บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SYNEX เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568: โอกาสและความท้าทายในโลกไอทีที่เปลี่ยนแปลง
P/E 11.54 YIELD 4.47 ราคา 9.85 (0.00%)
SYNEX เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568: โอกาสและความท้าทายในโลกไอทีที่เปลี่ยนแปลง
สวัสดีนักลงทุนและผู้ให้ความสนใจทุกท่าน วันนี้ผมปัญญา ปูรณพุ่มพลศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด และคุณณัฏฐ์นิชา สุรณิกร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี จะมาให้ข้อมูลใน opportunity day ของ SYNEX ประจำไตรมาส 1 ปี 2568
SYNEX ดำเนินการภายใต้กติกาสากล ธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด รักษา CG Score ระดับ 5 ดาว และให้ความสำคัญกับสังคม ESG อย่างต่อเนื่อง ได้รับรางวัล ESG ระดับ 2 Double A และมีโครงการปลูกฝังเรื่องดีๆ ให้กับสังคมและพนักงานอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้การบริหารงานของ SYNEX ในฐานะ Distributor ปัจจุบันมีสินค้าจัดจำหน่ายมากกว่า 70 แบรนด์ บริหารงานภายใต้ 6 Business Unit ได้แก่ IT Consumer, Apple Business, Smartphone & Wearable, Gaming, IT Commercial และ Enterprise มีการปรับเปลี่ยน Business BU จาก 4 เป็น 6 เพื่อโฟกัสในเชิงธุรกิจได้ดีขึ้น
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
Performance ประจำไตรมาส 1 ปี 2568 เริ่มจาก Financial Result: Revenue เติบโตขึ้น 16% Gross Profit เติบโตขึ้น 5% ค่าใช้จ่าย (SG&A) เติบโตเพียง 8% ส่งผลให้ Net Profit เติบโตขึ้นจากปีที่แล้วถึง 23%
สัดส่วนการขายในช่วง Q1 มักเป็น Q ที่น่าสนใจของธุรกิจ IT โดยเฉพาะสินค้าใหม่ที่มักจะออกในช่วงต้นปี และปีนี้มีนโยบายช่วยเหลือสนับสนุนเศรษฐกิจจากรัฐบาลในส่วนของ E-Tax Invoice ทำให้ภาพรวมของธุรกิจเติบโตขึ้น
ในเชิงรายละเอียด: สัดส่วนการขาย 36% เป็นธุรกิจ Apple ในภาพรวม Q4 จะมีสินค้า Smartphone ออกใหม่ของ Apple (iPhone) ใน Q1 ทุกอย่างกลับมา Balance ในเชิง Portfolio ได้อย่าง Healthy: Apple อยู่ 36% Consumer ตลาดมีการถดถอยลงจากภาวะเศรษฐกิจ แต่อัตราการถดถอยลดลง ปัจจุบันใกล้ที่จะพา กับปีที่แล้ว
Smartphone และ Wearable เติบโตขึ้นค่อนข้างดีมาก ด้วยสินค้าใหม่ เทรนด์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้ BU นี้เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ พยายาม Balance Portfolio เพื่อ Maintain Profit และ Value Added Distributor ในภาพ Enterprise และ Commercial: ถึงแม้ขนาดธุรกิจเติบโตขึ้น 16% ใน Q ที่ผ่านมา แต่การทำสินค้าที่มีกำไร (Solution) ก็เติบโตตามขึ้นไปด้วย ทำให้สัดส่วน Revenue ยัง Maintain อยู่เกือบ 20%
- Apple: ไม่ได้ขายเฉพาะ iPhone ขายสินค้า Apple ครบวงจร (All Line Up) ตั้งแต่ Apple, Mac, Mac Business จนถึง Accessory ต่างๆ เติบโตขึ้น 17% ใน BU นี้ ปัจจัยหลัก: การเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น iPad A16, Air7, MacBook (Chipset ใหม่ M4)
- Smartphone & Wearable: เติบโต 83%
- IT Consumer: Demand โดยภาพรวม Slow Down เล็กน้อย (-3%) เนื่องจากสินค้าในกลุ่ม Printing Demand ลดน้อยลงจาก Digitalization แต่ DIY Market (Flash Business, VGA Card, CPU) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เจอภาวะ Product Shortage ในระดับหนึ่ง
- PC: ปีนี้จะเป็นปี Big Refresh ของธุรกิจ PC เนื่องจากมีการเปลี่ยนจาก Windows 10 เป็น 11 เติบโตขึ้นถึง 10% Storage (SSD) จะมีผลจาก AI คนจะ Generate Data มากขึ้น SSD เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 33% Compute Unit (GPU ที่มี NPU ข้างใน) เติบโตขึ้น 6%
- Gaming: Q over Q Decline เล็กน้อย เนื่องจาก Nintendo มีการประกาศสินค้าใหม่ตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เกิด Demand ชะลอตัว (-18%) การมาของ Series 2 น่าจะตื่นเต้น (จะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติม) Gadget เติบโตขึ้น 85% สินค้าหลักๆ เป็น Lifestyle
- Commercial: มีสัดส่วนอยู่ 12% เติบโตขึ้น 19% จาก Q ที่ผ่านมา ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของ Surveillance และ Commercial Display อย่างต่อเนื่อง Networking: การมาของ 5G เริ่มมีบทบาทมากขึ้น สินค้า Portable Networking (กลุ่มที่ขับเคลื่อนด้วย 5G) ขายดีมากๆ
- Enterprise Solution: เติบโตขึ้น 9% กลุ่มสินค้าที่ขับเคลื่อนได้ดี: Software (Autodesk เติบโตขึ้น 112%) Highlight: ธุรกิจ Cloud เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น Government Project ยัง Challenge อยู่ แต่เริ่มเห็น Pipeline ที่มีนัยยะสำคัญในปีนี้
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การอัพเกรด Big Refresh จะส่งผลให้ Commercial PC เติบโตขึ้น 35% ใน Q ที่ผ่านมา
- สินค้าในกลุ่ม Commercial หลังจากปรับกลยุทธ์ และขาย Solution มากขึ้น ทำให้ Profit Margin Improve ขึ้น
- การแยก Commercial Display ออกมาโฟกัส ยังมีการเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว ถึงแม้มีการชะลอตัวในการลงทุนใน Outdoor Advertisement เติบโตขึ้น 13%
- การมาของ 5G ทำให้ Portable Networking ขายดีมาก
- การเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของ Autodesk ทำให้ Q over Q เติบโต 26%
- การเปิดตัว Nintendo Store By Synex เมื่อตอนเดือน November
- Cloud AWS Service
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- ภาวะ Product Shortage ในกลุ่ม DIY Market (Flash Business, VGA Card, CPU)
- Demand ชะลอตัวในกลุ่ม Gaming เนื่องจาก Nintendo ประกาศสินค้าใหม่ตั้งแต่ปีที่แล้ว
- Government Project ยัง Challenge อยู่ ถึงแม้เริ่มเห็น Pipeline ที่มีนัยยะสำคัญในปีนี้แล้ว
- ความกังวลในภาพของธุรกิจ Construction กลุ่ม Developer ต่างๆ มีการชะลอตัวลง
- การชะลอตัวในการลงทุนใน Outdoor Advertisement ในกลุ่ม Commercial Display
- เทคโนโลยี Disrupt ค่อนข้างเร็ว ต้องเตรียมรับมือกับการตอบรับในเชิง Digital Disruption จากการมาของ AI
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- ขยาย Vendor และ Line Up ต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหา Product Shortage
- ปั้นช่าง สร้างอาชีพ: เสริมหาอาชีพให้น้องๆ กลุ่มอาชีวะ มีความรู้ มีงานทำหลังจบการศึกษา
- ทำธุรกิจต้นน้ำยันปลายน้ำ: นำเข้าสินค้าจนถึงเลิกใช้งาน (E-Waste)
- จัด Activity สร้างความรับรู้ในการทำงานของ Commercial Enterprise
- ลงทุนในเชิงสร้างการรับรู้: Technology Showcase ที่สำนักงานใหญ่
- นำ AI Technology มาใช้ในการปรับปรุงการทำงานภายใน เพื่อให้มีการบริหารงานต้นทุนที่ดีขึ้น
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- ปี 2568: Crafting A Smarter Future
- Strategic Direction: High Profit Margin Product
- สร้าง Net Profit: ต้นทุนดีขึ้น บริหารงาน Efficiency
- โฟกัสสินค้า Commercial & Enterprise (GP สูงกว่า)
- ทำงานแบบ Full Service Distributor: เป็น Marketing Arm และ Fulfillment Partner
- Optimization Operation: บริหาร Cash Flow ให้ Efficiency
- Align Portfolio กับ Market Trend: AI
- Catch Up Trend: IT Replacement Cycle, Infrastructure (Data Center, งาน Infra)
- ปีนี้ เป็นปีที่ประกาศข่าวดีตั้งแต่ต้นปี: Cloud AWS
- Huawei: เปิดตัวสินค้าใหม่ Watch Fit 4 Pro
- Honor: วางแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ Honor Series 400 (โทรศัพท์ Mid-Range มากความสามารถ มาพร้อม Function AI)
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 42.27]
- ยอดขายมือถือที่สูงใน Q1 เกิดจากสัดส่วนอะไร:
Q1 เติบโตในธุรกิจ Smartphone & Wearable ถึง 85% ในภาพ Apple เติบโต 17% ในภาพ Smartphone มี 2 ส่วน: Samsung และ Honor (เปิดตัวใหม่) ส่วนที่เติบโตอย่างรุนแรงคือ Wearable เติบโตขึ้นหนึ่งเท่าตัว
- มองไปใน 1-3 ปีข้างหน้า บริษัทกังวลอะไร:
เทคโนโลยี Disrupt ค่อนข้างเร็ว มอง Time Frame ในการบริหารจัดการอยู่ที่ 3 เดือน, 6 เดือน, 9 เดือน และ 1 ปี ต้องวางแผนเตรียมรับมือกับ Digital Disruption (AI) ทุกองค์กรจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในการอยู่ ณ ปัจจุบัน ทำงานใกล้ชิดกับผู้ผลิต และนำเทคโนโลยีดีๆ มาให้ประชาชนชาวไทย
- Quater to date ยอดขายเป็นอย่างไรบ้าง:
ภาพ Consumer มีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ SYNEX มีสินค้าที่ Leverage ใน Consumer ค่อนข้างหลากหลาย ทำให้ Demand ในภาพ Q2 ยังคงแข็งแรง ถ้าเทียบจากปีที่แล้ว (คงจะตอบได้ประมาณนี้) ยัง Positive ค่อนข้างมาก เป็นไปตามแผนที่วางไว้
- บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ:
- เพิ่ม Portfolio ในกลุ่มสินค้าที่มีกำไร
- Efficiency ของการบริหารงานในเชิง Cost ให้ Efficiency ที่สุด
- ขยายตัวสินค้าในภาพที่จับ Trend ไปกับ Market + สร้าง Target Group ใหม่ๆ ในแต่ละ Vertical
- ยอดหนี้คงค้างเกิน 12 เดือนยังสูงอยู่ เป็นเพราะงานอะไร จะลดได้เมื่อไหร่ ตั้งสำรองหนี้ครบไปแล้วหรือยัง:
ส่วนใหญ่เป็นงาน Project ที่ยังค้างอยู่ มีการ Monitor, วาง Collateral และตั้งสำรองหนี้อย่างครบถ้วนแล้ว ยังคงติดตามอยู่ หนี้ก้อนใหม่มีการออก Policy Review Credit Limit & Credit Term ใหม่
- สินค้าคงเหลือค่อนข้างสูง ไตรมาสล่าสุด มีลูกหนี้เพิ่มขึ้นในส่วน 12 เดือน 640 ล้านบาท เกิดจากสินค้าอะไร:
Inventory คงค้างมากกว่าช่วงปิดปี 640 ล้านบาท เป็นสินค้าอะไร ไตรมาสนี้ควบคุมให้ลดลงได้หรือไม่
- เกี่ยวกับเรื่องลูกหนี้ที่เกิน 12 เดือน:
ทางบริษัทเราก็มีการ Monitor ส่วนใหญ่จะเป็นพวกงาน Project นะค่ะที่ยังค้างอยู่ อย่างไรก็ตามลูกหนี้ที่เกิน 300 ที่เกิน 12 เดือน น่ะค่ะ เราก็มีการให้ให้ให้มีการติดตามแล้วก็รวมถึงการวาง Collateral รวม ถึงการตั้งสำรองหนี้นะคะอย่างครบถ้วนแล้วอ่ะค่ะ แล้วก็อย่างไรก็ตามเราก็ยังมีการติดตามอยู่ส่วนหนี้ที่เป็นหนี้ก้อนใหม่นะ คะเราก็มีการออก Policy อ่ะค่ะ ให้มีการอ่า มีการรีวิวพวก เครดิต ลิมิตแล้วก็เครดิตเทอมใหม่รวมถึงถ้าถ้าเรามาดูในพอร์ตของลูกหนี้นะ คะถ้าลูกหนี้ของ Q 1 เทียบกับ year end ที่ผ่านมาค่ะจะเห็นว่ายอดหนี้ที่เกิน 9 เดือนอ่ะค่ะ ของเราจนถึง 12 เดือนนะคะก็คือมีการปรับหนี้ที่ลดลงนะคะก็จะเห็นว่ามันมีภาพที่ Healthy มากขึ้นค่ะส่วนของเรื่องของ inventory ที่เกินขึ้นมานะคะ
- ถ้าในภาพของ Inventory:
ณ ตอนสิ้นปีโดยพื้นฐานปกติ Inventory จะค่อนข้างบาง เนื่องจาก Vendor หลายรายไม่ได้ส่งของในช่วงสิ้นปี เพื่อ Refresh Product Line Up ใหม่ๆ ในแต่ละช่วง อันนี้ก็ถือว่ากลับมาอยู่ใน Trend ปกติ Line ของเรา ในส่วนของการบริหารสินค้าคงคลัง สิ่งที่สำคัญคือ บริหารสินค้าคงคลังอย่างไรให้สอดคล้องกับยอดขายที่เกิดขึ้น มี Key Measurement วัดอยู่ในองค์กร ถ้าเทียบเป็น Day Sale ก็ยังถือว่าบริหารได้ค่อนข้าง Healthy ดี ในภาพ Q1 ที่ผ่านมา
- บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ:
- เพิ่ม Portfolio ในกลุ่มสินค้าที่มีกำไร
- Efficiency ของการบริหารงานในเชิง Cost ให้ Efficiency ที่สุด
- ขยายตัวสินค้าในภาพที่จับ Trend ไปกับ Market + สร้าง Target Group ใหม่ๆ ในแต่ละ Vertical
- สอบถามตัวเลข ROIC กับ WACC:
เดี๋ยวให้ CFO ทำการคำนวณ แล้วแจ้งผ่าน ir@synnex.co.th อีกที
- Huawei Honor เราเป็น Exclusive เจ้าใหญ่อย่าง True AS Com7 Advice แบบนี้ไปซื้อตรงไหม:
ปีนี้จะทำตลาดยังไงบ้าง คาดหวัง Market Share เท่าไหร่
- Huawei Honor:
เราเป็น Exclusive Distributor ของ Huawei Consumer และ Honor ซึ่งปัจจุบันทำมากกว่าการเป็น Distributor เป็น Value Added Distributor สร้าง Value ให้กับ Retailer ที่ถือว่าเป็นลูกค้าด้วย Market Share ที่วางไว้: Huawei โฟกัสในภาพตลาด Wearable และมีโทรศัพท์ Flagship เข้ามาขาย Honor โฟกัส Market Share อยู่ที่ 5% ทั้ง Huawei เอง Market Cap ค่อนข้างใหญ่มาก ถ้ามองถึงเรื่องตลาดนาฬิกา Market Share วันนี้ Huawei ถือว่าเป็น Market Share ที่เป็นตัว Smart Watch เบอร์ 1 ของเมืองไทยไปแล้ว วางแผนที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้ามาในกลุ่มสินค้า
- เป็นไปได้ไหมที่จะมี GPM เกิน 5%, Net Profit เกิน 2% Performance เราต่ำกว่าคู่แข่งมาก:
แล้วเพิ่มสินค้ากลุ่ม High Profit High High Margin ได้อย่างไร แล้วจะฝากทาง CFO คุยเรื่องตัวดอกเบี้ยจ่าย การตั้งสำรองหนี้
- GPM:
เรามี Portfolio ที่ไม่เหมือนกับคู่แข่ง Portfolio ค่อนข้าง Balance กัน ระหว่างธุรกิจ Phone, Consumer และ Value Added ที่กำลังสร้างอยู่ (Commercial Enterprise) จะใช้เวลาในระยะหนึ่งในการปรับปรุงเรื่องภาพรวมของตัว GPM ธุรกิจกลุ่ม Smartphone ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัว GPM ค่อนข้างที่จะอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก แต่สิ่งที่ตามมาคือ การบริหารค่าใช้จ่ายที่ดี GPM ไม่สูง แต่ค่า แต่ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้สูงตาม ทำให้ตัว Absolute Amount ในภาพรวมตัว Net Profit เราเราค่อนข้างดี
- แผนของ CEO หรือผู้บริหารตลอดเวลา:
เราจะปรับปรุงเรื่องของตัว GPM ได้อย่างไร คงจะเห็นในเชิงของการดำเนินงาน และเราอาจจะเอามาแชร์ให้ฟังได้เรื่อย ๆ นะครับในส่วนนี้ นะครับ
- ในส่วนของดอกเบี้ยจ่าย:
ทางบริษัทเราเองก็มีการอ่า ให้ความสำคัญกับ Cash Cycle ของกิจการของเรานะคะเพื่อที่ว่าเราจะได้บริหาร Working Cap ได้ อีกครั้งเราก็ได้รับความ ได้รับอานิสงส์จากการที่ทาง แบงค์ชาติปรับลดดอกเบี้ยลงนะคะก็จะเห็นได้ว่าใน Q 1 น่ะค่ะ ดอกเบี้ย อะดอกเบี้ยจ่ายเราก็มียอดลดลงรวมถึง อ่า อ่าจำนวนเงินกู้ยืมนะคะไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ระยะสั้นหรือว่าระยะยาวของบริษัทเราก็มีการปรับลดลงนะ คะอันนี้ก็ถือว่าในภาพ อ่าดอกเบี้ยจ่ายเนี่ย มีแนวโน้มว่าในอนาคตก็จะลดลงตาม Performance ในการที่เรา Monitor เรื่อง Cash Cycle มากขึ้นนะคะในส่วนของการ อ่าสำรองของลูกหนี้นะคะสำรองของลูกหนี้ใน पीरियड นี้ก็ไม่ได้มีการตั้งเพิ่มขึ้นแต่ว่าเป็นการตั้งเพิ่มตาม ECL ก็คืออ่ายอดขายเราเพิ่มขึ้นลูกหนี้เราเพิ่มขึ้นเราก็มีการตั้งสำรองตาม ECL ค่ะ
- ไตรมาส 1 รายได้และกำไรของ SYNEX เติบโตดีกว่าคู่แข่งค่อนข้างมาก การวิเคราะห์ของผู้บริหารพอทราบไหมว่าเกิดจากกลยุทธ์อะไร สินค้าใหม่อะไรเป็นพิเศษ:
Product Mix เราค่อนข้าง Healthy ธุรกิจ IT ในแต่ละ Segment ไม่ได้มีการเติบโตตลอดเวลา บาง Product Segment ขึ้น บาง Product Segment ลง สิ่งที่ยังแข็งแรงของ SYNEX คือ ความ Variety ของตัวสินค้า กับตัวสินค้าที่เรามี เราเองมีสินค้าที่อยู่ในกลุ่มที่เป็น Exclusive Distributor ค่อนข้างเยอะและหลากหลาย ทำให้เราเองก็มีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนในเชิงของการเข้าไปในตลาดใหม่ๆ มากยิ่งขึ้นด้วย
- ไตรมาส 1 ของเรา:
การเติบโตมาจากหลายปัจจัย เพิ่มสินค้าใหม่ Channel ใหม่ กลยุทธ์การขายในเชิงของการเอา Marketing เข้ามาขับเคลื่อนเพื่อสร้าง Value Added ให้เรา บวกกับการหาสินค้าใหม่ ๆ ที่เสริม Value Added สร้าง Portfolio ในเชิง เติมเต็มการทำเป็น Number One IT Ecosystem ได้อย่างต่อเนื่อง
- มุมมองของภาษี:
เรามี Assessment ในภาพของภายในอย่างต่อเนื่องในเชิงของ สิ่งที่จะกระทบ และเกิดขึ้น เรามีการพูดคุยกับ Vendor โดย ณ ปัจจุบันเอง เรายังไม่ได้เห็นเรื่องของการกระทบของภาษีของ สหรัฐอเมริกาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ได้มีอะไรเป็นนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่เป็น Apple เอง เราก็พูดคุยกับ Apple ค่อนข้างใกล้ชิด ยังไม่ได้มี Movement อะไร ซึ่งวันนี้เองคงต้องจับตาในรายวันรายอาทิตย์รายเดือนกันทีเดียว เพราะว่าเนื่องจากว่า Policy ก็ยังไม่ได้นิ่งขนาดนั้น
- ช่วยอัพเดทเรื่องตัว Switch 2:
ราคาขายวันเปิดจอง บอกไปแล้วว่าวันขายวันแรก On Shelf วันที่ 26 ส่วนราคาเนี่ยกับวันที่เปิดจองเนี่ยจะประกาศเร็วๆ นี้ จะมีช่วง Pre-Order Period เราเองวางแผนที่จะทำ Media Launching Event เนี่ยประมาณช่วงกลางเดือน 6 หรือประมาณสัก Week ที่ 3 ของเดือน 6 ซึ่งจะเป็นวันที่ก่อนวันวางขายอย่างเป็นทางการสักเล็กน้อย
- เป้า รายได้และกำไรปีนี้ยังเป็นเหมือนเดิมไหม:
ยังคงให้เป้าการทำรายได้ไว้ตามที่เคยให้ข่าวไว้ ประมาณ 40,000 กลางๆ ล้าน (4 หมื่นกว่าล้าน) เป็นสิ่งที่เราให้ข่าวไว้คงยังเป็น ยังเป็นสิ่งที่เราคิดว่าเรายังเป็นไปได้ และทำได้ค่อนข้างได้แน่นอน
- แนวโน้มลูกหนี้ค้างชำระมากกว่า 12 เดือนเป็นอย่างไร:
อันนี้คุณหญิงน่าจะตอบไปแล้ว
โดยสรุป SYNEX ยังคงรักษาการเติบโตและผลกำไรได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568 แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน การขยายตลาดในกลุ่มสินค้าที่มีกำไร และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรและลูกค้า เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดไอทีของประเทศไทย