EURO: สรุป OPPDAY Q1/2568 - โอกาสเติบโตในตลาด Luxury และแผนขยายธุรกิจ

P/E 8.54 YIELD 5.39 ราคา 4.08 (0.00%)

EURO: สรุป OPPDAY Q1/2568 - โอกาสเติบโตในตลาด Luxury และแผนขยายธุรกิจ

สรุป OPPDAY ของ EURO ประจำไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีผู้บริหารคือ คุณเควิน จัมบี CEO และคุณแพททิรา จันทจร CFO เข้าร่วมให้ข้อมูล โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • EURO เป็นตัวแทนแบรนด์ระดับโลกในด้าน Home & Living และ Lifestyle
  • มีแบรนด์ที่สำคัญ เช่น "โมเทนนี่" ซึ่งมีโชว์รูมใหม่ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชีย (รองจากเซี่ยงไฮ้)
  • กลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่ม Luxury ที่มี High Net Worth และ Spending Power สูง ซึ่งมี Wealth มากกว่า 50% ของประเทศ
  • กลุ่มลูกค้า B2C (High Net Worth) คิดเป็น 60% ของยอดขาย และ B2B (Developer) คิดเป็น 40%
  • นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Affluent ที่มีฐานะแต่ยังไม่ถูกนับในกลุ่ม High Net Worth ซึ่งบริษัทก็มี Product ให้บริการด้วย
  • Mega Trends ที่ส่งผลให้กลุ่มนี้เติบโตคือ Aging Society และการ Focus on Wellness and Health

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • การขยายโชว์รูมใหม่ (โมเทนนี่) ที่ทองหล่อ ซึ่งจะเปิด Q2/2569 และมีพื้นที่ขายเป็นหมื่นตารางเมตร
  • การเปิดโชว์รูม เฟรตเต้ ที่ Central Embassy และ BNO ที่ Emporium และ Central Embassy
  • การ Cover ทุก Stage ในการตกแต่งบ้าน ตั้งแต่ Smart Home, Lighting, Bathroom Accessories, Furniture, ไปจนถึง Accessories
  • การใช้ประโยชน์จาก Mega Trends (Aging Society, Wellness) เพื่อเพิ่มยอดขาย

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ความเสี่ยงด้าน Inventory Management เนื่องจากต้องเก็บ Stock มากขึ้นสำหรับการเปิดโชว์รูมใหม่
  • ความเสี่ยงด้านการแข่งขันในตลาด Luxury และ Premium
  • ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงใน Central Embassy
  • ความเสี่ยงเรื่อง Wet Lease ก็ยังกระทบอยุ่ เรือบางลำเข้าท่า40-50 วัน บางลำ 60-70 วันก็มีผลกับการส่งมอบสินค้า

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • การ Analyze Product Category เพื่อ Average Stock และลดการเก็บ Inventory ที่ไม่จำเป็น
  • การ Monitor Delay การรับสินค้าของลูกค้า เพื่อปรับปรุง Just-in-Time Delivery
  • การบริหารจัดการ Stock ให้ดีขึ้น
  • การเจรจาต่อรองเรื่อง Wet Lease เพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • บริษัทตั้งเป้าให้รายได้ปี 2568 โตเป็น Double Digit จากปี 2567 โดยมีเป้าหมายรายได้ประมาณ 1,400 ล้านบาท
  • บริษัทค่อนข้างมั่นใจในเป้าหมายเนื่องจากมี Backlog ที่ได้รับการ Confirm จากลูกค้าแล้วประมาณ 762 ล้านบาท (ณ เดือนมีนาคม)
  • บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์ใน Segment Premium เพื่อเพิ่ม Portfolio ของบริษัท

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 21:15

  1. **B&O - เป้าหมายยอดขายและการขยายสาขา**
    • มีแผนการขยายสาขา B&O โดยเน้นสาขาที่มี High-Performing และ Location ที่มีศักยภาพ
    • เบื้องต้นอยากเปิด 2 สาขาใน CBD (Central Embassy + อีก 1 สาขาที่กำลังพิจารณา)
    • เรื่อง Distribution ของสินค้าชิ้นเล็ก (หูฟัง, Portable Speakers) จะเลือก Selective มากขึ้น
    • สัดส่วนรายได้ของ B&O ในปีแรกคาดว่าจะอยู่ที่ Mid Single Digit
  2. **ภูเก็ต - แนวโน้มและ Product Offering**
    • ตลาดยังมี Positive Trend ต่อเนื่อง ทั้ง Gym และ Furniture
    • มีการ Refine Product Offering ให้เหมาะสมกับคนภูเก็ต (ทั้งคนไทยและต่างชาติ)
  3. **การ Tackle กลุ่มลูกค้าโครงการ High-End และโรงแรมหรู**
    • B2B เป็น 40% ของบริษัท และมี Sub-Segment ย่อยอีกมาก
    • โรงแรมชั้นนำส่วนใหญ่ใช้ Technogym เกือบทั้งหมด
    • Furniture, Home Product หลัก ๆ มาจากอสังหาริมทรัพย์ Developer ที่สร้างคอนโดขาย
    • มีการ Work อย่างใกล้ชิดกับ Developer อย่างต่อเนื่อง
  4. **ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง (Central Embassy)**
    • Traffic ลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
    • Tourist ไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ แต่มีผลกระทบกับยอดขาย เฟรตเต้
    • Focus on ลูกค้า Local และหวังว่า Tourist จะกลับมา
  5. **แผนการสร้าง Recurring Income**
    • ธุรกิจไม่ได้เป็น Subscription Model แต่มี Recurring Income จาก Maintenance Agreement (Lighting Control, Home Automation, Gym Equipment)
    • Explore การ Offer Operating Leases สำหรับ Gym Equipment
  6. **โครงการก่อสร้าง T3 - เป็นไปตามแผนหรือไม่?**
    • เป็นไปตามแผน และค่อนข้างมั่นใจใน Timeline มิถุนายน 2569
    • เรื่องแบรนด์ใหม่ที่จะ Add ขอเก็บไว้ก่อน แต่จะอยู่ใน Home & Living Segment
  7. **แนวโน้มรายได้ Q2/2568**
    • Q1 น่าจะเป็น Quater ที่ต่ำที่สุดของปี
    • หวังว่า Q2 และ Q3 จะดีกว่า Q1
    • Wet Lease ยังมีผลกระทบอยู่

สรุปโดยรวม EURO ยังคงมีโอกาสเติบโตในตลาด Luxury และ Premium โดยมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน และมีความมั่นใจในเป้าหมายรายได้ปี 2568 อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการ เช่น Inventory Management และผลกระทบจากปัจจัยภายนอก

**หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป**
  • B&O - เป้าหมายยอดขายและการขยายสาขา
  • ภูเก็ต - แนวโน้มและ Product Offering
  • การ Tackle กลุ่มลูกค้าโครงการ High-End และโรงแรมหรู
  • ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง (Central Embassy)
  • แผนการสร้าง Recurring Income
  • โครงการก่อสร้าง T3 - เป็นไปตามแผนหรือไม่?
  • แนวโน้มรายได้ Q2/2568

โพสต์ล่าสุด