บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
FSSIA คาดการณ์กำไร MAGURO ไตรมาส 1/2568 โต 54% YoY แต่ลดลง 9.5% QoQ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 24.5 บาท
P/E 21.06 YIELD 1.31 ราคา 22.90 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ:
FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ของ MAGURO จะเติบโต 54% YoY แต่ลดลง 9.5% QoQ เนื่องจากการบริโภคที่อ่อนแอและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมายเดิมที่ 24.5 บาท
รายละเอียดการวิเคราะห์:
FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ของ MAGURO อยู่ที่ 31 ล้านบาท ลดลง 9.5% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 54% YoY ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย เนื่องจากการบริโภคโดยรวมที่อ่อนแอลง โดยคาดการณ์ว่า SSSG จะติดลบ 5.5% YoY นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายรวมจะเพิ่มขึ้น 6.7% QoQ และ 49% YoY เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ในช่วงปลายปี 2567 และการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่งในไตรมาส 1/2568 (Tonkatsu Aoki ที่ Velaa Langsuan และ Hitori ที่ Central Rama 9) รวมถึงต้นทุนการเปิดสาขา ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม FSSIA คาดการณ์ว่ารายได้รวมจะเติบโต 3% QoQ และ 39% YoY เป็นสถิติสูงสุดที่ 412 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ 14 แห่งตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 นอกจากนี้ FSSIA คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 48% จาก 47.5% ในไตรมาส 4/2567 และ 45.3% ในไตรมาส 1/2567 แม้ว่าต้นทุนปลาแซลมอนจะสูงขึ้นตามฤดูกาลก็ตาม
แผนการขยายสาขา:
MAGURO วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 4 แห่งในไตรมาส 2/2568 ได้แก่ Tonkatsu Aoki 2 แห่ง (One Bangkok และ Central Rama 2), Hitori 1 แห่ง (Central Westville) และแบรนด์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง 1 แบรนด์ ทำให้จำนวนสาขาใหม่ที่เปิดในครึ่งปีแรกของปี 2568 เป็น 6 แห่ง จากเป้าหมายทั้งปีที่ 10-13 สาขา
สรุปและคำแนะนำ:
FSSIA คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 131 ล้านบาท (+36% YoY) แม้ว่า SSSG จะอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ช่วยรักษามุมมองโดยรวมให้สอดคล้องกับประมาณการเดิม ดังนั้น FSSIA จึงคงราคาเป้าหมายที่ 24.5 บาท และคำแนะนำ "ซื้อ"
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม: การฟื้นตัวของการบริโภคที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น จำนวนสาขาใหม่ที่เปิดน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำและการขาดแคลนแรงงาน