บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
PTG กำไร Q1/68 วูบ! กูรูชี้ค่าใช้จ่ายพุ่ง ฉุดผลงาน แต่ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
P/E 12.41 YIELD 5.04 ราคา 6.95 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: Krungsri Securities (KSS) วิเคราะห์ PTG
Krungsri Securities (KSS) คาดการณ์กำไรสุทธิของ PTG ใน 1Q25F จะลดลง 33% YoY และ 24% QoQ อยู่ที่ราว 173 ล้านบาท แม้ธุรกิจน้ำมันจะฟื้นตัวตามค่าการตลาด แต่ค่าใช้จ่าย SG&A ที่เร่งตัวขึ้นจากการขยายสาขาพันธุ์ไทยและค่าสปอนเซอร์ MotoGP เป็นปัจจัยฉุดผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม KSS ยังคงคำแนะนำ "Buy" สำหรับ PTG โดยให้ราคาเป้าหมาย 10.5 บาท
รายละเอียดการวิเคราะห์: ผลกระทบต่อผลประกอบการ
KSS คาดการณ์ว่าค่าการตลาดน้ำมันใน 1Q25F จะอยู่ที่ 1.66 บาท/ลิตร (+6% YoY, flat QoQ) โดยไม่มีผลกระทบจากการปรับราคาขายได้ช้าเหมือน 1Q24 แต่ค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้นเป็น 6.4% (จาก 5.5% ใน 1Q24 และ 5.8% ใน 4Q24) ส่งผลกระทบต่อกำไร นอกจากนี้ ปริมาณการขายน้ำมันคาดว่าจะอยู่ที่ 1,660 ล้านลิตร (-3% YoY, -2% QoQ)
อย่างไรก็ตาม KSS เชื่อว่า PTG สามารถบริหารจัดการคลังน้ำมันได้ดีในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบลดลง และการที่กองทุนน้ำมันฯ ติดลบน้อยลงจะช่วยให้การปรับราคาขายทำได้ดีขึ้น หนุนค่าการตลาดให้ฟื้นตัวขึ้นเหนือ 1.7 บาท/ลิตรใน 2Q25F นอกจากนี้ KSS คาดว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H25F จากค่าการตลาดฯ ที่ฟื้นตัวเร็วขึ้นและรายได้จากพันธุ์ไทยที่เติบโตเร่งขึ้น
เหตุผลที่ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ": แนวโน้มการเติบโตในอนาคต
KSS มองว่า PTG จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของค่าการตลาดน้ำมันดีเซลใน 2H25-2026F จากแนวโน้มการแทรกแซงของรัฐที่น้อยลงหลังกองทุนน้ำมันฯ ติดลบน้อยลงและกลับเป็นบวกในช่วง 1Q26F นอกจากนี้ การขยายสาขาของพันธุ์ไทยจะช่วยหนุนรายได้ Non-oil ให้เติบโต +23% CAGR ในช่วง 2025-27F และหนุนกำไรปกติให้เติบโต +24% CAGR ในช่วงเดียวกัน
KSS ประเมินมูลค่า PTG ด้วยวิธี DCF (WACC 7%) และให้ราคาเป้าหมาย 10.5 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน 49%
ข้อสังเกต: ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องติดตาม
นักลงทุนควรติดตามความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ กฎหมายควบคุมราคาน้ำมัน, ค่าการตลาดที่ต่ำกว่าคาด, และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงกว่าคาด นอกจากนี้ ควรติดตามผลประกอบการใน 1Q25F ที่คาดว่าจะประกาศในวันที่ 13 พ.ค. 2025 เพื่อประเมินแนวโน้มการเติบโตของบริษัท