บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MICRO Oppday Q1/2568 : ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจซบเซา สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.87 (0.00%)
MICRO Oppday Q1/2568 : ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจซบเซา สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
สวัสดีและขอต้อนรับนักลงทุนทุกท่าน บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด มหาชน (MICRO) จะมานำเสนอผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรก ปี 2568 โดยมีหัวข้อการนำเสนอ 5 หัวข้อดังนี้:
- ภาพรวมของบริษัท
- ภาพรวมอุตสาหกรรม
- สถานะทางการเงินของบริษัท
- การดำเนินงานของบริษัทในปีนี้
- ช่วงถาม-ตอบ (Q&A)
บริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง, สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่, สินเชื่อส่วนบุคคล และบริการนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต
สัดส่วนของสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกมือสอง (75%) รองลงมาคือสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ (23%) และสินเชื่อส่วนบุคคล (2%)
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีการควบรวมพื้นที่สาขาทั้งสิ้น 13 สาขา, ชีส เรตติ้ง มีการดาวน์เกรดตัวอันดับเครดิตเรตติ้งอยู่ที่ดับเบิล B สเตเบิล, จ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนจำนวน 3 รุ่น มูลค่า 1,083 ล้านบาท และออกหุ้นกู้ใหม่เพิ่มเติม 169.6 ล้านบาท ได้รับรางวัลการจัดอันดับตัว SET ESG Rating อยู่ที่ทริปเปิล B
ในเดือนมกราคม 2568 ชีท เรตติ้งมีการปรับมุมมองจาก Stable เป็น Negative ของบริษัทไมโครเวฟ เนื่องจากภาพอุตสาหกรรมมีทิศทางในเชิงลบ และในเดือนเมษายนมีการคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนจำนวน 478 ล้านบาท และออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพิ่มเติมให้กับผู้ลงทุนเดิม 123 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจของบริษัทประกอบด้วย:
- บริษัท ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง
- บริษัท ไมโครอินโช โบรกเกอร์ ให้บริการนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต
- บริษัท ไมโครฟิน ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล
- บริษัทร่วมทุน ไมโครพลัส ลิสซิ่ง ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่
บริษัทได้รับรางวัล SET ESG Rating ระดับ Triple B, รางวัล SET IR Award Outstanding IR Award, การประเมินคุณภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลในระดับ 4 ดาว และคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในระดับคะแนนเต็มร้อย
พอร์ตสินเชื่อของบริษัทประกอบไปด้วยรถยี่ห้อ Isuzu (37.8%), Hino (37%), Fuso (2.7%), ส่วนหางลาก (5.7%), และรถมอเตอร์ไซค์ (23.8%) ส่วนประเภทรถที่รับส่วนใหญ่จะเป็นรถ 6 ล้อ, 10 ล้อ, 12 ล้อ, หัวลาก, หางลาก และรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ทั้งหมด
พอร์ตสินเชื่อ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 3,119 ล้านบาท โดยอายุรถที่รับ รถบรรทุกอยู่ที่ 6-25 ปี (เฉลี่ย 15 ปี) และมอเตอร์ไซค์เป็นรถใหม่ทั้งหมด อัตราดอกเบี้ยรถบรรทุกอยู่ที่ 8-15% และมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ 11-13% ระยะเวลาผ่อนชำระรถบรรทุก 4-5 ปี และมอเตอร์ไซค์ 2-4 ปี
LTV รถบรรทุกอยู่ที่ 70-85% และมอเตอร์ไซค์ 100% มูลค่าต่อสัญญารถบรรทุกอยู่ที่ 730,000 บาท และมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ 63,000 บาท
Loan Port ปัจจุบันอยู่ที่ 58.7 ล้านบาท แบ่งเป็น Clean Loan (46.6 ล้านบาท) และ Title Loan (12.1 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ย Clean Loan 25% และ Title Loan 24% ระยะเวลาผ่อนชำระ Clean Loan 1-4 ปี และ Title Loan 2-5 ปี มูลค่าต่อสัญญา Clean Loan อยู่ที่ 240,000 บาท และ Title Loan อยู่ที่ 400,000 บาท
พื้นที่การให้บริการ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 12 สาขา หลังจากการควบรวมพื้นที่สาขา โดย Micro Plus ใช้พื้นที่รวมกับ Micro Leasing จำนวน 7 สาขา
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
บริษัทมองเห็นโอกาสในการรักษาคุณภาพของพอร์ตและโฟกัสในคุณภาพหนี้ใหม่ รวมถึงการบริหารจัดการในฝั่งของ Credit Cost ให้ลดลง
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ข้อมูลจากกรมการขนส่งแสดงให้เห็นว่าข้อมูลการโอนรถมีแนวโน้มที่ลดลงเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจ Market Share ของบริษัทอยู่ที่ 1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็ลดลง
มูลค่าของการโอนรถมอเตอร์ไซค์ใหม่อยู่ที่ 500,000 คัน เทียบเคียงกับปีที่แล้ว Market Share ของบริษัทอยู่ที่ 0.2% มูลค่าการโอนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บริษัทจึงยังคงนโยบายในการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออยู่
สัดส่วนการโอนรถมอเตอร์ไซค์ใหม่อยู่ที่ 500,000 คัน ใกล้เคียงเดิมกับปีที่แล้ว บริษัทมีการปล่อยรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ไปทั้งหมด 1,129 คัน
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมีแผนการดำเนินงานของธุรกิจในปี 2568 โดยมีเป้าหมายหลักคือการบริหารสภาพคล่อง โดยตั้งเป้าจ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระอีก 2 รุ่น มูลค่า 572 ล้านบาท
ปัจจุบันมีเงินสดในมือ 300 ล้านบาท และมีวงเงินที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีก 629 ล้านบาท สัดส่วน DE เหลือไม่ถึง 1 เท่า และจ่ายคืนหุ้นกู้ไปแล้วในเดือนเมษายน จำนวน 478.9 ล้านบาท
บริษัทยังคงนโยบายในการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด เพื่อคัดกรองคุณภาพหนี้ใหม่ และจะยังรักษาคุณภาพของพอร์ตและโฟกัสในคุณภาพหนี้ใหม่ รวมถึงบริหารจัดการ Credit Cost ให้ลดลง บริหารจัดการรถยึด และบริหารประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายใน
บริษัทมีการควบรวมพื้นที่สาขา, ปรับโครงสร้างหนี้, rotate พนักงานให้ทำงานได้มากกว่า 1 ความรับผิดชอบ และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่ยังมีความจำเป็น รวมถึงปรับ rotate พนักงานภายใน ควบรวมหน่วยงาน และอนุมัติเข้ามาที่ส่วนกลางจากสาขา
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 4,222 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วเนื่องจากการหดตัวของลูกหนี้ หนี้สินลดลงเนื่องจากการคืนเงินที่ครบกำหนดชำระคืนและหุ้นกู้ที่ครบกำหนด DE ลดลงอยู่ที่ 1.1 เท่า NPL ลดลงอยู่ที่ 4.24%
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มขนส่ง (56.6%), กลุ่มก่อสร้าง (23.3%) และกลุ่มเกษตร (15.3%) ส่วนลูกค้ารถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่เป็นพนักงานประจำ (37.8%), ภาคการเกษตร (29.9%) และพ่อค้าแม่ค้า (16.2%)
บริษัทมีการบริหารจัดการ NPL อย่างต่อเนื่อง ทำให้ NPL ลดลง รวมถึง NPA ที่ลดลงมาอยู่ที่ 5.18% คุณภาพของหลักประกันส่วนใหญ่เป็นรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ และรถบรรทุกอายุ 11-15 ปี และ 16-20 ปี โครงสร้างการถือหุ้นส่วนใหญ่เป็น Strategic Shareholder (66%) และ Free Float (33.9%)
