเป็นสิ่งที่ควบคุมค่อนข้างค่อนข้างยาก ครับเพราะว่ามันเป็นปัจจัยที่ สำคัญในบวนการผลิต ครับ ก็บริษัทก็ยังตั้งเป้าเอาไว้ว่าโอเคเราจะทำให้ไม่น้อยกว่าไตรมาส 2 ของปี 2567 ครับ ก็ตอนนี้ก็ยังดู ดูที่ว่าตัวเนี้ย อ่า ภาวะเศรษฐกิจด้วยส่วนหนึ่ง ก็ของจีนก็ช่วงไตรมาส 2 เนี่ย เขาก็เพิ่งเริ่มกลับมาเปิดรับออเดอร์ใหม่จากเรา ก็ทำให้ช่วงที่มีเรื่องของนโยบายภาษีเนี่ย มันทำให้ยอดขายของเราค่อนข้างปรับตัวค่อนข้างลดลง เพราะเค้าชะลอกำลังการผลิต ต้องมาดูว่าในส่วนของเนี่ยเค้าก็เริ่มผลิตปกติ จะมีการเรียกวัตถุดิบจากเราเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า ครับในส่วนคำถามต่อไปนะครับ ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ เท่า ไหร่ โอเคครับ สำหรับตัวของเป้าของรายได้ครับ อ่า ทาง ทางบริษัทเนี่ยครับ มองตัวของเป้ารายได้เนี่ย ออกมาเป็นเป็น 2 ส่วน ก็คือส่วนของ ธุรกิจน้ำประปา กับตัวของธุรกิจ อ่า เม็ดพลาสติก ก็งั้นเดี๋ยวขอพูดในส่วนของ กลุ่มของเป้าหมายในตัวของเม็ดพลาสติกนะครับ ในปีเนี้ย ซึ่งเราคาดการณ์เอาไว้ว่า อ่า จากภาวะเศรษฐกิจแล้วก็จากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ตัวของปริมาณวัตถุดิบนะครับที่หมุนเวียนภายในประเทศนะครับผลิตแล้วก็จำหน่ายเนี่ยน่าจะมีปริมาณลดลง ซึ่งคาดว่าน่าจะส่งผลกระทบกับตัวของ อ่าบริษัทบ้าง ครับ ในเรื่องของทั้งยอดขาย แล้วก็ทางกำไร แต่ว่า ทางบริษัทก็ยังมีความมั่นใจว่าถึงแม้ว่าปริมาณการขายเนี่ยอาจจะลดลงไปบ้างแต่เราก็จะพยายามควบคุมในส่วนของกำไรสุทธิของบริษัท ไม่ให้ลดลงหรือกระทบกับตัวของบริษัท อย่างมากส่วนของเป้าเนี่ยครับ อ่า รายได้ที่ ที่ชัดเจนเดี๋ยวของ ทา สั่ง แผน เดี๋ยวผมตีไว้กลมๆ ก็คือ รายได้เราน่าจะคาดหวังไว้ที่ของตัวกลุ่มของพลาสติกนะครับ ประมาณ 60 60 ล้าน ส่วนอีกกลุ่มธุรกิจนึงนะครับก็จะเป็นธุรกิจผลิตและก็จำหน่ายน้ำประปา โทษครับ ครับ ต่อไปจะเป็นตัวของธุรกิจที่ 2 คือผลิตแล้วก็จำหน่ายน้ำประปา นะครับอันเนี้ยอ่า ในปีนี้นะครับเรา เราคาดการณ์ตัวของ รายได้ครับของน้ำประปาไว้อะครับ ที่ประมาณ 100 ประมาณอ่าตีไว้ 122 ล้านในกลุ่มของรายได้จากการจำหน่ายน้ำประปานี่คือแผนนะครับส่วนรายได้ในกลุ่มของผลิตก็ จำหน่ายเม็ดพลาสติกนะครับ พลาสติกเนี่ยเราคาดการณ์ไว้ประมาณ 173 ล้าน ถ้าเรารวมทั้งทั้งสองโปรเจค จากแผนที่ทางฝ่ายบริหารครับได้วางไว้ ก็คาดการณ์รายได้ของปีนี้ อยู่ที่อ่าเป็นเลขกลมๆก็คือประมาณ 300 ล้านครับ อ่า ตอนนี้เดี๋ยวหมดคำถามถ้าดูมีคำถามเพื่ออีกไหมครับเดี๋ยวรอสักครู่นะครับ ถือว่ารอ ก็อย่างไรก็ตามนะครับเป้าหมายที่เราวางไว้ครับเราก็ตั้งใจที่จะทำให้ได้ตามที่เราวาง อาจจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าอันเนี้ย ก็อาจจะดูว่าปัจจัยแวดล้อมที่เราไม่สามารถควบคุมได้เนี่ย จะมีกระทบกับเราขนาดไหนอย่างที่ว่า อย่างในรอบนี้ก็จะเป็นเรื่องของ อ่า นโยบาย เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม อันนี้ที่กระทบกับทาง อ่าบริษัทโดยตรง ทำให้เรื่องของการจัดหาวัตถุดิบ ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณที่ลดน้อยลง อันนี้ก็เป็น เป็นใจสำคัญและเป็นความท้าทายให้กับทีมทางฝ่ายบริหารเราเนี่ย ได้พัฒนาแล้วก็ปรับปรุงรวมถึง อ่าทางแก้ไขหาทางรับมือเพื่อให้บริษัทมีรายได้ที่โตมากขึ้นเติบโตมากขึ้น มีผลตอบแทนที่ดีขึ้นครับ เพื่อตอบสนองนโยบายที่ว่าเราจะต้องเติบโตอย่างยั่งยืน แล้วก็มีผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นครับ ก็ในตอนนี้ก็ดูแล้วไม่มีคำถามเลยเพิ่มเติมนะครับ ผมขออนุญาตขอบคุณนะครับผู้ที่รับฟังแล้วก็รับชมทุกท่าน ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ

**สรุป:** จากการประชุม Oppday ของ UREKA ในปี 2568 พบว่าบริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ผันผวนและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายรายได้รวม 300 ล้านบาท จากธุรกิจน้ำประปาและเม็ดพลาสติกรีไซเคิล แม้ว่าธุรกิจเม็ดพลาสติกอาจได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดด้านวัตถุดิบ แต่บริษัทก็พร้อมที่จะปรับกลยุทธ์และบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรักษาผลกำไรให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

**ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** เริ่มต้น นาทีที่ 43:09

  1. แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568
    • ผู้บริหารตอบ: ตั้งเป้าไม่น้อยกว่าไตรมาส 2/2567 แม้จะมีความท้าทายจากนโยบายสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อลูกค้าในจีน แต่คาดหวังว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะช่วยให้มีการเรียกวัตถุดิบมากขึ้น
  2. เป้ารายได้รวมปี 2568
    • ผู้บริหารตอบ: ตั้งเป้ารายได้รวม 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 122 ล้านบาทจากธุรกิจน้ำประปา และ 173 ล้านบาทจากธุรกิจเม็ดพลาสติก

โพสต์ล่าสุด