บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
EURO: สรุป OPPDAY Q1/2568 - โอกาสเติบโตในตลาด Luxury และแผนขยายธุรกิจ
P/E 8.42 YIELD 5.47 ราคา 4.02 (0.00%)
EURO: สรุป OPPDAY Q1/2568 - โอกาสเติบโตในตลาด Luxury และแผนขยายธุรกิจ
สรุป OPPDAY ของ EURO ประจำไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีผู้บริหารคือ คุณเควิน จัมบี CEO และคุณแพททิรา จันทจร CFO เข้าร่วมให้ข้อมูล โดยมีรายละเอียดดังนี้:
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- EURO เป็นตัวแทนแบรนด์ระดับโลกในด้าน Home & Living และ Lifestyle
- มีแบรนด์ที่สำคัญ เช่น "โมเทนนี่" ซึ่งมีโชว์รูมใหม่ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชีย (รองจากเซี่ยงไฮ้)
- กลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่ม Luxury ที่มี High Net Worth และ Spending Power สูง ซึ่งมี Wealth มากกว่า 50% ของประเทศ
- กลุ่มลูกค้า B2C (High Net Worth) คิดเป็น 60% ของยอดขาย และ B2B (Developer) คิดเป็น 40%
- นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Affluent ที่มีฐานะแต่ยังไม่ถูกนับในกลุ่ม High Net Worth ซึ่งบริษัทก็มี Product ให้บริการด้วย
- Mega Trends ที่ส่งผลให้กลุ่มนี้เติบโตคือ Aging Society และการ Focus on Wellness and Health
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การขยายโชว์รูมใหม่ (โมเทนนี่) ที่ทองหล่อ ซึ่งจะเปิด Q2/2569 และมีพื้นที่ขายเป็นหมื่นตารางเมตร
- การเปิดโชว์รูม เฟรตเต้ ที่ Central Embassy และ BNO ที่ Emporium และ Central Embassy
- การ Cover ทุก Stage ในการตกแต่งบ้าน ตั้งแต่ Smart Home, Lighting, Bathroom Accessories, Furniture, ไปจนถึง Accessories
- การใช้ประโยชน์จาก Mega Trends (Aging Society, Wellness) เพื่อเพิ่มยอดขาย
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- ความเสี่ยงด้าน Inventory Management เนื่องจากต้องเก็บ Stock มากขึ้นสำหรับการเปิดโชว์รูมใหม่
- ความเสี่ยงด้านการแข่งขันในตลาด Luxury และ Premium
- ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงใน Central Embassy
- ความเสี่ยงเรื่อง Wet Lease ก็ยังกระทบอยุ่ เรือบางลำเข้าท่า40-50 วัน บางลำ 60-70 วันก็มีผลกับการส่งมอบสินค้า
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การ Analyze Product Category เพื่อ Average Stock และลดการเก็บ Inventory ที่ไม่จำเป็น
- การ Monitor Delay การรับสินค้าของลูกค้า เพื่อปรับปรุง Just-in-Time Delivery
- การบริหารจัดการ Stock ให้ดีขึ้น
- การเจรจาต่อรองเรื่อง Wet Lease เพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุน
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- บริษัทตั้งเป้าให้รายได้ปี 2568 โตเป็น Double Digit จากปี 2567 โดยมีเป้าหมายรายได้ประมาณ 1,400 ล้านบาท
- บริษัทค่อนข้างมั่นใจในเป้าหมายเนื่องจากมี Backlog ที่ได้รับการ Confirm จากลูกค้าแล้วประมาณ 762 ล้านบาท (ณ เดือนมีนาคม)
- บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์ใน Segment Premium เพื่อเพิ่ม Portfolio ของบริษัท
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 21:15
- **B&O - เป้าหมายยอดขายและการขยายสาขา**
- มีแผนการขยายสาขา B&O โดยเน้นสาขาที่มี High-Performing และ Location ที่มีศักยภาพ
- เบื้องต้นอยากเปิด 2 สาขาใน CBD (Central Embassy + อีก 1 สาขาที่กำลังพิจารณา)
- เรื่อง Distribution ของสินค้าชิ้นเล็ก (หูฟัง, Portable Speakers) จะเลือก Selective มากขึ้น
- สัดส่วนรายได้ของ B&O ในปีแรกคาดว่าจะอยู่ที่ Mid Single Digit
- **ภูเก็ต - แนวโน้มและ Product Offering**
- ตลาดยังมี Positive Trend ต่อเนื่อง ทั้ง Gym และ Furniture
- มีการ Refine Product Offering ให้เหมาะสมกับคนภูเก็ต (ทั้งคนไทยและต่างชาติ)
- **การ Tackle กลุ่มลูกค้าโครงการ High-End และโรงแรมหรู**
- B2B เป็น 40% ของบริษัท และมี Sub-Segment ย่อยอีกมาก
- โรงแรมชั้นนำส่วนใหญ่ใช้ Technogym เกือบทั้งหมด
- Furniture, Home Product หลัก ๆ มาจากอสังหาริมทรัพย์ Developer ที่สร้างคอนโดขาย
- มีการ Work อย่างใกล้ชิดกับ Developer อย่างต่อเนื่อง
- **ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง (Central Embassy)**
- Traffic ลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
- Tourist ไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ แต่มีผลกระทบกับยอดขาย เฟรตเต้
- Focus on ลูกค้า Local และหวังว่า Tourist จะกลับมา
- **แผนการสร้าง Recurring Income**
- ธุรกิจไม่ได้เป็น Subscription Model แต่มี Recurring Income จาก Maintenance Agreement (Lighting Control, Home Automation, Gym Equipment)
- Explore การ Offer Operating Leases สำหรับ Gym Equipment
- **โครงการก่อสร้าง T3 - เป็นไปตามแผนหรือไม่?**
- เป็นไปตามแผน และค่อนข้างมั่นใจใน Timeline มิถุนายน 2569
- เรื่องแบรนด์ใหม่ที่จะ Add ขอเก็บไว้ก่อน แต่จะอยู่ใน Home & Living Segment
- **แนวโน้มรายได้ Q2/2568**
- Q1 น่าจะเป็น Quater ที่ต่ำที่สุดของปี
- หวังว่า Q2 และ Q3 จะดีกว่า Q1
- Wet Lease ยังมีผลกระทบอยู่
สรุปโดยรวม EURO ยังคงมีโอกาสเติบโตในตลาด Luxury และ Premium โดยมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน และมีความมั่นใจในเป้าหมายรายได้ปี 2568 อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการ เช่น Inventory Management และผลกระทบจากปัจจัยภายนอก
**หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป**- B&O - เป้าหมายยอดขายและการขยายสาขา
- ภูเก็ต - แนวโน้มและ Product Offering
- การ Tackle กลุ่มลูกค้าโครงการ High-End และโรงแรมหรู
- ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง (Central Embassy)
- แผนการสร้าง Recurring Income
- โครงการก่อสร้าง T3 - เป็นไปตามแผนหรือไม่?
- แนวโน้มรายได้ Q2/2568
โพสต์ล่าสุด
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:42 น.
AMATA: KS มองบวกปี 69 ยอดขายที่ดินพุ่ง แม้มีปัจจัยลบ
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:42 น.
STGT กำไรปี 68 เสี่ยง! กูรูหั่นเป้า เหตุแข่งเดือด
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:42 น.
HANA: KS ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2570 ราคาเป้าหมายใหม่ 17.00 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
นีโอ คอร์ปอเรท (NEO) กำไรระยะสั้นฟื้น แต่ระยะยาวน่ากังวล KSecurities ลดราคาเป้าหมายเหลือ 16.67 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
RCL กำไรแกร่งท่ามกลางแรงกดดัน! KSecurities ชี้เป้า 28.50 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
SCGP: KS มองแนวโน้มปี 68 ปรับตัวดีขึ้น คงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 33 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
MEGA: KS มองแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ปรับประมาณการกำไรขึ้น
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
PRM เตรียมขยายสู่ตลาดโลก! หยวนต้าชี้เป้าราคา 9 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
AURA: โอกาสทองคำยังคงอยู่ โบรกเกอร์ GLOBLEX ชี้เป้า 21.40 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:40 น.