รายได้รวมลดลงเนื่องจากปล่อยสินเชื่อน้อยลง แต่มีการควบคุมค่าใช้จ่าย ทำให้กำไรปรับขึ้นมาเป็นบวก โครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากดอกเบี้ย (80%) และค่าธรรมเนียม (18%) ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายพนักงาน (59%)
สัดส่วน DE ลดลงเหลือ 1.1 เท่า เนื่องจากมีการคืนเงินกู้และหุ้นกู้ที่ครบกำหนด คุณภาพหนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าดีชำระปกติ (73%) บริษัทพยายามติดตามลูกหนี้ใน Stage 2 และ 3 อย่างใกล้ชิด Loan Yield ยังคงใกล้เคียงเดิม (16.4%) Nim ยังคงเดิม (12.2%) ต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลงอยู่ที่ 6% Cost to Income ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 54%
บริษัทพยายามบริหารจัดการ Credit Cost ทำให้ลดลงมาเหลือ 11.3% ในไตรมาสแรก และมีผลกำไรดีดขึ้นมาเป็นบวก
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 26:35]
- **สถานการณ์รถยึดของ MICRO PLUS และ MICRO:**
- ในช่วงไตรมาส 3 ปีที่แล้ว มีการยึดรถบรรทุกสูงสุด 120 คันต่อเดือน
- รถมอเตอร์ไซค์มีการยึดมากสุดในช่วงปี 2566 ประมาณ 100 คันต่อเดือน
- ปี 2567 รถจักรยานยนต์ MICRO PLUS มีกำไรทุกเดือน ยึดประมาณ 40 คันต่อเดือน
- ปี 2568 ยึดรถจักรยานยนต์ 20-30 คันต่อเดือน
- รถบรรทุกยึดสูงสุดไตรมาส 3 ปีที่แล้ว 100-120 คันต่อเดือน
- ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ยึด 60-70 คันต่อเดือน ขายออก 100 คันต่อเดือน
- ไตรมาส 1 ปีนี้ จำนวนยึดและการขายลดลง
- NPL 4.24%, มี NPA อยู่ 0.9% ของพอร์ต
- ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มียึด 70 คัน
- เดือนพฤษภาคม ยึดไม่เกิน 20 คัน
- Micro เป็นคนแรกที่เห็นผลขาดทุนเร็วในกลุ่มไฟแนนซ์
- คุณภาพลูกค้ากลุ่ม Micro เป็นกลุ่มรายย่อยและ Underbank
- ปรับตัวเร็วในการคัดกรองคุณภาพ
- จำนวนรถยึดเยอะ แต่ปรับกระบวนการและบริหารจัดการดีขึ้น
- เน้นลดจำนวนการปล่อยสินเชื่อ
- รถที่ปล่อยสินเชื่อปี 2564 คุณภาพดีกว่าปี 2562-2563
- การค้างชำระของลูกค้าระยะหลังลดลง
- NPL ลดลง
- รถยึดทยอยน้อยลง
- ปัจจุบันมียึดในลานจอดไม่เกิน 50 คัน
- คุณภาพพอร์ตดีขึ้น
- **จำนวนสาขา:**
- ปีนี้มี 12 สาขา ไม่มีการควบรวมเพิ่ม
- **เป้าการเติบโตสินเชื่อ:**
- ไม่ได้พูดถึงการเติบโตมากนัก
- Micro ยังเป็นพอร์ตสินเชื่อที่ลดลง
- ลูกค้าเข้ามาไม่ได้ลดลงมากนัก
- ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรถบรรทุก 400-500 ล้านบาท
- รถมอเตอร์ไซค์ปล่อย 400 ล้านบาท
- ขอเน้นเรื่องคุณภาพก่อน
- เน้นเรื่องสภาพคล่อง
- แสดงให้เห็นการคืนหุ้นกู้รอบที่ผ่านมา
- การออกหุ้นกู้ใหม่ยากลำบาก
- ควบคุมสภาพคล่องให้คืนหุ้นกู้ได้
- ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อ 10-20%
- ดูสถานการณ์ก่อน
- **การออกหุ้นกู้:**
- ออกได้ 123 ล้านบาท
- ปีที่แล้วออกได้ 670 ล้านบาท
- งบปีมี Loss 153 ล้านบาท นักลงทุนกังวล
- เน้นสภาพคล่องก่อน
- เป้าปล่อยรถบรรทุก 40 ล้านบาท
- เป้ารถมอเตอร์ไซค์ 4-50 ล้านบาท
- มี Cash คงเหลือ
- เครดิตไลน์กับธนาคารดีขึ้น
- **ต้นทุนทางการเงิน:**
- แนวโน้มลดลงแน่นอน
- ไตรมาส 1 ยังไม่ลด เพราะยังไม่ได้คืนหุ้นกู้
- การมีสภาพคล่องดี แต่มีต้นทุนในการถือเงินสด
- การออกหุ้นกู้ กู้เงินใหม่กับธนาคารยาก
- เน้นสภาพคล่องเป็นหลัก
- มีเงินคืนแน่นอน
- ไม่มีผิดนัดชำระหนี้
- ต้นทุนถือเงินสูง เมื่อเทียบกับสินเชื่อ
- ดอกเบี้ยทิ้ง 20 กว่าล้านบาท
- ปลดดอกเบี้ย ก.ย.-ต.ค.
- งบจะดีขึ้นปลายปี
- DE ค่อนข้างต่ำ
- สภาพคล่องภายนอกค่อนข้าง Conservative
- พยายามเน้นความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่อง
- กดดัน Profitability ระยะหนึ่ง
- DE ปัจจุบันเหลือ 0.9
- ถ้าคืนของปลายปีไปอีก
- อาจไม่ต้องออกหุ้นกู้
- **เศรษฐกิจซึมยาวนาน:**
- ประเมินว่ายาวอยู่แล้ว
- เน้นการรับมือและปรับตัว
- เคลียร์พอร์ตดีแล้ว
- คุมคุณภาพ
- ลด NPL
- เคลียร์รถยึด
- มีเวลาทำหลายอย่าง
- ปรับกระบวนการให้เร็วขึ้น
- เน้นสภาพคล่อง
- มองธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ยังเน้นสภาพคล่อง
- เศรษฐกิจผันผวน
- Conservative เป็นหลัก
- เตรียมพร้อมตลอด
- แย่ลงรับมือได้
- สภาพคล่องพร้อม
- ดีกลับมาก็พร้อม
- กรณีที่เศรษฐกิจดี เตรียมพร้อมกระบวนการ
- ธุรกิจไฟแนนซ์ยากตอนเศรษฐกิจแย่
- ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้บริหารจัดการง่าย
- ไม่กลัวทั้ง 2 ฝั่ง
- รับมือได้
- **แนวโน้มไตรมาส 2:**
- ภาพรวมไม่แย่ลง
- ไตรมาส 2 ยากหน่อย เพราะไตรมาส 2 ไม่ดี
- เข้า Low Season รถบรรทุก
- หน้าฝน
- วันหยุดเยอะ
- เมษาเงินหาย
- คนกลับบ้านเยอะ
- รถบรรทุกห้ามวิ่ง
- เมษายนแย่สุด
- เก็บเงินเดือนเมษายนไม่ได้
- คุณภาพไม่ไหลมาก
- NPL คุมได้
- พฤษภาคมยังไม่เต็ม 100%
- จำนวนยึดไม่เยอะ
- ภาพรวมดีขึ้น
- Credit Cost คุมได้
- Operation ใกล้เคียงเดิม
- ค่าใช้จ่ายตามหนี้ลด
- เคสตามหนี้น้อยลง
- ปรับ Outsourcing
- มีคนปล่อยสินเชื่อน้อย
- ค่าใช้จ่ายคืนหุ้นกู้ลด
- ต้นทุนทางการเงินต่ำลง
- มี Carrying Cost พอสมควร
- เมื่อเทียบรายได้ ก็ต้องลดลง
- **มาตรการรัฐ "คุณสู้เราช่วย":**
- ใช้กับบริษัทที่มี License ภายใต้ ธปท. เท่านั้น
- Micro มี Microfin ปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้เกณฑ์
- มีลูกค้าเข้าเกณฑ์คุณสู้เราช่วยแค่ 3 ราย
- เช่าซื้อไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย
- ช่วยฟรี
- ช่วยปรับโครงสร้างหนี้
- ช่วยแบบ Step Up
- ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่แค่ไหนก็ไหว
- ลูกค้าผ่อนช่วงแรกลดลง
- ช่วยคนมีงาน รอดจริง
- บทเรียนจากปี 2563-2564
- ต้องเคลียร์ให้เร็วที่สุด
- **เงินสดคงเหลือ:**
- มี 300 กว่าล้าน
- หนี้ที่ต้องชำระคืน 500 กว่าล้าน
- เมษายน 300 กว่า
- ตอนนี้ 300 กลาง
- ปล่อยสินเชื่อ 15-20 ล้าน
- Cash In 100 ล้าน
- ค่าใช้จ่ายประจำ คืนเงิน 30 ล้าน
- Cash คงเหลือ 50 ล้าน
- คืนของ ก.ย. ได้เลย
- ต.ค.เก็บอีกเดือนละ 50 ล้าน
- มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. อีก 4 เดือน
- 200 ล้าน
- คิดว่าไม่น่ามีปัญหา
- สภาพคล่องสบาย
- อาจจะต้องแลกมาด้วยสินเชื่อลด
- พยายาม Maintain
- ถ้าเบิกเงินกู้ หรือออกหุ้นกู้ช่วงปลายกันยายนได้
- มีเงินมาปล่อยสินเชื่อ
โดยสรุปแล้ว ถึงแม้ว่า MICRO จะเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทก็ยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยง การควบคุมต้นทุน และการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว และยังคงพร้อมที่จะปรับตัวและคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต