บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: FSSIA วิเคราะห์ KCG

FSS International Investment Advisory Securities (FSSIA) คาดการณ์กำไรสุทธิของ KCG Corporation (KCG TB) ในไตรมาส 1/2568 จะยังคงแข็งแกร่ง แม้ไม่ใช่ช่วง High Season โดยคาดว่าจะเติบโต 16% YoY จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูกค้าที่สูง แม้ต้นทุนวัตถุดิบยังอยู่ในระดับสูง FSSIA คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 เติบโต 10% YoY และยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 11 บาท

รายละเอียดประมาณการ: กำไรและแนวโน้ม

FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิ Q1/2568 ที่ 116 ล้านบาท ลดลง 29.2% QoQ ตามฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 61.4% YoY หากหักรายการพิเศษ กำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 108 ล้านบาท ลดลง 34.1% QoQ และเพิ่มขึ้น 16.1% YoY คาดรายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% YoY จากความต้องการเนยชีสที่เพิ่มสูงขึ้นและการออกสินค้าใหม่ อัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับดีที่ 30.8%

สำหรับแนวโน้ม Q2/2568 ซึ่งเป็น Low Season FSSIA คาดกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท ลดลง 15% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 4% YoY จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นตามการส่งเสริมการตลาดและความต้องการบริโภคเนยชีสที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง

เหตุผลสนับสนุนการลงทุน: โอกาสและความเสี่ยง

FSSIA มองว่า KCG เป็นหุ้น Defensive จากการเป็นผู้นำตลาดเนยและชีส แนวโน้มการเติบโตของตลาดเนยและชีสต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 5-7% FSSIA คาดกำไรสุทธิปี 2568-2570 เติบโตเฉลี่ยปีละ 19% จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น การออกสินค้าใหม่ และการขยายกำลังการผลิต

ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องพิจารณาคือ ราคาวัตถุดิบที่ปรับขึ้นมากกว่าคาด, ค่าเงินบาทอ่อนค่า, และแผนการขยายกำลังผลิตที่ไม่เป็นไปตามแผน

สรุป: คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ KCG ด้วยราคาเป้าหมาย 11 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด P/E ที่ 9.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอาหาร และคาดกำไรปี 2568 จะทำ New High พร้อมทั้งให้ Dividend Yield 5.3%

วิธีคิดราคาเป้าหมาย อิงจาก P/E ที่ 12 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอาหาร